อัพเดท! มาตรการ LTV 2568 มีเรื่องไหนที่ต้องรู้บ้าง?

25

มี.ค. 25

290

อัพเดท! มาตรการ LTV 2568 มีเรื่องไหนที่ต้องรู้บ้าง?

ซื้อบ้าน หรือคอนโดสักห้อง อาจเป็นปัญหาน่าปวดหัวของใครหลายคน แต่หากคุณรู้และได้ อัพเดท! มาตรการ LTV 2568 แล้ว… ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่พึ่งเริ่มต้นลงทุนอสังหาฯ เพราะต่างกังวลเรื่องการขอสินเชื่อ นอกจากจะกลัวเรื่องวงเงินกู้แล้ว ยังกลัวไม่ได้รับอนุมัติ เหตุนี้จึงต้องศึกษาข้อกำหนด เงื่อนไขของธนาคาร ตาม มาตรการ LTV รวมทั้งเคล็ดลับของนักลงทุนที่นิยมลงทุนอสังหาด้วย

 

วันนี้ Amber เลยได้รวบรวมข้อสรุป การปลดล็อกมาตรการ LTV กู้ยังไงให้ได้ 100% หมายความว่าเราไม่ต้องวางเงินดาวน์ในการซื้อบ้านทั้งหลังแรก หลังที่ 2,3,4,… และจะราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือสูงกว่า 10 ล้านบาท ก็กู้ได้ 100% ไม่ต้องวางเงินดาวน์ จริงหรือไม่?

ต้องบอกว่า… จริงค่ะ!! นี่เป็นมาตรการชั่วคราวประมาณ 1 ปีเท่านั้น โดยต้องทำสัญญาเงินกู้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2569 นี้ค่ะ

หากเราย้อนกลับไปดูข้อบังคับเดิมของปี 2567 จะเห็นว่า… มีกฎเกณฑ์ให้เราต้องวางเงินดาวน์ หากต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 หรือบ้านที่มีราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนเงินดาวน์อยู่ที่ 10-30% แต่ด้วยสัญญาณของตลาดอสังหาฯ ที่ยังไม่มีแนวโน้มจะฟื้นตัว ทำให้แบงค์ชาติออกมาตรการนี้มากระตุ้น เพื่อให้คนที่อยากมีบ้านหลังที่ 2,3,4,.. หรือคนที่อยากซื้อบ้านราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท กู้ 100% ไม่ต้องวางดาวน์เลย ทำให้กู้ธนาคารได้ง่ายขึ้น ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัย

อ้างอิง : ตามข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประกาศล่าสุด 20 มีนาคม 2568

 

Amber ทำตารางสรุปมาให้เห็นภาพง่ายๆ ว่ามาตรการ LTV 2568 นี้กำหนดให้ทุกราคา และทุกสัญญาบ้านสามารถกู้ได้ 100% ไปเลย และยังคงมีเฉพาะสัญญาบ้านหลังที่ 1 ที่สามารถกู้ 110% เพื่อใช้ตกแต่งได้ค่ะ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารแล้วว่าจะให้กู้หรือไม่? ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโปรไฟล์-เครดิตทางการเงินของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ

 

มาตรการ LTV คืออะไร?

 

​​“มาตรการ LTV” เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่เป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ เนื่องจากโดยปกติแล้วในการซื้อบ้าน คนส่วนใหญ่มักจะซื้อด้วยเงินกู้และทยอยผ่อนจ่าย แต่ในการกู้เงินซื้อบ้านนั้น ธนาคารอาจไม่ได้ปล่อยเงินกู้ให้เต็ม 100% ของราคาบ้านเสมอไป ผู้ซื้อจึงอาจต้องวาง “เงินดาวน์” (เงินส่วนแรกที่จะต้องจ่ายเวลากู้ซื้อบ้าน) ก่อน

ซึ่งมาตรการ LTV นี้เอง… ที่เป็นเป็นมาตรการที่กำหนดวงเงินที่ผู้กู้จะกู้ซื้อบ้านได้ (หรืออีกนัยหนึ่งก็ คือ กำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำที่ผู้กู้จะต้องจ่าย) โดยพิจารณาจากราคาบ้านและจำนวนสัญญาที่กู้เป็นหลัก

 

ทำไมต้องออก LTV?

 

เหตุผลสำคัญที่ต้องออกมาตรการ LTV ก็เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อบ้านให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่กระตุ้นให้ประชาชนก่อหนี้เกินตัว รวมถึงการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เกินควร อันจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการเติบโตเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป

 

LTV นั้นย่อมาจากคำเต็มว่า loan-to-value ratio หมายถึง อัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้าน ตัวอย่างเช่น หากบ้านราคา 2 ล้านบาท และกำหนดให้ LTV = 90% หมายความว่าเราจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้านได้เพียง 1.8 ล้านบาท (90% x 2 ล้าน) และต้องวางเงินดาวน์อีก 2 แสนบาท สำหรับส่วนที่เหลืออีก 10% ของราคาบ้านนั่นเอง

อัพเดท! มาตรการ LTV 2568 มีเรื่องไหนที่ต้องรู้บ้าง?

สำหรับมาตรการ LTV หรือในชื่อที่เป็นทางการว่า “หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย” มีหลักการสำคัญคือการกำหนด LTV (อีกนัยหนึ่งคือกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ ตามตัวอย่างข้างต้น) ของการกู้สินเชื่อใหม่และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ให้เข้มขึ้นเพื่อที่จะสะท้อนความเสี่ยงได้ดีขึ้น สำหรับการผ่อนบ้านพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป หรือบ้านมีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป

ดังนั้นมาตรการ LTV จึงส่งผลเฉพาะกับคนที่ผ่อนบ้าน 2 หลังพร้อมๆ กันหรือกู้ซื้อบ้านที่ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น!

