วางแผนการเงินอย่างไร? ให้รอบคอบในช่วง ภาวะเงินเฟ้อ

14

มี.ค. 25

202

วางแผนการเงินอย่างไร? ให้รอบคอบในช่วง ภาวะเงินเฟ้อ

จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อต้องอยู่ใน ภาวะเงินเฟ้อ ที่ข้าวของราคาแพง แล้วควรวางแผนการเงินอย่างไร มีผลกระทบอะไรกับเราบ้าง?

 

หลายคนคงรู้สึกได้ถึงค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ที่กระทบกับกำลังซื้อ และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สถานการณ์นี้เรียกว่า “ภาวะเงินเฟ้อ” ซึ่งเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ

ดังนั้น การทำความเข้าใจ และเตรียมพร้อมรับมือ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราทุกคนบริหารจัดการการเงิน และดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคงในทุกสถานการณ์

 

สภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คืออะไร?

ภาวะเงินเฟ้อ คือ สภาวะที่ระดับราคาสินค้า และบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เงินจำนวนเท่าเดิมสามารถซื้อสินค้า และบริการได้น้อยลงเมื่อเทียบกับในอดีต โดยภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงหรือต่ำจะคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า และบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ค่าสาธารณูปโภค และค่าเดินทาง

โดย 2 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ การเกิดภาวะเงินเฟ้อ มักมาจากความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ในระบบเศรษฐกิจ สามารถแบ่งสาเหตุหลักได้เป็น 2 ประการสำคัญ คือ

  1. ความต้องการสินค้า และบริการที่เพิ่มขึ้น (Demand-Pull Inflation) เมื่อความต้องการซื้อสินค้า และบริการในตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินกำลังการผลิตของผู้ประกอบการ สถานการณ์นี้มักเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น หรือมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ นอกจากนี้ หากประชาชนคาดการณ์ว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ก็อาจเกิดพฤติกรรมการกักตุนสินค้า ซึ่งยิ่งเป็นการเร่งให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากอุปทานในตลาดยิ่งขาดแคลนมากขึ้นนั่นเอง
  2. ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น (Cost-Push Inflation) เป็นสถานการณ์ที่ราคาสินค้า และบริการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยผู้ผลิตจำเป็นต้องผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค เพื่อรักษาระดับกำไรให้ธุรกิจอยู่รอดได้ สาเหตุสำคัญมักเกิดจากการพุ่งสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ รวมถึงการปรับขึ้นของค่าแรง นอกจากนี้ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ภัยธรรมชาติ และการขาดแคลนปัจจัยการผลิต ก็เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในที่สุด

 

ผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อต่อชีวิตประจำวัน

การทำความเข้าใจผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อต่อชีวิตประจำวัน และเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะเช่นนี้ ไม่เพียงช่วยให้คุณรักษาเสถียรภาพทางการเงินในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย

  1. ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อ คุณจะรู้สึกได้ถึงภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นแทบทุกด้าน โดยเฉพาะค่าอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเดินทาง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายสำคัญอย่างการดูแลสุขภาพ และการศึกษาก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  2. กำลังซื้อที่ลดลง หนึ่งในผลกระทบที่ชัดเจน คือ กำลังซื้อลดลง แม้จะมีรายได้ มีเงินเดือนเท่าเดิม แต่กลับซื้อสินค้า และบริการได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้หลายคนวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ยากขึ้น หลายครอบครัวอาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หาอาชีพเสริมมนุษย์เงินเดือนทำหลังเลิกงาน หรือตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ในช่วงนี้
  3. ส่งผลต่อเงินออม และการลงทุน การออมเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ อาจไม่ใช่วิธีเก็บเงินที่คุ้มค่าในช่วงภาวะเงินเฟ้อ เพราะมูลค่าของเงินมักจะลดลงในช่วงที่เงินเฟ้อ ส่งผลให้เงินเก็บของคุณมีมูลค่าน้อยลงไปด้วย ลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้าเก็บเงินไว้ 1,000 บาท แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เงิน 1,000 บาทนั้นอาจซื้อของได้น้อยลงเหลือแค่ 950 บาท ดังนั้น การฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยน้อยๆ อาจไม่คุ้มค่า ควรมองหาวิธีบริหารเงินออมแบบอื่นๆ เช่น ฝากประจำที่ได้ดอกเบี้ยสูงกว่า หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ

 

สรุปส่งท้าย วางแผนการเงินอย่างไร ให้รอบคอบในช่วง ภาวะเงินเฟ้อ แม้ว่าภาวะเงินเฟ้อ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของทุกคน การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ บริหารรายรับรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และมองหาโอกาสในการสร้างรายได้ ล้วนเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณผ่านสภาวะนี้ไปได้อย่างราบรื่น

