อัปเดตเอกสารที่ต้องใช้กู้ซื้ออสังหา ปี 2568 แต่ละธนาคาร ต้องเตรียมอะไรบ้าง

21

ก.พ. 25

162

อัปเดตเอกสารที่ต้องใช้กู้ซื้ออสังหา ปี 2568 แต่ละธนาคาร ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ใครที่กำลังคิดจะกู้ซื้อบ้าน คอนโด ต้องรู้เรื่องเอกสารในการกู้ซื้ออสังหาด้วยนะ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนล่วงหน้า เราจึงมาอัปเดต เอกสารกู้ซื้ออสังหา ปี 2568 ใครว่า… การกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องยุ่งยาก หากคุณเตรียมเอกสารกู้ซื้อบ้านให้พร้อมก่อนยื่นกู้ก็ใช่เรื่องยากอะไร ซึ่งสถาบันการเงินแต่ละแห่งก็มีรายละเอียดการขอสินเชื่อบ้านระบุไว้ชัดเจนเช่นกัน วันนี้ Amber เลยได้รวบรวมเอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการกู้ซื้อมาฝากกันค่ะ

 

เอกสารกู้ซื้ออสังหา ปี 2568

เอกสารกู้สินเชื่อบ้านหลักๆ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

  1. เอกสารส่วนตัวผู้กู้
  2. เอกสารแสดงรายได้
  3. เอกสารหลักประกัน

 

เอกสารส่วนตัวผู้กู้ : เอกสารส่วนตัวในการกู้ซื้อบ้าน ที่ผู้ทำสินเชื่อควรเตรียมหลักฐานในการยืนยันตัวตนอยู่เสมอ The Best Property ขอแยกเอกสารกู้บ้าน หลักๆ ให้ผู้กู้ได้เตรียมข้อมูลกันดังนี้

  • สำหรับพนักงาน ผู้มีรายได้ประจำ
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
    • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
    • สมรสจดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-4
    • สมรสไม่จดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-3
  • สำหรับผู้เป็นเจ้าของธุรกิจ (เจ้าของกิจการจดทะเบียน)
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
    • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
    • สมรสจดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-4
    • สมรสไม่จดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-3
    • สำเนาจดทะเบียนบริษัทฯ ครบชุด (อัพเดทไม่เกิน 60 วัน)
  • บอจ.5 บอจ.2 รายนามผู้ถือหุ้น และ สัดส่วนผู้ถือหุ้น (เจ้าของกิจการไม่จดทะเบียน)
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
    • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
    • สมรสจดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-4
    • สมรสไม่จดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-3
  • สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
    • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
    • สมรสจดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-4
    • สมรสไม่จดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-3
  • สำหรับผู้ประกอบอาชีพค้าขาย
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
    • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
    • สมรสจดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-4
    • สมรสไม่จดทะเบียน คู่สมรสเตรียมเอกสารเหมือนผู้กู้ ตามข้อ 1-3

เอกสารแสดงรายได้ : เอกสารแสดงรายได้ขอสินเชื่อบ้าน เป็นหลักฐานที่แสดงถึงรายได้ของผู้กู้ ธนาคารจะพิจารณาจากเอกสารรายได้ว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ เอกสารแสดงรายได้ ที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง Amber รวบรวมข้อมูลของแต่ละอาชีพมาให้แล้วมีดังนี้

