เมื่อคุณเริ่มมองหาคอนโดมิเนียมหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่คุณจะพบเสมอคือ “พื้นที่ใช้สอย” ซึ่งมักจะแสดงเป็น “ตารางเมตร” เช่น 28 ตร.ม., 35 ตร.ม., หรือ 45 ตร.ม. แต่หลายคนอาจสงสัยว่า… 1 ตารางเมตรเท่ากับกี่เมตร กันแน่? แล้วมันต่างจาก “เมตร” อย่างไร?

 

คำตอบสั้นๆ คือ 1 ตารางเมตร ≠ 1 เมตร

แต่ 1 ตารางเมตร (1 ตร.ม.) หมายถึง พื้นที่ของสี่เหลี่ยมที่มีด้านกว้าง 1 เมตร และยาว 1 เมตร
ดังนั้น 1 ตารางเมตร = 1 เมตร x 1 เมตร = 1 ตร.ม. (พื้นที่)

ไม่ใช่ความยาว แต่เป็น “ขนาดของพื้นที่” ถ้าคุณวัดเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เช่น กว้าง 1 เมตร นั่นไม่ใช่ 1 ตารางเมตรทันที เว้นแต่ว่าอีกด้านก็ต้องยาว 1 เมตรด้วยเช่นกัน

 

ทำไมต้องรู้เรื่องตารางเมตรก่อนซื้อคอนโด?

ก็เพราะคอนโดมักโฆษณาพื้นที่ เช่น สตูดิโอ 26 ตร.ม., 1 ห้องนอน 34 ตร.ม., 2 ห้องนอน 45 ตร.ม. แต่คุณจะรู้ได้ยังไงว่าขนาดนั้น “พอ” กับไลฟ์สไตล์คุณหรือไม่ ถ้าคุณไม่เข้าใจว่า 26 ตารางเมตร มีลักษณะประมาณไหน?

ลองนึกภาพห้องขนาด 5 เมตร x 5 เมตร = 25 ตารางเมตร หรือ ห้อง 6 เมตร x 4 เมตร = 24 ตารางเมตร นั่นคือห้องประมาณ 1 สตูดิโอที่พออยู่ได้คนเดียวแบบกะทัดรัด

 

เคล็ดลับการดูขนาดห้อง อย่าดูแค่ “จำนวนเมตร”

แต่ถามโครงการว่า ขนาดที่แจ้ง คือ พื้นที่ใช้สอยจริง หรือรวมพื้นที่ผนัง/ระเบียงด้วย ดูผังห้อง (Floor Plan) เพื่อรู้ว่า พื้นที่นั้นถูกแบ่งยังไง เช่น ห้องนอนเล็กแค่ไหน? ห้องครัวแคบหรือกว้าง? และอย่าลืม! ว่า… พื้นที่แนวดิ่ง (ความสูงของห้อง) ก็มีผลต่อความรู้สึก “โปร่งโล่ง” ด้วยนะ

 

วิธีคำนวณพื้นที่ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หากคุณมีผังห้องหรือไปวัดเอง ใช้สูตรนี้

 

พื้นที่ (ตารางเมตร) = ความกว้าง (เมตร) x ความยาว (เมตร)

 

เช่น ห้องกว้าง 3.5 เมตร และยาว 8 เมตร พื้นที่จะ = 3.5 x 8 = 28 ตารางเมตร

 

สรุปส่งท้าย การที่เข้าใจตารางเมตร = เข้าใจความคุ้มค่า และการรู้ว่า 1 ตารางเมตรเท่ากับกี่เมตรจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อคอนโดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ถูกหลอกด้วยขนาดเลขเยอะ หรือพื้นที่ใช้สอยที่ดูดีแต่ใช้จริงไม่ได้ ก่อนจะจองคอนโด อย่าลืม “เดินเข้าไปดูห้องจริง” ว่าขนาดที่โฆษณาไว้ ตรงกับความรู้สึกของคุณไหม?

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

การซื้อคอนโดมิเนียม ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนระยะยาวที่สำคัญของชีวิต แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ซื้อคอนโดควรดูอะไรบ้าง?ร และ เอกสาร EIA (Environmental Impact Assessment) หรือ รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าทำเลหรือราคา แล้ว EIA สำคัญแค่ไหนก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด? บทความนี้ Amber จะพาคุณไปทำความเข้าใจ พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบก่อนวางเงินจอง

 

EIA คืออะไร?

EIA (Environmental Impact Assessment) คือ รายงานที่ใช้วิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากโครงการพัฒนา เช่น อาคารสูง คอนโดมิเนียม โรงงาน หรือถนน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่หรืออยู่ในพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อม

โดยทั่วไป โครงการคอนโดมิเนียมที่มีความสูงเกิน 23 เมตร หรือพื้นที่ใช้สอยรวมเกิน 10,000 ตารางเมตร จะต้องจัดทำรายงาน EIA และได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนจะเริ่มก่อสร้าง

 

ทำไมต้องตรวจสอบ EIA ก่อนซื้อคอนโด?

  1. ความมั่นคงทางกฎหมาย

หากโครงการยังไม่ได้รับอนุมัติ EIA หรืออยู่ระหว่างรอผลอนุมัติ อาจทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก หรือถูกระงับชั่วคราว ทำให้ผู้ซื้อเสี่ยงต่อการโอนกรรมสิทธิ์ล่าช้า หรือไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ตามกำหนด

  1. ความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม

รายงาน EIA จะพิจารณาเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางเสียง, ฝุ่น, การจัดการน้ำเสีย และผลกระทบต่อชุมชน หากโครงการผ่าน EIA แปลว่าได้รับการตรวจสอบความเสี่ยงเหล่านี้อย่างละเอียดแล้ว

  1. ความโปร่งใสของผู้ประกอบการ

โครงการที่แสดงเอกสาร EIA อย่างชัดเจน และเปิดเผยต่อสาธารณะ แสดงถึงความจริงใจและการทำงานตามมาตรฐานของผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้มากขึ้น

วิธีตรวจสอบว่าโครงการคอนโดผ่าน EIA หรือไม่

 

แล้วถ้าโครงการยังไม่ผ่าน EIA ควรทำอย่างไร?