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย
ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

 

 

บทความน่าสนใจ

Loft กับ Duplex ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

Loft กับ Duplex ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย คอนโดติดรถไฟฟ้าที่มีข้อดีเรื่องความสะดวกในการเดินทาง อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยได้เพียงพออีกต่อไป รูปแบบของห้องเองก็มีส่วนในการตัดสินใจของผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะห้องแบบ Loft กับ Duplex ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นห้อง 2 ชั้น ให้ความรู้สึกไม่อึดอัด และดีไซน์ที่สวยถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนวัยทำงาน แต่หลายคนยังคงสับสนว่า ห้อง Loft กับ Duplex นั้นต่างกันอย่างไร? เป็นห้อง 2 ชั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะถึงจะเป็นห้อง 2 ชั้นเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันอยู่นะคะ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนหายงงกันเองค่ะ มาเริ่มกันเลย . ห้องสไตล์ Loft – ชั้นล่างและชั้นบนจะอยู่บนโครงสร้างเดียวกัน เป็นห้องที่มีฝ้าเพดานสูงและในทางกฎหมาย ไม่มีการกำหนดความสูงขั้นต่ำของชั้นลอย – พื้นที่ใช้สอยถูกนับเพียงชั้นล่าง เนื่องจากในทางกฎหมายระบุไว้ว่าพื้นที่ใช้สอยส่วนชั้นลอย เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ จะไม่ถูกนับรวมอยู่ในโฉนด – ชั้นลอยถูกนับเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่มีประตูกั้นห้อง – มีประตูเข้าออกทางเดียวคือ ทางชั้นล่าง – ชั้นลอยจะไม่มีห้องน้ำ ข้อดีของห้องสไตล์ Loft – การเสียค่าส่วนกลางจะเสียแค่พื้นที่ใช้สอยที่ออกตามโฉนด ดังนั้นถ้าห้องขนาด 35 ตร.ม. และมีพื้นที่ใช้สอยชั้นลอย 22 ตร.ม. จะเสียค่าส่วนกลางแค่ 35 ตร.ม. – การที่มีฝ้าเพดานสูง ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งกว่าเดิม ข้อเสียของห้องสไตล์ Loft – มีความปลอดภัยค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีทางเข้า – ออก ทางเดียว หากเกิดเหตุฉุกเฉินอาจจะหนีลำบาก – ปัญหาเรื่องความสูงของชั้นลอย เนื่องจากทางกฎหมายไม่ได้กำหนดขั้นต่ำไว้ จึงทำให้บางโครงการมีความสูงของเพดานเตี้ยกว่า 2.40 เมตร ทำให้ห้องดูอึดอัด . ห้องสไตล์ Duplex – ชั้นล่างและชั้นบนอยู่บนโครงสร้างคนละชั้น ในทางกฏหมายกำหนดให้ชั้นบนมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.4 เมตร – พื้นที่ใช้สอยชั้นบนถูกนับเป็นสิ่งก่อสร้าง ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยทั้งชั้นบนและล่างจะถูกนับรวมกันอยู่ในโฉนด – ชั้นบนสามารถแบ่งเป็นห้องต่างๆ มีประตูเปิด – ปิดได้ – ตามกฎหมายกำหนดให้มีประตูเข้า – ออก ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง – ชั้นบนมักจะมีห้องน้ำด้วย โดยจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับชั้นล่าง ข้อดีของห้องสไตล์ Duplex – เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน – ความสูงของเพดาน ที่มีความสูงมาก จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น – หากเลือกแบบห้องที่มีการปิดกั้น ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ข้อเสียของห้องสไตล์ Duplex – ค่าไฟ ยิ่งห้องที่สูงและกว้างมากขึ้นเท่าไหร่ ภาระค่าไฟยิ่งมากขึ้นเท่านั้น – เสียค่าส่วนกลางที่มากขึ้นตามขนาดของห้องอีกด้วย . แล้วห้องแบบไหนที่จะตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของเรากันล่ะ? ห้องสไตล์ Loft เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการห้องที่โล่ง โปร่งสบาย เพราะมีเพดานสูง ให้ความรู้สึกทันสมัย มีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยที่เพิ่มขึ้น และยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ห้องสไตล์ Duplex เหมาะกับผู้อาศัยที่ต้องการให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความลักซ์ชัวรี่ และบรรยากาศการอาศัยอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ให้ความสะดวกสบายและมีพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้งานอย่างเต็มที่ อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงเข้าใจความแตกต่าง ของห้องสไตล์ Loft และ Duplex กันมากขึ้นแล้ว และคงมีคำตอบกันแล้วใช่ไหมคะว่าห้องแบบไหน ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แต่ในการตัดสินใจเลือกซื้อ ก็อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ กันด้วยนะคะ —————————————————————————– ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ให้บริการแบบครบจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