  • สำหรับพนักงาน ผู้มีรายได้ประจำ
    • หนังสือรับรองเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ
    • สลิปเงินเดือน 6 เดือนย้อนหลัง อัพเดทจากปัจจุบัน
    • เอกสารรายได้อื่นๆ เช่น สลิปโบนัส, ค่าคอมมิชชั่น, Incentive (รายเดือน รายไตรมาส รายปี)
    • สเตทเม้น 6 เดือนย้อนหลัง อัพเดทจากปัจจุบัน
    • สเตทเม้น กรณียื่นในส่วนของเอกสารรายได้อื่นๆ
  • สำหรับผู้เป็นเจ้าของธุรกิจ (เจ้าของกิจการจดทะเบียน)
    • สเตทเม้น 6 เดือนย้อนหลัง
    • บัญชีรายรับ-รายจ่าย 6 เดือนย้อนหลัง
    • บิลซื้อ-บิลขาย 6 เดือนย้อนหลัง
    • งบการเงิน 2 ปีย้อนหลัง
    • เอกสารยื่นภาษีประจำปี ภงด.90 + ใบเสร็จ
    • สำเนา ภพ.30 หรือ ภงด. 50/51
    • สัญญาเช่า หรือ เอกสารการเช่าอื่นๆ โฉนดที่ดินกรณีเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พื้นที่นั้นๆ
    • รูปถ่ายกิจการ (เจ้าของกิจการไม่จดทะเบียน)
    • สเตทเม้น 1 ปีย้อนหลัง
    • บัญชีรายรับ-รายจ่าย 1 ปีย้อนหลัง
    • บิลซื้อ-บิลขาย 6 เดือนย้อนหลัง
    • เอกสารยื่นภาษีประจำปี ภงด.90 + ใบเสร็จ
    • สัญญาเช่า หรือ เอกสารการเช่าอื่นๆ โฉนดที่ดินกรณีเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พื้นที่นั้นๆ
    • รูปถ่ายกิจการ
    • แผนที่ตั้งกิจการ
  • สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ
    • อาชีพอิสระ ใช้ทักษะความสามารถในการประกอบอาชีพ เช่น นักร้อง นักแสดง ช่างภาพ
    • สเตทเม้น ค่าจ้าง 6 เดือนย้อนหลัง
    • 50 ทวิ 6 เดือนย้อนหลัง
    • เอกสารยื่นภาษีประจำปี ภงด.90 + ใบเสร็จ
    • สัญญาจ้างงาน หรือ หนังสือรับรองรายได้
  • สำหรับผู้ประกอบอาชีพค้าขาย
    • สเตทเม้น 6 เดือนย้อนหลัง
    • บัญชีรายรับ-รายจ่าย 6 เดือนย้อนหลัง
    • บิลซื้อ-บิลขาย 6 เดือนย้อนหลัง
    • สัญญาเช่าร้าน หรือ เอกสารเช่าอื่นๆ
    • กรณี ขายของออนไลน์
      • ทะเบียนพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์
      • รูปภาพหน้าเว็บ หรือ เพจเฟตบุ๊ค ที่เป็นหน้าร้านออนไลน์

 

เอกสารหลักประกัน : เอกสารหลักประกันยื่นกู้ซื้อบ้าน เป็นเอกสารที่แสดงให้ธนาคารเห็นว่าหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้คืออะไร มีมูลค่ามากน้อยเท่าไหร่ หลักประกันเหล่านี้จะทำให้ธนาคารอนุมัติวงเงินกู้บนพื้นฐานว่าหากลูกหนี้มีปัญหา หลักทรัพย์เหล่านี้คือหลักทรัพย์ที่ธนาคารจะยึดเพื่อขายนำเงินมาชำระหนี้แทนได้

  • สำเนาโฉนดที่ดิน หรือ สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ
  • แผนที่แสดงทำเลที่ตั้งของที่ดินหลักประกันแบบสังเขป

 

ทำไม! เราถึงต้องเตรียมเรื่องเอกสารที่จะยื่นขอสินเชื่อกู้บ้านกันก่อนนะหร ??

ก็ถ้าหากเราเตรียมพร้อมครบถ้วน ธนาคารจะใช้เวลาพิจารณาอนุมัติได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนในการตามเอกสารครั้งแล้วครั้งเล่านะสิ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการกู้บ้าน จากธนาคารควรสอบถามเจ้าหน้าที่ให้แน่นอนถึงเอกสารที่จะต้องใช้ เมื่อเตรียมครบแล้วก่อนส่งควรไล่เช็คอีกครั้งว่าครบถ้วนและไม่มีปัญหา นอกจากการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนแล้ว เอกสารที่เป็นสำเนาทุกฉบับจะต้องมีการเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วย รวมถึงกรณีขอกู้เงินแบบที่ต้องมีผู้กู้ร่วม ผู้กู้ร่วมก็จะต้องยื่นเอกสารเหมือนกับผู้กู้หลักด้วยทุกประการ

 

แต่ถ้าใช้บริการผ่าน ตัวแทน นายหน้า ของ Amber International Realty รับลองได้เลยว่า… ผู้กู้ทุกรายจะได้รับคำแนะนำเรื่องเอกสารอย่างถูกต้องแน่นอน

 

นอกจากนี้ Amber International Realty ได้รวบรวมข้อมูล เอกสารกู้ซื้อบ้านของแต่ละธนาคาร มาฝากกันด้วยนะ

 

ธนาคารกรุงไทย : เอกสารการกู้บ้านธนาคารกรุงไทย มีรายละเอียดดังนี้

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรข้าราชการของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส
    2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส
    3. สำเนาทะเบียนสมรส ของผู้กู้และผู้กู้ร่วม
    4. สำเนารายการบัญชีเงินฝาก (Statement) ย้อนหลัง หรือหลักฐานแสดงรายได้ของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส
    5. สำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ (กรณีซื้อห้องชุดจากโครงการคอนโด) ที่เสนอเป็นหลักประกัน
    6. สำเนาสัญญาจะซื้อจะขายหลักทรัพย์ที่เสนอเป็นหลักประกัน
    7. สำเนาสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างและแบบแปลน (พิมพ์เขียว) ของอาคารที่จะปลูกสร้าง
    8. ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร (กรณีกู้เพื่อสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้าน)
    9. รูปถ่ายบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุด หรืออาคารพาณิชย์ ที่ต้องการจะซื้อ