หากคุณสนใจโครงการที่ยังไม่ได้รับอนุมัติ EIA ควร หลีกเลี่ยงการวางเงินจองหรือทำสัญญา จนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันว่าโครงการผ่าน EIA แล้วจริงๆ เพราะจะช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายและความล่าช้าในอนาคต

 

สรุปส่งท้าย ซื้อคอนโดควรดูอะไรบ้าง? และ EIA สำคัญแค่ไหน ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด? EIA ไม่ใช่แค่เอกสารธรรมดา แต่เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความยั่งยืนของโครงการคอนโดที่คุณกำลังจะลงทุน ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด ควรศึกษาข้อมูล EIA อย่างรอบด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเงินที่ลงทุนไปจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่เจอปัญหาภายหลัง

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

อสังหาทรัพย์ เป็นคำที่เรามักได้ยินบ่อยในวงการลงทุนและกฎหมายทรัพย์สิน แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจชัดเจนว่าแท้จริงแล้ว “อสังหาทรัพย์” หมายถึงอะไร มีกี่ประเภท และมีความแตกต่างจาก “สังหาทรัพย์” อย่างไร บทความนี้ Amber จะพาคุณไปทำความเข้าใจในทุกแง่มุมของอสังหาทรัพย์อย่างกระชับและชัดเจน

 

อสังหาทรัพย์คืออะไร?

อสังหาทรัพย์ (Real Estate หรือ Immovable Property) หมายถึง ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หรือการเคลื่อนย้ายอาจทำให้ทรัพย์นั้นเสียหาย เช่น

อสังหาทรัพย์ จึงเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง และมักถูกใช้เป็นการลงทุนระยะยาวหรือเป็นหลักประกันในการทำธุรกรรมทางการเงิน

 

อสังหาทรัพย์มีกี่ประเภท?

อสังหาทรัพย์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้:

  1. ที่ดิน (Land) เป็นอสังหาทรัพย์พื้นฐาน ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง เช่น ที่ดินเปล่า ที่ดินเกษตรกรรม หรือที่ดินเพื่อการพัฒนา
  2. สิ่งปลูกสร้าง (Buildings) ได้แก่ บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ โรงงาน หรือโกดัง
  3. อาคารชุด (Condominium) อาคารที่แบ่งแยกกรรมสิทธิ์ออกเป็นห้องชุด โดยเจ้าของห้องมีสิทธิในพื้นที่ส่วนตัวและร่วมถือกรรมสิทธิ์ในส่วนกลาง
  4. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Real Estate) เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และรีสอร์ท

 

สังหาทรัพย์คืออะไร?

สังหาทรัพย์ (Movable Property) คือทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยไม่เสียสภาพหรือเสียหาย เช่น:

ความแตกต่างระหว่าง “อสังหาทรัพย์” กับ “สังหาทรัพย์”

อสังหาทรัพย์ เคลื่อนย้ายไม่ได้ เช่น ที่ดิน, บ้าน, อาคาร สินทรัพย์เหล่านี้ มักมีมูลค่าสูงและเพิ่มขึ้นตามเวลา ใช้เป็นทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาว แต่ต้องจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดิน

สังหาทรัพย์ เคลื่อนย้ายได้ เช่น รถยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า สินทรัพย์เหล่านี้ มูลค่าลดลงตามการใช้งาน ใช้ในการบริโภคหรือใช้สอยทั่วไป และไม่ต้องจดทะเบียน (บางกรณี)

 

สรุปส่งท้าย อสังหาทรัพย์คืออะไร ก็คือ ทรัพย์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งแตกต่างจากสังหาทรัพย์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น รถยนต์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ความเข้าใจในความแตกต่างนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนลงทุนหรือซื้อทรัพย์สินในอนาคต

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

การเลือกซื้อหรือเช่าคอนโดมิเนียมในเมืองใหญ่ หลายคนอาจต้องเจอกับกฎ ” คอนโดห้ามเลี้ยงสัตว์ ” ซึ่งทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือคนรักสัตว์ต้องปวดหัว และตั้งคำถามว่า “ทำไมถึงห้าม?” ทั้งๆ ที่สัตว์เลี้ยงบางตัวก็น่ารัก ไม่ได้ส่งเสียงดัง หรือรบกวนใคร แล้วทำไมบางคอนโดจึงมีกฎเข้มงวดแบบนี้?

ในบทความนี้ Amber จะมาอธิบายเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้หลายคอนโดมิเนียม ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ พร้อมแนวทางสำหรับคนรักสัตว์ว่าจะมีทางออกอย่างไรได้บ้าง

 

เหตุผลที่ คอนโดห้ามเลี้ยงสัตว์

  1. ป้องกันเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน

สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ สุนัข มักส่งเสียงเห่า ซึ่งอาจรบกวนเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องติดกันหรือชั้นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ต้องการความสงบ

  1. ความสะอาด และสุขอนามัยส่วนกลาง

บางครั้งเจ้าของอาจพาสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ลิฟต์ โถงทางเดิน หรือสวนส่วนกลาง ซึ่งหากไม่มีการดูแลเรื่องความสะอาด อาจเกิดกลิ่นหรือคราบสกปรก ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคอนโด

  1. ความกังวลด้านสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

มีผู้พักอาศัยบางรายที่อาจ แพ้ขนสัตว์ หรือมีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ทำให้การเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ปิดอย่างคอนโดอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อื่น

  1. ป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน

สัตว์เลี้ยงบางชนิดอาจสร้างความเสียหาย เช่น ข่วนประตู ขุดพรม หรือทำเฟอร์นิเจอร์เสียหาย โดยเฉพาะคอนโดที่มีการตกแต่งร่วม เช่น ล็อบบี้ ห้องฟิตเนส ฯลฯ