18 กรกฎาคม 2023
โฉนดที่ดินหาย ! ทำยังไงดี

โฉนดที่ดินหาย! ทำยังไงดี

#โฉนดที่ดิน อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายๆ คน เพราะเมื่อได้มาเราก็จะเก็บมันไว้เพราะเป็นเอกสารสำคัญของบ้าน และไม่ใช่เอกสารที่จะพกพาติดตัว เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่ แต่หากวันไหนที่ต้องใช้และพบว่า โฉนดที่ดินหาย หรือเกิดชำรุดขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง? ก่อนอื่นไม่ต้องตกใจไปนะคะ เราสามารถยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ได้ ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาบอกทุกคนเองค่ะ 1. แจ้งความต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น อันดับแรกเลยก็คือต้องไป แจ้งความต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันว่าเจ้าของที่ดินนั้นไม่ได้นำโฉนดที่ดิน ไปจำหน่าย #จำนอง หรือแลกเปลี่ยนเป็นของผู้อื่น 2. ติดต่อกับสำนักงานที่ดิน เมื่อได้ใบบันทึกประจำวันมาเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารมาติดต่อที่สำนักงานที่ดิน เพื่อขอโฉนดที่ดินใหม่ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมไปด้วยมีดังนี้ – บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ – ทะเบียนบ้านตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ – ใบแจ้งความ / บันทึกประจำวัน – พยานบุคคล 2 คน พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง ซึ่งหากเกิดปัญหาในภายหลัง พยานทั้ง 2 คนนี้ จะต้องเป็นพยานในชั้นศาลด้วย เมื่อเตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้ว จะต้องกรอกเอกสารรับรองและลงลายมือชื่อต่อหน้าเจ้าพนักงาน เพื่อรองรับว่าเจ้าของที่ดินได้ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินใหม่จริงๆ . โดยในขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินใหม่ทั้งหมดนี้ จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 75 บาท ทั้งนี้โฉนดที่ดินใหม่ หรือ ใบแทน จะมีประทับตราบนเอกสารว่า “ใบแทน” เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเอกสารฉบับนี้ สามารถใช้แทนโฉนดที่ดินฉบับจริงได้ 100% เมื่อเกิดการทำนิติกรรมหรือมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายที่ดิน ใบแทนนี้จะมีผลทางกฎหมายไม่ต่างกับโฉนดตัวจริง . เป็นอย่างไรบ้างคะ โฉนดที่ดินหาย ขอใหม่ไม่ยากและไม่วุ่นวายอย่างที่คิดใช่ไหม แต่อย่างไรก็ตามเอกสารสำคัญแบบนี้ ควรเก็บไว้ให้ดีและไม่ทำหายจะดีที่สุดนะคะ เพราะเมื่อจะทำการขายต่อหรือนำไปทำธุรกรรมอื่นๆ เนี่ย ทั้งนักลงทุน นายหน้าอสังหา หรือบุคคลที่เราทำธุรกรรมด้วย ก็จะต้องขอดูโฉนดกันอย่างแน่นอนค่ะ —————————————————————————————– ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ให้บริการแบบครบจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