 

ธนาคารกสิกรไทย : เอกสารการกู้บ้านธนาคารกสิกรไทย มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารทั่วไป
1. แบบฟอร์มใบสมัครคำขอสินเชื่อและหนังสือให้ความยินยอมที่กรอกรายละเอียดครบถ้วนทั้งผู้กู้และผู้กู้ร่วม
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ (ทั้งผู้กู้และคู่สมรสของผู้กู้หลัก / ร่วม)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า)
4. ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี ทั้งผู้กู้และคู่สมรสของผู้กู้หลัก/ร่วม)
5. กรณีสมรสจดทะเบียน-สำเนาทะเบียนสมรส

6.กรณีสมรสไม่จดทะเบียน-หนังสือยืนยันสถานภาพสมรสจากลูกค้า หรือสำเนาทะเบียนบ้าน / สูติบัตรของบุตร
7. กรณีหม้าย-ใบสำคัญการหย่า หรือใบแจ้งความเลิกร้างกับคู่สมรส หรือใบมรณะบัตรสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้าเปลี่ยน)

 

เอกสารแสดงรายได้
1. ผู้มีรายได้ประจำ 

  • สลิปเงินเดือน(อายุไม่เกิน 3 เดือน) หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 3 เดือน) และ/หรือเอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือนย้อนหลัง
  1. ข้าราชการบำนาญ
  • บัตรรับเงินบำนาญ หรือ ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย หรือ เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือนย้อนหลัง แสดงรายการเงินบำนาญเข้าบัญชีแต่ละเดือน
  • ถ้าผู้สมัครมีรายได้ไม่สม่ำเสมออื่น ๆ กรุณาแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้ เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง หรือ 50 ทวิ แสดงรายได้ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างน้อย
  1. ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวหรือผู้ที่อ้างอิงรายได้จากกิจการ
  • เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง ในนามส่วนบุคคลหรือกิจการ เอกสารแสดงรายรับทางการเงินอื่น ๆ
  1. ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
  • เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง หรือ 50 ทวิ แสดงรายได้ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างน้อย
  • เอกสารแสดงรายรับทางการเงินอื่น ๆ

เอกสารหลักทรัพย์
1. สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3/นส.3ก หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ พร้อมสารบัญจดทะเบียนทุกหน้า
2. สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด.13)

 

ธนาคารกรุงเทพ : เอกสารการกู้ซื้อบ้านธนาคารกรุงเทพ มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารทั่วไป
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ
2. สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (กรณีประกอบวิชาชีพเฉพาะ)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน
4. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
5. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ทุกใบ)

เอกสารแสดงรายได้
1. กรณีผู้กู้/ผู้กู้ร่วมเป็นพนักงานหรือข้าราชการ

  • ต้นฉบับหนังสือรับรองเงินเดือน (ไม่เกิน 3 เดือน)
  • ต้นฉบับสลิปเงินเดือนล่าสุด และสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเดือน
  • สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี (กรณีรับเงินเดือนเป็นเงินสด)
  1. กรณีผู้กู้/ผู้กู้ร่วมเป็นเจ้าของกิจการ
  • สำเนาเอกสารการจดทะเบียนบริษัท (ทะเบียนพาณิชย์/การค้า/หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล/ทะเบียนผู้ถือหุ้น) (ไม่เกิน 3 เดือน)
  • สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่เกิน 3 เดือน)
  • สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงกระแสการเงินของบริษัท เช่น บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน วงเงินเบิกเกินบัญชี เป็นต้น ย้อนหลัง 6 เดือน
  • งบการเงินปีล่าสุด หรือสำเนารายการแสดงภาษีเงินได้ประจำปีปีล่าสุด

เอกสารหลักประกัน
1. สำเนาโฉนดที่ดิน/สำเนาเอกสารกรรมสิทธิห้องชุด
2. สำเนาเอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย
3. เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์
4. แผนที่แสดงที่ตั้งหลักประกัน

เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ (เพิ่มเติมกรณีปลูกสร้าง/ต่อเติม/ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย)

  • สำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/ปรับปรุงอาคาร
  • สำเนาพิมพ์เขียว (แบบแปลนก่อสร้าง)
  • สำเนาสัญญาว่าจ้างระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ขอสินเชื่อ

เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ (เพิ่มเติมกรณีรีไฟแนนซ์)