  1. การจัดการและบังคับใช้กฎ

สำหรับคอนโดขนาดใหญ่ การมีสัตว์เลี้ยงอาจทำให้การจัดการยากขึ้น เช่น ต้องมีกฎเรื่องพาเดิน การเก็บของเสีย หรือเวลาให้ออกนอกห้อง ฯลฯ ซึ่งบางคอนโดอาจเลือก “ห้ามทั้งหมด” เพื่อความง่ายในการบริหาร

 

ทางออกของคนรักสัตว์ ที่อยากอยู่คอนโด

แม้หลายคอนโด จะมีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่ก็ยังมี คอนโด Pet-Friendly หรือ คอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ โดยมักจะมีกฎระเบียบเฉพาะ เช่น

คำแนะนำ ก่อนซื้อหรือเช่าคอนโด ควรสอบถามเรื่อง “นโยบายสัตว์เลี้ยง” อย่างชัดเจน และอ่านข้อบังคับของนิติบุคคลให้ครบถ้วน

 

สรุปส่งท้าย คอนโด บางคอนโดมีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์ มักมีเหตุผลเพื่อความสงบเรียบร้อย ความสะอาด และสุขภาพของผู้อยู่อาศัยโดยรวม ซึ่งแม้จะขัดใจคนรักสัตว์ แต่ก็เป็นกฎที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

แต่หากคุณคือคนรักสัตว์ที่ต้องการมีพื้นที่อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยง ก็ยังมีทางเลือก! ปัจจุบันมีคอนโดหลายแห่งที่เข้าใจไลฟ์สไตล์นี้ และพร้อมเปิดรับสัตว์เลี้ยงภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 สัญญาณการฟื้นตัวของ ตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทย ยังคงอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด โดยข้อมูลจากหลายหน่วยงานชี้ชัดว่า ยอดโอนคอนโดลด อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่ก็ ต่ำสุดในรอบ 15 ปี ส่งผลให้ทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องเร่งปรับกลยุทธ์ เพื่อความอยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน

ยอดโอนคอนโดหดตัวหนัก ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดโอนคอนโดลดลง คือ กำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แม้ดอกเบี้ยจะเริ่มนิ่ง แต่ต้นทุนการกู้ยังสูง ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งภาวะเงินเฟ้อ ค่าแรง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้น
สถิติในไตรมาส 2/2568 ระบุว่า ยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดทั่วประเทศลดลงกว่า 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มราคากลางถึงบนที่ยอดขายตกอย่างเห็นได้ชัด

โครงการเปิดใหม่ต่ำสุดในรอบ 15 ปี ผู้ประกอบการเบรกลงทุน
ขณะเดียวกัน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลายราย ได้ปรับลดแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความกังวลต่อภาวะตลาดและความสามารถในการขายในระยะสั้น โดยข้อมูลจาก REIC (ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์) ระบุว่า จำนวนโครงการคอนโดเปิดใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2553 หลายโครงการเลือกชะลอการเปิดตัว หรือปรับเปลี่ยนไปพัฒนาแนวราบแทน เนื่องจากเห็นโอกาสในการขายและบริหารความเสี่ยงได้ง่ายกว่า

ปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตา
• ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง : แม้ไม่มีแนวโน้มขึ้น แต่การปรับลดยังไม่เกิดขึ้น ทำให้ภาระผ่อนของผู้ซื้อยังหนัก
• ซัพพลายเก่าในตลาดยังล้น : โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่
• ดีมานด์จากต่างชาติยังไม่กลับมาเต็มที่ : โดยเฉพาะตลาดจีนที่เคยเป็นลูกค้าหลักยังอยู่ในช่วงชะลอตัว

แนวโน้มต่อไป… อาจฟื้นช้าหรือเปลี่ยนโฉม?
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายประเมินว่า… ตลาดคอนโดอาจต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี กว่าจะกลับมาใกล้ระดับปกติ เนื่องจากต้องพึ่งพาปัจจัยหลายด้าน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ความมั่นใจของผู้บริโภค และการเปิดรับนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
บางเสียงมองว่า… ตลาดอาจเข้าสู่ “ภาวะเปลี่ยนโฉม” มากกว่าการ “ฟื้นแบบเดิม” โดยคอนโดในอนาคตอาจเน้นความยืดหยุ่น ฟังก์ชันใหม่ และราคาที่เข้าถึงง่ายมากขึ้น

สรุปส่งท้าย แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบจะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในบางพื้นที่ แต่ ตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2568 ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน ทั้งจาก ยอดโอนคอนโดลด และจำนวนโครงการใหม่ที่น้อยที่สุดในรอบ 15 ปี การจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ซื้อและนักลงทุนทุกกลุ่ม

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

พลิกเกม แก้วิกฤต ผู้พัฒนาคอนโด ผลักดัน คอนโดราคา 3-5 ล้านบาท ให้เติบโตแทน คอนโดเกิน 10 ล้าน ตลาดคอนโดระดับบน ชะลอตัว เนื่องจากผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง ขาดความเชื่อมั่นจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปรับกลยุทธ์หันมาเน้นตลาดคอนโดราคา 3-5 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ของกลุ่มคนทำงาน

คอนโดราคา 3-5 ล้านบาทเติบโตขึ้น เพราะเป็นทางเลือกที่คนทำงานสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าบ้านแนวราบ ท่ามกลางภาวะที่ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ในภาวะที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังไร้ความชัดเจน และการเมืองยังคงปั่นป่วนในสายตาผู้ซื้อคอนโดระดับบน ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ จึงเผชิญจังหวะการ”ชะลอตัว”อย่างเห็นได้ชัดแม้กำลังซื้อของกลุ่มผู้มีฐานะยังมีอยู่มาก แต่สิ่งที่หายไปคือ “ความมั่นใจ” และ “ความจำเป็น” ทำให้หลายคนเลือก “หยุดรอดู” มากกว่าลงมือซื้อจริง