25 สิงหาคม 2023
7 ข้อผิดพลาดสำหรับผู้ ปล่อยเช่าคอนโด มือใหม่

7 ข้อผิดพลาดสำหรับผู้ ปล่อยเช่าคอนโด มือใหม่

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนกับคอนโดฯ คงคิดว่าการ ปล่อยเช่าคอนโด เป็นเรื่องง่าย และได้เงินตลอดทุกเดือน เพียงแค่แต่งห้องให้สวยและถูกใจกลุ่มหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วการปล่อยเช่าคอนโดฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ยิ่งไปกว่านั้นผู้ปล่อยเช่ามือใหม่ อาจจะพลั้งพลาดและประมาทไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนทำให้ความความเสียหายตามมา วันนี้เราจะมาบอกถึงสิ่งที่ควรระวังและตรวจเช็คให้ดี ก่อนการ ปล่อยเช่าคอนโด ของคุณกันค่ะ มาเริ่มกันเลย . #ศึกษากฎระเบียบของโครงการคอนโดฯ ก่อนปล่อยเช่าคอนโด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้จ่ายเงิน และซื้อห้องนั้นมาครอบครองแล้วแต่อย่าลืมว่า คอนโดฯ แต่ละที่นั้นมีกฎระเบียบไว้ให้ลูกบ้านได้ปฎิบัตตาม อย่าลืมศึกษาให้ดีว่าทางคอนโดฯ มีกฎข้อห้ามใดบ้าง และแจ้งผู้เช่าให้ชัดเจน ไม่งั้นอาจจะถูกเรียกปรับได้โดยไม่รู้ตัวเลยนะ . #ละเลยการคัดกรองผู้เช่า ผู้ให้เช่าจำนวนไม่น้อยเลยที่กังวลเกี่ยวกับการหาผู้เช่า และอยากปล่อยห้องเช่าให้ได้เร็วที่สุด จนลืมให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผู้เช่า ก่อนที่จะย้ายเข้ามาพักอาศัย ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงมากๆ ผู้เช่าที่คุณควรหลีกเลี่ยงเลย หากไม่อยากให้ห้องเสียหายหรือมีปัญหาตามมาก็คือ – มีอาชีพและสถานะทางการเงินที่ไม่มั่นคง เพราะในอนาคตอาจจะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าคอนโดฯ ให้คุณได้ – ผู้ที่เข้ามาคุย มักจะเรียกร้องเอานี่เพิ่มนั่นเพิ่มมากจนเกินพอดี หรือขอต่อราคาลง เพราะเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจจะมีปัญหาตามมา – ผู้เช่าที่สูบบุหรี่ เพราะจะทำให้กลิ่นติดห้อง ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ของคุณ หรือในกรณีที่ไปสูบตรงระเบียง ก็อาจจะโดนเพื่อนบ้านร้องเรียนได้ ซึ่งผลกระทบจะตกมาอยู่ที่คุณได้ – ผู้เช่าที่มีเด็กเล็ก หรืออายุต่ำกว่า 10 ปี เพราะอาจจะทำให้ห้องของคุณสกปรกได้ เช่นการขีดเขียนผนัง ซึ่งการพิจารณาผู้เช่านั้นควรดูเป็นกรณีไป หากได้ผู้เช่าดีก็ถือว่าวินๆ กันไป แต่ถ้าหากได้ผู้เช่าไม่ดี เงินที่ได้มาอาจจะไม่คุ้มกับค่าเสียหายที่คุณได้รับเลย . #ไม่ได้ทำสัญญาเช่า ถือเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงเลยสำหรับข้อนี้ เพราะการให้เช่าก็นับเป็นธุรกิจ ควรมีการทำสัญญา ที่ระบุเงื่อนไขไว้ชัดเจนและรัดกุมมากที่สุด เพื่อให้ระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่ามีความเข้าใจที่ตรงกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณและผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายด้วย และคุณต้องมั่นใจด้วยว่าผู้เช่ารับทราบ และเข้าใจในข้อตกลงร่วมกันก่อนจะเซ็นชื่อลงในใบสัญญา . #ไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานการโอนค่าเช่า ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผู้ให้เช่าหลายคนมักละเลย และดูแค่ตัวหลักฐานผ่านๆ โดยไม่ตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อผู้เช่าส่งหลักฐานการโอนมา ผู้ให้เช่าควรเช็คให้ละเอียดว่ามีการโอนเงินจริงๆ โดยเช็คจาก วันที่ เวลาและยอดเงินในหลักฐาน ว่าตรงกับรายการบัญชีหรือไม่ ป้องกันผู้เช่าหัวหมอ ที่อาจจะปลอมหลักฐานและส่งมาให้คุณกันนะคะ . #ไม่ได้ตรวจสอบห้องพร้อมผู้เช่าในวันย้ายเข้าและบันทึกเป็นหลักฐาน ข้อนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ให้เช่าควรปล่อยผ่าน แต่ควรรวบรวมเป็นตารางรายการเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องทั้งหมด พร้อมเก็บบันทึกภาพถ่าย สภาพปัจจุบันของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น โดยรวบรวมเป็นหมวดย่อยหรือแบ่งตามห้องต่าง ๆ เป็นไงกันบ้างคะการปล่อยเช่าคอนโดฯ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดกันเลยใช่ไหม หากคุณอยากปล่อยเช่า แต่ยังเป็นมือใหม่และกังวลกับปัญหาที่จะตามมา ทาง Amber สามารถช่วยคุณได้นะคะ เรามีบริการตั้งแต่หาผู้เช่าจนถึงการบริหารจัดการห้อง หลังมีผู้เช่าแล้วโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ หมดกังวลกับปัญหาข้างต้นได้เลยค่ะ —————————————————————– หากสนใจสามารถติดต่อมาได้ตามข้อมูลด้านล่างเลยนะคะ LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #condoforrent #condo #condobkk #คอนโดพระราม9 #พระราม9 #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

25 สิงหาคม 2023