  • สำเนาสัญญาจำนอง และข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนอง
  • สำเนาสัญญากู้เงิน
  • สำเนาใบเสร็จการผ่อนชำระหนี้ย้อนหลัง 3 เดือน

เอกสารแสดงฐานะทางการเงินและภาระหนี้สิน

  • สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาหลักฐานแสดงกรรมสิทธิในทรัพย์สินอื่นๆ เช่น โฉนดที่ดิน ห้องชุด พันธบัตร ใบหุ้น เอกสารสัญญาแสดงสิทธิการเช่า ฯลฯ
  • สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน/สัญญาเช่าซื้อ/สัญญาจำนอง และเอกสารหลักฐานการชำระหนี้ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา

 

ธนาคารทหารไทย : เอกสารการกู้บ้านธนาคารทหารไทย มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารส่วนตัวผู้กู้/ผู้กู้ร่วม

  1. พนักงานประจำ
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สลิปเงินเดือน ต้นฉบับและพิมพ์ด้วยกระดาษคาร์บอนในตัว (กรณีไม่มีสลิปเงินเดือนดังกล่าว หรือใช้หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 2 เดือน) ต้องเพิ่ม สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 1 เดือน)
  1. ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ/พนักงานธนาคาร/พนักงานเงินทุนหลักทรัพย์
  • สำเนาบัตรประชาชน (หรือสำเนาบัตรข้าราชการทหารและสำเนาทะเบียนบ้าน)
  • สลิปเงินเดือน (กรณีใช้หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 2 เดือน) ต้องเพิ่มสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 1 เดือน)
  1. ประกอบธุรกิจส่วนตัว/เจ้าของกิจการ
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาบัญชีธนาคารที่ใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ออกโดยหน่วยงานราชการ ได้แก่
    • กรณีบริษัท
      • สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน) และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
    • กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด
      • สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
    • กรณีร้านค้า
      • สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ / ทะเบียนการค้า

เอกสารหลักประกัน

  • สำเนาโฉนดที่ดินทุกหน้า/สำเนา นส.3 ก ทุกหน้า
  • สำเนาใบจองหรือสำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย

เอกสารหลักประกัน(กรณีรีไฟแนนซ์)

  • สำเนาโฉนดที่ดินทุกหน้า / สำเนา นส.3 ก ทุกหน้า
  • สำเนาใบเสร็จการชำระค่างวดสินเชื่อบ้านที่ต้องการรีไฟแนนซ์ฉบับล่าสุด (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
  • สำเนาสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิม
  • สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง หรือใบอนุญาตปลูกสร้างบ้าน หรือ ทด.13

 

ธนาคารอิสลาม : เอกสารการกู้ซื้อบ้านธนาคารอิสลาม มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารส่วนบุคคล

  1. สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือ แบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร
  3. สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน คู่สมรส (ถ้ามี)
  4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ/ชื่อสกุล/สำเนาทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

  1. กรณีพนักงานบริษัททั่วไป / ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
  •  สำเนาสลิปเงินเดือน เดือนล่าสุดนับจากวันที่ยื่นขอสินเชื่อ ถ้าไม่มีใช้หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัทฉบับจริง ลงวันที่ย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือนนับจากวันที่ยื่นขอสินเชื่อ
  • สำเนาบัญชีธนาคารที่มีเงินเดือนเข้าย้อนหลัง 6 เดือนต่อเนื่องกันนับจากวันที่ยื่นขอสินเชื่อ
  1. กรณีผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว / เจ้าของกิจการ
  •  สำเนาทะเบียนการค้า หรือ สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล กรณีเป็นบริษัทจำกัด เพิ่มหนังสือรับรองรายชื่อผู้ถือหุ้น (เอกสารต้องรับรองสำเนาโดยกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน นับจากวันที่ยื่นขอสินเชื่อ)
  • สำเนาบัญชีธนาคาร (Statement) ที่ใช้หมุนเวียนในธุรกิจย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาบัญชีธนาคาร (Statement) ที่เป็นบัญชีเงินออมของผู้ขอสินเชื่อ (ถ้ามี)

เอกสารเพิ่มเติม

กรณีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

  1. สำเนาโฉนดทุกหน้าฉบับล่าสุด
  2. สำเนาสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
  3. สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง อาทิ สัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด.13) ใบอนุญาตปลูกสร้างบ้าน ใบคำขอเลขที่บ้าน (ถ้ามี/แล้วแต่กรณี)
  4. สำเนาใบเสร็จผ่อนดาวน์ (ถ้ามี/แล้วแต่กรณี)