คอนโดราคา 3-5 ล้านบาท

ปัจจุบันคอนโดระดับบน ไม่ได้ขายไม่ได้เพราะคนไม่มีเงิน แต่เพราะไม่มีอารมณ์ซื้อจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง”

เหตุนี้เอง จึงนำมาซึ่งการ พลิกเกมคอนโดหรู สู่ เรียลดีมานด์

ในจังหวะที่ตลาดคอนโดระดับบนเริ่มเงียบ ผู้เล่นรายใหญ่กลับเลือกเดินเกมอย่างมั่นใจ กับการพัฒนาคอนโดราคา 3-5 ล้านบาท

ปัจจุบัน คอนโดที่เปิดขายในตลาด เน้นราคาที่จับต้องได้ระดับราคาอยู่ที่ 130,000 – 150,000บาทต่อตร.ม. หรือตั้งแต่ 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต เพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานที่มีเงินเดือน 50,000 บาท ที่สามารถซื้อได้ ทดแทนคอนโดระดับบนที่ชะลอตัว หลายบริษัทเลื่อนการทำตลาดออกไปก่อน แล้วแทนที่จะทำการตลาดคอนโดระดับบน หันมาทำตลาดคอนโด สำหรับกลุ่มคนทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคา 3-5 ล้านที่คนสามารถจับต้องได้ง่ายกว่าบ้านที่มีราคาสูงกว่า

 

ปัจจุบัน คนกลับมาสนใจคอนโด ด้วย”ความจำเป็น”ในการต้องการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตใกล้ที่ทำงาน หากซื้อไม่ได้ใช้วิธีเช่าแทน เนื่องจากธนาคาปล่อยกู้ยากขึ้น ทำให้ภาพคอนโดเปลี่ยนไปจากบ้านหลังที่สองกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถอยู่ได้จริง ทำให้ตลาดคอนโด เพื่ออยู่อาศัยกลายเป็น”ทางเลือก”ของลูกค้ามากขึ้น เน้น”สเปซและราคา”ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น ความสำคัญของการ “เข้าใจลูกค้า” และ “ตั้งราคาตรงกำลังซื้อ” โดยกลุ่มเป้าหมายหลักในตอนนี้คือ “คนทำงาน” ซึ่งมีกำลังซื้ออยู่ในช่วง 3-5 ล้านบาท จากทางเลือกกลายเป็นทางรอด ด้วยความเข้มงวดในการปล่อยกู้ของธนาคาร ทำให้ตลาดบ้านแนวราบราคาสูงถูกจำกัดการเข้าถึงจากกลุ่มคนทำงาน ทำให้คอนโดในระดับราคา 3-5 ล้านบาท กลายเป็น “ทางเลือกใหม่ที่จับต้องได้”

“วันนี้คนกลับมาซื้อคอนโด ไม่ใช่เพราะอยากมีอสังหา แต่เพราะต้องอยู่จริง” กลุ่มคอนโดระดับราคานี้ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีแหล่งงาน เช่น พระราม 9 สุขุมวิทตอนปลาย รัชดา ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์เรื่องการเดินทาง แต่ยังเป็นทำเลที่ปล่อยเช่าได้ง่าย

 

พระราม 9 เอง ก็นับเป็นทำเลทองของนักลงทุน ยกตัวอย่างโครงการ “เดอะ เบส เออร์เบิน พระราม 9” ของแสนสิริ คือ ตัวอย่างชัดเจนของโครงการที่แม้เปิดตัวในช่วงการแข่งขันสูง แต่สามารถรอดจากสงครามราคาได้ ด้วยการเลือกช่วงเวลาขายที่เหมาะสม ในวันที่โครงการสร้างเสร็จ คู่แข่งแทบไม่เหลืออยู่แล้ว ทำให้โครงการขายได้ง่ายขึ้น โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 120,000 บาท/ตร.ม. ขณะที่เรทค่าเช่า 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. อยู่ที่ 20,000 บาท/เดือน

 

สังเกตจากการที่โครงการใหม่ๆ หันมาโฟกัสที่ทำเล – เปิดตัวอย่างมีกลยุทธ์ และในปี 2568 ผู้พัฒนายังคงเดินหน้าเปิดตัวคอนโดโครงการใหม่ทั่วประเทศ โดยเลือกทำเลที่มีศักยภาพสูงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมกระจายความเสี่ยงด้วยโครงการขนาดกลาง ไม่เน้นตึกใหญ่หลายอาคาร เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด การเลือกซื้อคอนโดตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “แบรนด์” หรือ “โปรโมชั่น” แต่เป็นเรื่องของ “ความคุ้มค่า” และ “ความอยู่ได้จริง” มากกว่าเดิม

แม้ตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปจากอดีต แต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนคือ “ความต้องการที่อยู่อาศัย”หากผู้พัฒนามองเห็นโอกาสในจุดที่หลายคนมองเป็นวิกฤติ และปรับตัวด้วยความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่คอนโดหรูต้องหยุดรอดู ทว่าตลาด “อยู่จริง ใช้จริง” กลับเติบโตแบบเงียบๆ อย่างมั่นคง

อย่างไรก็ตาม การขายคอนโดที่เปิดใหม่ อาจจะยากกว่าคอนโดพร้อมอยู่ เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่าลดลง ไม่นับรวมกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรที่หายไปแล้ว ขณะที่คนที่ต้องการที่อยู่อาศัยลดลง เพราะจะซื้อก็ต่อเมื่อต้องการใช้เท่านั้น

 

สรุปส่งท้าย สถานการณ์ในปัจจุบัน ผลักดันให้ผู้พัฒนาออกแบบโครงการ คอนโดราคา 3-5 ล้านบาท ออกมามากขึ้น เพื่อให้เติบโตแทน คอนโดเกิน 10 ล้าน เหตุมาจากตลาดคอนโดระดับบน หรือ 10 ล้านบาทขึ้น ชะลอตัว เพื่อความอยู่รอด เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้พัฒนาก็ต้องปรับตัวไปด้วยนั้นเองค่ะ…

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

Flight radar24 เครื่องมือลับฉบับนักลงทุนอสังหาสำหรับใครที่เดินทางบ่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องงานหรือพักผ่อน การได้อัปเดตสถานะเที่ยวบินแบบเรียลไทม์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เพราะนอกจากจะช่วยให้เราวางแผนการเดินทางได้สะดวกขึ้นแล้ว ยังช่วยคลายความกังวลใจได้อีกด้วย
และหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Flightradar24 นั่นเองครับ
และมันยังเป็นเครื่องมือลับฉบับนักลงทุนอสังหาฯ อีกด้วย ว่าแต่หน้าตามันเป็นยังไงไปดูกันค่ะ

Flightradar24 คืออะไร?

Flight radar24 เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ทำหน้าที่ติดตามและแสดงตำแหน่งของเครื่องบินทั่วโลกแบบเรียลไทม์
โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณ ADS-B จากเครื่องบินโดยตรง, ข้อมูลเรดาร์จากหน่วยงาน
ควบคุมการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control) หรือแม้กระทั่งข้อมูลจากดาวเทียม
ทำให้ข้อมูลที่แสดงผลมีความแม่นยำสูงมากๆ

ประโยชน์ของ Flightradar24 ?

1. ติดตามสถานะเที่ยวบินแบบเรียลไทม์: ไม่ต้องนั่งลุ้นว่าเครื่องบินจะดีเลย์ไหม
หรือออกจาก Gate ไปแล้วหรือยัง แค่เปิดแอปฯ ก็เห็นสถานะปัจจุบันของเที่ยวบินที่เราสนใจได้ทันที

2. รู้ตำแหน่งของคนที่เรารัก: หากมีเพื่อนหรือคนในครอบครัวกำลังเดินทาง เราก็สามารถใช้แอปฯ
นี้ติดตามดูได้ว่าตอนนี้เครื่องบินอยู่ที่ไหนแล้ว ทำให้สบายใจมากขึ้น

3. วางแผนการเดินทางไปสนามบิน: เมื่อเราต้องไปรับใครที่สนามบิน การได้เห็นว่าเครื่องบินใกล้จะลงจอดแล้วหรือยัง
จะช่วยให้เราคำนวณเวลาการเดินทางไปสนามบินได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องไปรอนานจนเกินไป

4. ข้อมูลเชิงลึก: นอกจากตำแหน่งของเครื่องบินแล้ว เรายังสามารถดูข้อมูลอื่นๆ ได้อีกเพียบ เช่น
รุ่นของเครื่องบิน, ความเร็ว, ระดับความสูง, เส้นทางบิน, และประวัติการเดินทาง ที่ผ่านมา
เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับคนที่รักการเดินทางและสนใจเรื่องการบินโดยเฉพาะ

และ Flightradar24:  ยังเหมาะกับนักลงทุนอสังหา เป็นเครื่องมือลับฉบับนักลงทุนอสังหาฯ

ใครว่า Flightradar24 มีไว้แค่ดูเครื่องบินขึ้น-ลง? สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือคนที่กำลังมองหาบ้านหรือคอนโดใกล้สนามบิน
นี่คือเครื่องมือชั้นดีที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เพราะอะไรเหรอ เรามาดูกันเลยค่ะ

1. ประเมินเรื่องเสียงรบกวน: หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนกังวลเมื่อซื้อบ้านหรือคอนโดใกล้สนามบินคือ มลภาวะทางเสียง
คุณสามารถใช้ Flightradar24 เพื่อสังเกตการณ์เส้นทางการบินหลักๆ ของเครื่องบินที่เข้าและออกสนามบินได้ตลอดทั้งวัน
ลองดูว่าเครื่องบินส่วนใหญ่บินผ่านโซนที่คุณสนใจบ่อยแค่ไหน และบินในระดับความสูงเท่าไหร่
จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าพื้นที่นั้นได้รับผลกระทบจากเสียงมากน้อยเพียงใดก่อนตัดสินใจซื้อ

2. วิเคราะห์ศักยภาพของพื้นที่: พื้นที่ใกล้สนามบินมักจะเป็นทำเลทองสำหรับนักลงทุน เพราะเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยว
และนักธุรกิจ การใช้ Flightradar24 เพื่อดู จำนวนเที่ยวบินที่หนาแน่น ในแต่ละช่วงเวลาสามารถสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของสนามบินนั้นๆ ได้โดยตรง
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดสำหรับปล่อยเช่า หรือที่ดินเชิงพาณิชย์

3. เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: หากคุณเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือตัวแทนขายอสังหาฯ การใช้ Flightradar24 จะช่วยให้คุณเข้าใจ
ประเภทของเที่ยวบิน ที่เข้ามาในพื้นที่ เช่น เที่ยวบินจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อาจหมายถึงโอกาสในการเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการหาที่พักระยะยาว
หรือการมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวก็สามารถนำมาวางแผนการตลาดสำหรับโครงการของคุณได้

จะเห็นได้ว่า Flightradar24 ไม่ได้เป็นแค่แอปฯ สำหรับคนเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือวิเคราะห์
ทำเลที่ทรงพลังสำหรับนักลงทุนอสังหาฯ อีกด้วย ลองนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจครั้งต่อไปดูนะครับ

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

 

 

 

เจาะลึก! Ananda มีแบรนด์อะไรบ้าง หากพูดถึงหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างอัตลักษณ์แบรนด์ได้ชัดเจนในตลาดเมืองไทย อย่างแบรนด์ ‘Ananda’ นับเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า แต่ยังเป็น Brand Developer ที่มีโครงการหลากหลายสไตล์ และโดเด่นในทุกๆ โครงการ ตั้งแต่คอนโดมิเนียมระดับกลาง-บน ไปจนถึงบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทุกยุคทุกสมัย

ในบทความนี้ Amber จะพาไปรู้จักกับแบรนด์ต่างๆ ภายใต้การพัฒนาและบริหารของ Ananda ว่าแต่ละแบรนด์มีอะไร? เป็นจุดเด่นที่แข็งแกร่งในตลาดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

 

แบรนด์คอนโดจาก Ananda ที่หมายคนจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี คือ

Ashton ที่จัดเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับ Luxury ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (Ananda Development) ที่เน้นการออกแบบที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ภายนอกอาคารที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและแตกต่าง, พื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ พร้อมทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า ตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคนี้

ตัวอย่างโครงการคอนโดแบรนด์ Ashton ที่ Amber ให้เช่าคือ Ashton Asoke, Ashton Asoke Rama 9, Ashton Silom

 

Ideo Q หนึ่งในแบรนด์คอนโดมีเนียม ภายใต้บ้านใหญ่ของ อนันดา ดีเวลลอปเม้นทน์ เน้นไลฟ์ไสตล์ที่ใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัว สะดวกสบาย เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตในเมือง จึงเน้นสร้างโครงการรอบๆ เส้นรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น พญาไท หรือราชเทวี

ตัวอย่างโครงการคอนโดแบรนด์ Ideo Q ที่ Amber ให้เช่าคือ IDEO Q Ratchathewi, IDEO Q Chula – Samya

 

COCO PAR เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับ Luxury โครงการนี้มีความพิเศษตรงที่เป็น Branded Residence ที่ร่วมมือกับ Dusit Hospitality Services เป็นคอนโดที่มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยมีบริการต่างๆ เช่น Concierge, ทำความสะอาดห้อง, ซักรีด, บริการอาหาร, และอื่นๆ

 

Culture สร้างด้วยแรงบันดาลใจจาก สิ่งแวดล้อมและวัฒณธรรมของคุณร่นใหม่ มาเป็นไอเดียในการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ เน้นความยั่งยืนและเพิ่มความสะดวกสบาย สร้างประสบการ์ณให้กับผู้อยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมือง อย่างทองหล่อ และจุฬา

ตัวอย่างโครงการคอนโดแบรนด์ Culture ที่ Amber ให้เช่าคือ Culture Chula

 

IDEO Mobi เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยทำงาน มีจุดเด่น คือ ทำเลในเมือง ที่อยู่ติดรถไฟฟ้าหรืออยู่ที่สถานีที่นับเป็น จุด Interchange (รถไฟฟ้า 2 สายขึ้นไป)  ตัวดีไซน์ห้องมีความใหญ่ กว้าง มีการจัดฟังก์ชันออกมาได้อย่างลงตัว ส่วนมากจะเป็นคอนโด High Rise ในทุกๆ พื้นที่

ตัวอย่างโครงการคอนโดแบรนด์ Ideo Mobi ที่ Amber ให้เช่าคือ IDEO Mobi Sikhumvit, IDEO Mobi Sukhumvit 40, IDEO Mobi Asoke, IDEO Mobi Rama 9

 

IDEO เป็นแบรนด์คอนโดพร้อมอยู่ มุ่งเน้นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน มีจุดเด่นที่ทำเลที่ตั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟใต้ดิน หรือแอร์พอร์ทลิงก์ การเดินทางสะดวกสบาย อยู่ไม่ไกลจากแหล่งช็อปปิ้งและที่กินดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูง  และรวมถึงะการออกแบบที่ทันสมัย

ตัวอย่างโครงการคอนโดแบรนด์ Ideo ที่ Amber ให้เช่าคือ IDEO Rama 9 – Asoke, IDEO Sukhumvit 93, IDEO Sukhumvit – Rama 4

 

Elio เป็นแบรนด์คอนโดที่ตอบโจทย์ ชาว First Jobber ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและตั้งในทำเลที่เหมาะสม มีความโดดเด่นเรื่อง Facilities ส่วนกลาง ที่เน้นพื้นที่สีเขียว โดยตัวโครงการส่วนใหญ่จะเน้นเป็น Low Rise

ตัวอย่างโครงการคอนโดแบรนด์ Elio ที่ Amber ให้เช่าคือ

Elio Sathorn – Wutthakat,Elio Sukhumvit 64, Elio Del Moss Phaholyothin 34, Elio Del Ray, Elio Del Nest

 

สรุปส่งท้าย Ananda มีแบรนด์อะไรบ้าง ต้องบอกว่า… มีหลากหลายแบรนด์ และหลากหลายเกรดเลยค่ะ แต่ถ้าเพื่อนๆ กำลังหาคอนโดซื้อ เช่า หรือลงทุนอยู่ ก็สามารถติดต่อ Amber เข้ามาได้เลยนะคะ

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

จอดรถในคอนโดแล้วเกิดเหตุกับตัวรถ รถโดนชนในคอนโดเคลมได้ไหม หรือประกันไม่รับเคลม

นับเป็นคำถามยอดฮิต ที่เจ้าของรถจำนวนไม่น้อยสงสัย คือ หากจอดรถไว้ในคอนโดแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น รถถูกชน รอยขีดข่วน หรือของตกใส่ตัวรถ บริษัทประกันจะรับเคลมหรือไม่? หรือจะถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่ไม่ครอบคลุมตามเงื่อนไขกรมธรรม์?

บทความนี้ Amber มีคำตอบ พร้อมแนะแนวทาง เพื่อให้คุณรู้สิทธิ์ของตัวเอง และจัดการได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

 

ประกันรถยนต์รับเคลมหรือไม่? ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ ที่คุณทำไว้ และลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วมีเหตุผลไหน ที่ประกันจะไม่รับเคลม เมื่อรถเสียหาย!