กรณีเพื่อก่อสร้าง/ซ่อมแซม/ต่อเติม ที่อยู่อาศัย

  1. ใบอนุญาตก่อสร้าง แบบแปลน (พิมพ์เขียว) และสัญญารับเหมา (กรณีก่อสร้าง / ต่อเติม) ส่วนกรณีซ่อมแซม หรือต่อเติมเล็กน้อย อนุโลมให้ใช้สัญญารับเหมา และแบบแปลนที่ไม่ใช่พิมพ์เขียว (ถ้ามี)

เอกสารกู้ซื้ออสังหา ปี 2568

ธนาคารยูโอบี : เอกสารการกู้ซื้อบ้านธนาคารยูโอบี มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารทั่วไป

  1. บัตรประชาชน
  2. ทะเบียนบ้าน
  3. ทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญการหย่า (ถ้ามี)
  4. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  5. บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

  1. สลิปเงินเดือนล่าสุด และหนังสือ รับรอง เงินเดือน (ต้นฉบับ)
  2. บัญชีเงินฝากธนาคารย้อน หลัง 6 เดือน

กรณีประกอบอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว

  •  ทะเบียนการค้า
  • หนังสือรับรองกระทรวงพาณิชย์
  • หนังสือบริคณห์สนธิ

เอกสารด้านหลักทรัพย์

  1. โฉนดที่ดินทุกหน้า
  2. สัญญาจะซื้อจะขาย
  3. หลักฐานการผ่อนดาวน์

กรณีไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น

  •  สัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด.13)
  • หลักฐานการผ่อนชำระ ต่อเนื่อง 12 เดือน
  • สัญญากู้เงิน และสัญญา จำนอง

กรณีเพื่อก่อสร้างบ้าน

  • ใบอนุญาตปลูกสร้างบ้าน
  • แบบแปลนสิ่งปลูกสร้างหรือพิมพ์เขียว
  • สัญญาว่าจ้าง หรือ ใบเสนอ
  • ราคาก่อสร้างจากผู้รับเหมา

ธนาคารกรุงศรี : เอกสารการกู้ซื้อบ้านธนาคารกรุงศรี มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารทั่วไป

  1. สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  4. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า/ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  5. สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)

เอกสารแสดงรายได้

  1. กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
  • สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน (ตัวจริง)
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  1. กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนา ภ.พ.30 (ถ้ามี)

เอกสารหลักประกัน

  1. สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ขนาดเท่าตัวจริงทุกหน้า)
  2. ใบอนุญาตปลูกสร้าง/หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ทด.13) หรือหนังสือสัญญาให้ที่ดิน (ทด.14 )
  3. สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และหลักฐานการจ่ายชำระเงินดาวน์ (ถ้ามี)
  4. แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป

เอกสารหลักประกัน (เพิ่มเติมกรณีรีไฟแนนซ์)

  • สำเนาสัญญากู้เงินกับสถาบันการเงินเดิม
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน
  • สำเนาใบเสร็จเงินกู้เดือนล่าสุด

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ : เอกสารการกู้ซื้อ ธนาคารไทยพาณิชย์ มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารทั่วไป

  1. สำเนาบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง หรือสำเนาบัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า
  4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

  1. ผู้มีรายได้ประจำ
  • หนังสือรับรองเงินเดือนและสลิปเงินเดือน
  • เอกสารการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  1. กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  • เอกสารการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีส่วนตัว, บัญชีกิจการ)
  • ภาพถ่ายกิจการ 4-5 ภาพ และแผนที่ตั้งกิจการโดยสังเขป
  • สำเนาทะเบียนการค้า, หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
  • หลักฐานการนำภาษีย้อนหลัง 1 ปี (ภงด.) บันทึกรายรับ-รายจ่าย, ใบเสร็จซื้อ-ใบเสร็จขายสินค้า
  1. กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบอาชีพอิสระ
  • เอกสารการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (แพทย์, วิศวกร, ทนายความ, สถาปนิก)

เอกสารหลักประกัน

  1. สำเนาสัญญาซื้อขาย
  2. สำเนาเอกสารกรรมสิทธ์ (สำเนาโฉนด หน้า/หลัง) กรณีขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้านบนที่ดินปลอดภาระของตนเอง
  3. ใบอนุญาตก่อสร้าง (ผู้ขออนุญาตก่อสร้างต้องเป็นผู้เดียวกับผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเท่านั้น)
  4. แบบก่อสร้างได้รับอนุญาตและรายการวัสดุ (BOQ)
  5. สำเนาสัญญาว่าจ้างปลูกสร้างบ้าน
  6. สัญญาซื้อ-ขายที่ดิน (กรณีกู้ซื้อที่ดิน)

 