เหตุที่หลายคนเข้าใจว่า “ประกันไม่ช่วยตอนรถจอดอยู่” มักเกิดจากประสบการณ์ตรงหรือการฟังจากผู้อื่นโดยไม่ได้เข้าใจรายละเอียดในเงื่อนไขของประกันรถยนต์อย่างจริงจัง จริงๆ แล้วการที่ประกันจะช่วยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

เราจะมาแยกให้เห็นชัดเจนว่าประกันแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองอย่างไรบ้าง?

ประเภทของประกันรถยนต์ที่เกี่ยวข้อง

  1. ประกันชั้น 1

สามารถเคลมได้ หากมีหลักฐานหรือพยานชัดเจน เช่น กล้องวงจรปิด ใบแจ้งความ หรือภาพถ่าย

  1. ประกันชั้น 2+ และ 3+
  1. ประกันชั้น 2 และ 3 (ธรรมดา)

 

ประเด็นสำคัญ คอนโดมีความรับผิดชอบหรือไม่?

กรณีเกิดเหตุในพื้นที่ของคอนโด เช่น ลานจอดรถภายในอาคาร ผู้เสียหายสามารถสอบถาม นิติบุคคลอาคารชุด ว่ามีความรับผิดชอบหรือไม่ โดยเฉพาะหากเกิดจากของตกจากตัวอาคาร, กล้องวงจรปิดเสีย ไม่สามารถตรวจสอบคู่กรณี, ระบบรักษาความปลอดภัยหละหลวม หากพิสูจน์ได้ว่า… ความเสียหายเกิดจากความประมาทของคอนโด สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากนิติบุคคล ได้ตามกฎหมาย

 

แนวทางป้องกัน ทำอย่างไรให้เคลมได้ง่าย?

  1. ติดตั้งกล้องหน้ารถและหลังรถ – ช่วยบันทึกเหตุการณ์
  2. จอดรถในจุดที่มีกล้องวงจรปิด และมีแสงสว่างเพียงพอ
  3. เก็บหลักฐานทันทีเมื่อเกิดเหตุ – ถ่ายรูป ใบแจ้งความ แจ้งนิติบุคคล
  4. โทรแจ้งประกันทันที เมื่อพบความเสียหาย

 

สรุปส่งท้าย จอดรถในคอนโดแล้วเกิดเหตุกับตัวรถ รถโดนชนในคอนโดเคลมได้ไหม ประกันรับเคลมหรือไม่? คำตอบคือ ถ้าคุณทำ ประกันชั้น 1 → มีโอกาสเคลมได้สูง แม้ไม่มีคู่กรณี ถ้าเป็น ประกันชั้น 2+ หรือ 3+ → ต้องมีคู่กรณีที่ระบุตัวได้ ประกัน ชั้น 2 และ 3 ทั่วไป → ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณี ดังนั้น การเลือกประกันให้เหมาะกับการใช้งานและสภาพแวดล้อมในการจอดรถจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ห้องสตูดิโอ คืออะไร? คอนโดห้องสตูดิโอ เหมาะกับใครบ้าง?

ปัจจุบัน “ห้องสตูดิโอ” กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดราคาย่อมเยา อยู่คนเดียวได้สบาย และใช้ชีวิตแบบมินิมอลได้อย่างลงตัว แต่สำหรับบางคนอาจยังไม่แน่ใจว่า “ห้องสตูดิโอ คืออะไร” และเหมาะกับใคร วันนี้ Amber จะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ พร้อมแนะนำว่าใครเหมาะจะอยู่ห้องสไตล์นี้ที่สุด

 

ห้องสตูดิโอ คืออะไร?

ห้องสตูดิโอ (Studio Room) คือ ห้องพักอาศัยแบบเปิดโล่ง โดยไม่มีการกั้นผนังแบ่งพื้นที่ชัดเจนระหว่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ยกเว้นห้องน้ำที่จะแยกออกต่างหากอย่างมิดชิด ลักษณะเด่นของห้องสตูดิโอ คือ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเดียว มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 20-35 ตารางเมตร, ออกแบบให้ใช้งานพื้นที่แบบรวม เช่น เตียงนอนอยู่ใกล้โซฟาและโต๊ะกินข้าว เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งในด้านค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภค ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดไม่ยุ่งยาก

 

ห้องสตูดิโอไม่เหมาะกับทุกคน แต่เหมาะมากกับกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะ เช่น

  1. คนโสด หรือคนที่อยู่คนเดียว หากคุณเป็นคนโสด นักศึกษา หรือคนทำงานที่ต้องการคอนโดใกล้ที่ทำงาน การอยู่คนเดียวในห้องสตูดิโอถือว่าเพียงพอ และสะดวกสุดๆ ไม่ต้องเสียเงินกับพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน
  2. ฟรีแลนซ์หรือคนทำงานที่บ้าน หลายคนเลือกใช้ห้องสตูดิโอเป็นที่พักอาศัยและที่ทำงานไปพร้อมกัน เพราะสามารถจัดโต๊ะทำงานไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของห้องได้สบายๆ
  3. คนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าซื้อหรือเช่าคอนโดห้องสตูดิโอมักจะถูกกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน หรือแบบอื่นๆ และค่าส่วนกลางหรือค่าน้ำไฟก็จะถูกตามไปด้วย
  4. คนที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง ห้องสตูดิโอมักอยู่ในทำเลดีใกล้รถไฟฟ้า BTS, MRT หรืออยู่ใจกลางเมือง ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางทุกวัน ไม่ว่าจะเพื่อเรียนหรือทำงาน

 

สรุปส่งท้าย คอนโดห้องสตูดิโอ เหมาะกับคุณหรือไม่? หากคุณกำลังมองหาที่พักขนาดกะทัดรัด ราคาประหยัด ใช้ชีวิตคนเดียวได้สบาย และไม่ต้องการพื้นที่มาก ห้องสตูดิโอ คือ ทางเลือกที่เหมาะสมมากที่สุด โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ทุกตารางเมตรมีค่า การเลือกคอนโดห้องสตูดิโอสามารถช่วยให้คุณประหยัดงบ และยังใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่พื้นที่อยู่อาศัยจำกัด หลายโครงการจึงเริ่มเปิดตัวเป็น คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า คำว่า “Pet Friendly” กับ “Pet Allowed” แม้ดูคล้ายกัน แต่ความหมายและข้อจำกัดแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อคุณและสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก

ในบทความนี้ Amber จะมาอธิบายความแตกต่างของทั้งสองคำ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกคอนโดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณและเพื่อนตัวน้อยได้อย่างมั่นใจ

 

คอนโด Pet Friendly คืออะไร?