ธนาคารออมสิน : เอกสารการกู้ซื้อบ้านธนาคารออมสิน มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารหลักฐานของผู้กู้

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้และคู่สมรส
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า) ของผู้กู้และคู่สมรส
  3. สำเนาใบสำคัญการสมรส หรือสำเนาใบสำคัญการหย่า หรือสำเนาใบมรณบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
  4. สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

  1. กรณีพนักงานประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการ
  • หนังสือรับรองเงินเดือนของผู้กู้ สลิปเงินดือน/ใบเสียภาษีเงินได้
  • สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
  • หลักฐานอื่น ๆ แนบประกอบการพิจารณากรณีมีรายได้อื่น ๆ
  1. กรณีประกอบอาชีพอิสระ
  • สำเนาทะเบียนการค้า หรือสำเนาทะเบียนพาณิชย์/สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนพร้อมบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นฉบับล่าสุด (ไม่เกิน 3 เดือน)
    • Statement บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
    • งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี
    • รูปถ่ายกิจการ/แผนที่กิจการ
    • เอกสารอื่นๆ

เอกสารแสดงหลักทรัพย์ค้ำประกัน

  1. สำเนาโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ถ่ายเอกสารทุกหน้าขนาดเท่ากับต้นฉบับ)
  2. แผนผังบริเวณที่ตั้งหลักทรัพย์
  3. สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย ใบเสร็จรับเงินดาวน์
  4. สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านผู้ขาย (กรณีซื้อบ้านเก่า)
  5. ราคาประเมินของกรมที่ดิน (ถ้ามี)
  6. เอกสารอื่น ๆ ตามความจำเป็นที่ใช้ในการขอกู้

 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ : เอกสารขอสินเชื่อบ้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีรายละเอียดดังนี้

เอกสารทั่วไป

  1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ
  2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
  3. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า/มรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่ (ถ้ามี)
  4. ใบเปลี่ยนชื่อ หรือชื่อ-สกุล (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

  1. กรณีประกอบอาชีพประจำ
  • หนังสือรับรองเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนแบบใช้สวัสดิการของหน่วยงาน
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
  1. กรณีประกอบอาชีพอิสระ
  • รายการเดินบัญชีเงินฝาก 12 เดือน
  • หลักฐานการเงินอื่นๆ
  1. กรณีเจ้าของธุรกิจ
  • สำเนาทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
  • รายชื่อผู้ถือหุ้น
  • รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
  • สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี
  • หลักฐานการเสียภาษี เช่น ภ.พ. 30 เป็นต้น
  • รูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพพร้อมแผนที่ตั้งโดยสังเขป

 

เอกสารหลักประกัน

  1. สำเนาสัญญาการซื้อ-ขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีซื้อ)
  2. สำเนาสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงิน

 

สรุปส่งท้าย เกี่ยวกับเอกสารกู้ซื้ออสังหา ปี 2568 ผู้ขอสินเชื่อ ควรตรวจสอบมาตรการจัดเตรียมเอกสารกู้บ้านแต่ละธนาคารอย่างถี่ถ้วน แม้มีเนื้อหาที่ต้องการแบบฟอร์มหลักฐานที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างอยู่บางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเอกสารกู้ซื้อบ้านธอส หรือสถาบันการเงินอื่น ควรพิจารณาการรวบรวมเอกสารกู้บ้านอย่างรอบครอบก่อนดำเนินการกับทางเจ้าหน้าที่อยู่เสมอ

 

ข้อมูลทั้งหมด Amber International Realty ได้ทำการรวบรวมในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 หากข้อมูลมีการคาดเคลื่อนหรือมีอัปเดตเพิ่มเติมอย่างไร ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