Pet Friendly” หมายถึง คอนโดที่ ออกแบบและมีสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เดินเล่นหรือสนามหญ้าสำหรับสัตว์, มีห้องอาบน้ำสัตว์เลี้ยง, ที่ทิ้งขยะสัตว์, ลิฟต์แยกสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์, มีการบริหารจัดการสัตว์ในพื้นที่ส่วนกลางที่ชัดเจน

ข้อดีของ Pet Friendly

 

คอนโด Pet Allowed คืออะไร?

Pet Allowed” หมายถึง คอนโดที่ อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ตามเงื่อนไข ที่กำหนด แต่ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง

ตัวอย่างเงื่อนไขที่พบได้บ่อย จำกัดขนาดหรือประเภทของสัตว์ (เช่น สุนัขไม่เกิน 10 กิโลกรัม), จำกัดจำนวนสัตว์ต่อยูนิต, ห้ามนำสัตว์เข้าใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือห้องโถง, ต้องแจ้งและขออนุญาตจากนิติบุคคลก่อนเลี้ยง

ข้อควรระวังของ Pet Allowed

 

เคล็ดลับเลือกคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ให้เหมาะกับคุณ

  1. สอบถามเงื่อนไขล่วงหน้า แม้คอนโดจะโฆษณาว่าเลี้ยงสัตว์ได้ แต่รายละเอียดสำคัญอยู่ที่ข้อบังคับของนิติบุคคล
  2. ตรวจสอบพื้นที่จริง สำรวจว่ามีโซนสำหรับสัตว์หรือไม่
  3. พูดคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่อเช็คว่าผู้อาศัยส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีต่อสัตว์หรือไม่
  4. อ่านข้อบังคับคอนโด เอกสารนี้จะระบุชัดเจนถึงสิทธิ์และข้อจำกัดของผู้เลี้ยงสัตว์
  5. วางแผนระยะยาว หากคุณวางแผนจะมีสัตว์มากกว่าหนึ่งตัวหรือมีสายพันธุ์ขนาดใหญ่ ควรเลือก Pet Friendly มากกว่า

 

สรุปส่งท้าย แม้ทั้ง “Pet Friendly” และ “Pet Allowed” จะดูเหมือนเปิดรับสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน แต่ความต่างในแนวคิดและการปฏิบัติส่งผลต่อความเป็นอยู่ของสัตว์และเจ้าของอย่างมาก หากคุณเป็นคนรักสัตว์ การเลือก คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ แบบ Pet Friendly จะตอบโจทย์ในระยะยาวมากกว่า เพราะให้ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง

 

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

หันหัวนอนไปทิศไหนดีที่สุด รู้ไว้ก่อนจัดห้องนอนใหม่ เปลี่ยนมุมเตียง เปลี่ยนพลังชีวิต

การเลือกทิศหัวนอน ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามในการจัดห้องนอน แต่ยังเกี่ยวข้องกับ พลังงานชีวิต (Chi) ตามหลัก ฮวงจุ้ย และศาสตร์โบราณอย่าง อายุรเวท ของอินเดีย ที่เชื่อว่าทิศหัวนอนสามารถส่งผลต่อ สุขภาพกาย ใจ และพลังงานในชีวิตประจำวัน

 

ทิศหัวนอนที่ดีที่สุดคือทิศไหน?

ทิศเหนือ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ตามหลักอายุรเวท การหันหัวนอนไปทางทิศเหนือจะทำให้กระแสพลังงานไม่สมดุล เพราะสนามแม่เหล็กของโลกจะดึงเลือดขึ้นศีรษะมากเกินไป อาจทำให้หลับไม่สนิทหรือปวดหัว ดังนั้นจึง ควรหลีกเลี่ยง

ทิศใต้ ดีที่สุดตามหลักอายุรเวท หัวนอนไปทางทิศใต้ เท้าไปทางเหนือ ถือเป็นตำแหน่งที่สอดคล้องกับสนามแม่เหล็กโลกที่สุด ส่งเสริมสุขภาพ ความสงบ และการหลับลึก เป็นทิศที่แนะนำ

ทิศตะวันออก ส่งเสริมสติปัญญาและการเรียนรู้ เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้ตื่นเช้ามีสมาธิ สดชื่น การหันหัวนอนในทิศนี้ จะดีมากสำหรับผู้ที่เน้นการเรียนและงานใช้สมอง

ทิศตะวันตก เน้นความมั่นคงและวัตถุ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมั่นคงในชีวิตการงานและการเงิน อาจไม่ดีเท่าทิศใต้ แต่ยังถือว่าใช้ได้ การหันทิศนอนในทิศนี้ดีในแง่ของความมั่นคง

 

เคล็ดลับจัดห้องนอนเพิ่มพลังชีวิต

สรุปส่งท้าย หันหัวนอนไปทิศไหนดีที่สุด ก็อาจจะต้องดูทิศที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล เพื่อปรับทิศเตียง ให้สมดุลกับการใช้พลังชีวิตตามช่วงวัยด้วยนะคะ

หากคุณกำลังจะเปลี่ยนตำแหน่งเตียงหรือจัดห้องนอนใหม่ อย่าลืมพิจารณาเรื่อง “ทิศหัวนอน” ด้วย เพราะแค่เปลี่ยนมุมเตียง อาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้ทั้งด้านสุขภาพ อารมณ์ และพลังบวกในทุกๆ วัน

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/