Layout ห้องคอนโด เลือกแบบไหนให้ตรงใจไลฟ์สไตล์คุณที่สุด

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมสักหนึ่งห้อง นอกจากจะพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคา และสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว Layout หรือผังห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผังห้องที่ดี จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ Layout ห้องคอนโดแบบต่างๆ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกผังห้องที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด   ทำไม Layout ห้องคอนโดถึงสำคัญ ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต: ผังห้องที่ดี จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การพักผ่อน หรือการทำงาน การจัดเก็บของ: ห้องที่มีพื้นที่จัดเก็บของที่เพียงพอ จะช่วยให้ห้องของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น การตกแต่ง: ผังห้องจะกำหนดรูปแบบและสไตล์การตกแต่งห้องของคุณได้เป็นอย่างดี มูลค่าการขาย: ห้องที่มี Layout ดี มักจะมีมูลค่าการขายที่สูงกว่าห้องที่มี Layout ธรรมดา Layout ห้องคอนโดแบบต่างๆ ห้องสี่เหลี่ยม: ข้อดี: จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย มีพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย ข้อเสีย: อาจดูเรียบง่ายเกินไป ไม่มีความโดดเด่น ห้องรูปตัว L: ข้อดี: แบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ชัดเจน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ข้อเสีย: อาจมีมุมที่ใช้ประโยชน์ได้ยาก ห้องรูปตัว U: ข้อดี: เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บของมากมาย ข้อเสีย: อาจทำให้ห้องดูแคบลง ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือก Layout ห้อง ไลฟ์สไตล์: ถ้าคุณชอบทำอาหารบ่อยๆ ก็ควรเลือกห้องที่มีครัวขนาดใหญ่ ถ้าคุณชอบอ่านหนังสือ ก็ควรเลือกห้องที่มีพื้นที่สำหรับจัดวางชั้นหนังสือ ขนาดครอบครัว: ถ้าคุณมีครอบครัวใหญ่ ก็ควรเลือกห้องที่มีจำนวนห้องนอนที่เพียงพอ งบประมาณ: ราคาของห้องคอนโดจะขึ้นอยู่กับขนาดและ Layout ของห้อง ความต้องการส่วนตัว: คุณชอบห้องที่มีแสงธรรมชาติมากน้อยแค่ไหน ชอบห้องที่มีระเบียงหรือไม่ เคล็ดลับในการเลือก Layout ห้องคอนโด วาดผังห้อง: ลองวาดผังห้องเพื่อดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ จะวางอยู่ในตำแหน่งไหนได้บ้าง ไปดูห้องตัวอย่าง: ลองไปดูห้องตัวอย่างเพื่อสัมผัสบรรยากาศจริง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือก Layout ห้องแบบไหนดี สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ได้   การเลือก Layout ห้องคอนโดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณในระยะยาว การเลือก Layout ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขและสะดวกสบาย หากใครยังไม่รู้จะเลือก Layout ห้องแบบไหน สามารถทักปรึกษา Amber  เราได้ เรามีทีมงานมีอาชีพค่อยให้ตำปรึกษา และมีห้องหลากหลาย Layout รอให้คุณมาจับจองเป็นเจ้าของอยู่   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

28 พฤศจิกายน 2024
เปรียบเทียบ ทำเลทอง คอนโดทำเลไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2025?

เปรียบเทียบทำเลทอง คอนโดทำเลไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2025?

รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และ MRT สายสีน้ำเงิน นับเป็น ทำเลทอง เส้นเลือดใหญ่ของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร ที่เชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน ทำให้คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้เคียงรถไฟฟ้าทั้งสองสายนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ สะดวกสบายในการเดินทาง: ลดเวลาเดินทางไปทำงาน ทำธุระ หรือท่องเที่ยว ช่วยให้คุณมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน: คอนโดใกล้รถไฟฟ้ามักมีราคาสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะรักษาหรือเพิ่มมูลค่าได้ดีกว่าคอนโดในทำเลอื่น มีผู้เช่าให้บริการตลอดทั้งปี: เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อปล่อยเช่า เพราะมีผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง: สะดวกในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล และสถานบันเทิง ทำเลที่น่าสนใจใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน ย่านสีลม-สาทร: จุดเด่น: เป็นศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำของประเทศ มีอาคารสำนักงานสูงตระหง่าน ห้างสรรพสินค้าระดับโลก โรงแรมหรู และสถานทูต รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี, ศาลาแดง, สุรศักดิ์, สะพานตากสิน / MRT สีลม เหมาะสำหรับ: ผู้บริหารระดับสูง, นักธุรกิจ, ชาวต่างชาติที่ทำงานในย่านธุรกิจ ย่านอโศก-เพชรบุรี: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีความเจริญเติบโตสูง มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า และสถานบันเทิงมากมาย รถไฟฟ้า: BTS อโศก, เพชรบุรี / MRT เพชรบุรี เหมาะสำหรับ: คนทำงาน, นักศึกษา, คนที่ชอบความสะดวกสบาย และต้องการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ย่านสุขุมวิท: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารนานาชาติ สถานบันเทิง และชุมชนชาวต่างชาติ รถไฟฟ้า: BTS นานา, อ่อนนุช, พระโขนง เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบความหลากหลาย, ชาวต่างชาติ, ครอบครัวขนาดเล็ก ย่านพระราม 9: จุดเด่น: เป็นย่านธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโต มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม และคอนโดมิเนียมหรู รถไฟฟ้า: MRT พระราม 9 เหมาะสำหรับ: ผู้ทำงานในย่านธุรกิจใหม่, ครอบครัวที่ต้องการความสงบ ย่านบางนา: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง มีนิคมอุตสาหกรรม และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า: BTS บางนา เหมาะสำหรับ: ผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม, ครอบครัวขนาดใหญ่ ปัจจัยเพิ่มเติมที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อคอนโด ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้า: ยิ่งใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะดวกต่อการเดินทางมากขึ้นเท่านั้น สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม ห้องสมุด Co-working Space ขนาดห้อง: เลือกขนาดห้องให้เหมาะสมกับความต้องการและจำนวนสมาชิกในครอบครัว ราคา: เปรียบเทียบราคาของโครงการต่างๆ เพื่อเลือกโครงการที่คุ้มค่า ศักยภาพในการเติบโตของทำเล: พิจารณาว่าทำเลนั้นมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ เช่น มีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ หรือโครงการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต กฎหมายและข้อจำกัด: เช่น ข้อจำกัดในการซื้อคอนโดสำหรับชาวต่างชาติ ค่าส่วนกลาง: เปรียบเทียบค่าส่วนกลางของแต่ละโครงการ เพื่อวางแผนงบประมาณ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อคอนโด ตรวจสอบข้อมูลโครงการให้ละเอียด: เช่น ผู้พัฒนาโครงการ ประวัติโครงการที่ผ่านมา สัญญาซื้อขาย และเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบโครงการหลายๆ โครงการ: เพื่อหาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด การเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน นอกจากจะช่วยให้คุณเดินทางสะดวกสบายแล้ว ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอีกด้วย แนวโน้มตลาดคอนโดในอนาคต คอนโดมิเนียมขนาดเล็ก: เน้นความคุ้มค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยน้อยลง คอนโดมิเนียมหรู: เน้นความเป็นส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม คอนโดมิเนียมที่เน้นความยั่งยืน: ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีระบบจัดการพลังงานที่ประหยัด คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน: มีพื้นที่ Co-working Space และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับการทำงาน การเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด เนื่องจากทำเลเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ควรคำนึงถึงแนวโน้มเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าคอนโดที่คุณเลือกจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณในระยะยาว   ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อมูลโครงการอย่างละเอียด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และเปรียบเทียบโครงการต่างๆ เพื่อให้ได้โครงการที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด  อยากได้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลยนะคะ   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

14 มกราคม 2025

เทรนด์คอนโดปี 2025 เทรนด์ไหนมาแรง ?

พาคุณไปเจาะลึก เทรนด์คอนโดปี 2025 ที่น่าจับตามอง เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการตัดสินใจลงทุนหรือเลือกที่อยู่อาศัยใหม่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ปี 2025 นี้ก็เช่นกัน มีเทรนด์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งจะส่งผลต่อการออกแบบ การก่อสร้าง และการตลาดโครงการคอนโดในอนาคต เทรนด์คอนโดปี 2025 ที่น่าจับตามอง คอนโดเน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ฟิตเนสที่ทันสมัย สวนหย่อมขนาดใหญ่ พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง และระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ออกกำลังกาย ผ่อนคลาย และมีสุขภาพที่ดี เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น: เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการคอนโดมากขึ้น เช่น ระบบ Smart Home ที่ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องได้ผ่านสมาร์ทโฟน ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และพื้นที่ Co-working Space ที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน คอนโดเน้นความยืดหยุ่น: รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เช่น ห้องนอนที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้ หรือพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้หลากหลาย คอนโดเน้นความยั่งยืน: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบจัดการขยะ และวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คอนโดเน้นความเป็นส่วนตัว: หลังจากที่ต้องอยู่บ้านกันเป็นเวลานาน ทำให้ผู้คนต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงออกแบบคอนโดให้มีพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวางขึ้น เช่น ระเบียงส่วนตัว สวนส่วนตัว หรือห้องทำงานส่วนตัว ปัจจัยที่ส่งผลต่อเทรนด์คอนโดในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค เทคโนโลยี: เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อการออกแบบและการก่อสร้างคอนโด กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์มีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโด เศรษฐกิจ: สถานการณ์เศรษฐกิจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและราคาอสังหาริมทรัพย์   เทรนด์คอนโดในปี 2025 นั้นมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี เทคโนโลยี ความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และความเป็นส่วนตัว ผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมควรศึกษาข้อมูลและเทรนด์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้คอนโดที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเอง หากใครกำลังตัดสินใจซื้อคอนโดและยังไม่รู้จะเริ่มยังไงดี สามารถติดต่อเราได้เลย เรามีห้องหลากหลายโครงการ หลากหลายทำเล ในราคาที่ดีที่สุดในตลาด หรือ อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent  

10 มกราคม 2025