 

มาตรการ LTV 2567 ก่อนเข้าสู่มาตรการ LTV (ชั่วคราว)ในปี 2568

 

มาตรการ LTV หลักๆ ในปีที่แล้วจะมีอยู่ 2 ประเด็นด้วยกัน คือ

  1. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็นร้อยละ 100 สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี (1) มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป และ (2) มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป

 

  1. การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569

 

สรุปส่งท้าย หวังว่าบทความ อัพเดท! มาตรการ LTV 2568 มีเรื่องไหนที่ต้องรู้บ้าง? นี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านทุกคนที่กำลังเตรียมตัวหาข้อมูลกู้ซื้อบ้าน-คอนโด-ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ให้ทุกคนได้วางแผน และผ่อนบ้านได้อย่างสบายใจ

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย
ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

Loft กับ Duplex ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

Loft กับ Duplex ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย คอนโดติดรถไฟฟ้าที่มีข้อดีเรื่องความสะดวกในการเดินทาง อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยได้เพียงพออีกต่อไป รูปแบบของห้องเองก็มีส่วนในการตัดสินใจของผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะห้องแบบ Loft กับ Duplex ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นห้อง 2 ชั้น ให้ความรู้สึกไม่อึดอัด และดีไซน์ที่สวยถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนวัยทำงาน แต่หลายคนยังคงสับสนว่า ห้อง Loft กับ Duplex นั้นต่างกันอย่างไร? เป็นห้อง 2 ชั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะถึงจะเป็นห้อง 2 ชั้นเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันอยู่นะคะ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนหายงงกันเองค่ะ มาเริ่มกันเลย . ห้องสไตล์ Loft – ชั้นล่างและชั้นบนจะอยู่บนโครงสร้างเดียวกัน เป็นห้องที่มีฝ้าเพดานสูงและในทางกฎหมาย ไม่มีการกำหนดความสูงขั้นต่ำของชั้นลอย – พื้นที่ใช้สอยถูกนับเพียงชั้นล่าง เนื่องจากในทางกฎหมายระบุไว้ว่าพื้นที่ใช้สอยส่วนชั้นลอย เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ จะไม่ถูกนับรวมอยู่ในโฉนด – ชั้นลอยถูกนับเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่มีประตูกั้นห้อง – มีประตูเข้าออกทางเดียวคือ ทางชั้นล่าง – ชั้นลอยจะไม่มีห้องน้ำ ข้อดีของห้องสไตล์ Loft – การเสียค่าส่วนกลางจะเสียแค่พื้นที่ใช้สอยที่ออกตามโฉนด ดังนั้นถ้าห้องขนาด 35 ตร.ม. และมีพื้นที่ใช้สอยชั้นลอย 22 ตร.ม. จะเสียค่าส่วนกลางแค่ 35 ตร.ม. – การที่มีฝ้าเพดานสูง ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งกว่าเดิม ข้อเสียของห้องสไตล์ Loft – มีความปลอดภัยค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีทางเข้า – ออก ทางเดียว หากเกิดเหตุฉุกเฉินอาจจะหนีลำบาก – ปัญหาเรื่องความสูงของชั้นลอย เนื่องจากทางกฎหมายไม่ได้กำหนดขั้นต่ำไว้ จึงทำให้บางโครงการมีความสูงของเพดานเตี้ยกว่า 2.40 เมตร ทำให้ห้องดูอึดอัด . ห้องสไตล์ Duplex – ชั้นล่างและชั้นบนอยู่บนโครงสร้างคนละชั้น ในทางกฏหมายกำหนดให้ชั้นบนมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.4 เมตร – พื้นที่ใช้สอยชั้นบนถูกนับเป็นสิ่งก่อสร้าง ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยทั้งชั้นบนและล่างจะถูกนับรวมกันอยู่ในโฉนด – ชั้นบนสามารถแบ่งเป็นห้องต่างๆ มีประตูเปิด – ปิดได้ – ตามกฎหมายกำหนดให้มีประตูเข้า – ออก ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง – ชั้นบนมักจะมีห้องน้ำด้วย โดยจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับชั้นล่าง ข้อดีของห้องสไตล์ Duplex – เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน – ความสูงของเพดาน ที่มีความสูงมาก จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น – หากเลือกแบบห้องที่มีการปิดกั้น ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ข้อเสียของห้องสไตล์ Duplex – ค่าไฟ ยิ่งห้องที่สูงและกว้างมากขึ้นเท่าไหร่ ภาระค่าไฟยิ่งมากขึ้นเท่านั้น – เสียค่าส่วนกลางที่มากขึ้นตามขนาดของห้องอีกด้วย . แล้วห้องแบบไหนที่จะตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของเรากันล่ะ? ห้องสไตล์ Loft เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการห้องที่โล่ง โปร่งสบาย เพราะมีเพดานสูง ให้ความรู้สึกทันสมัย มีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยที่เพิ่มขึ้น และยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ห้องสไตล์ Duplex เหมาะกับผู้อาศัยที่ต้องการให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความลักซ์ชัวรี่ และบรรยากาศการอาศัยอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ให้ความสะดวกสบายและมีพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้งานอย่างเต็มที่ อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงเข้าใจความแตกต่าง ของห้องสไตล์ Loft และ Duplex กันมากขึ้นแล้ว และคงมีคำตอบกันแล้วใช่ไหมคะว่าห้องแบบไหน ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แต่ในการตัดสินใจเลือกซื้อ ก็อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ กันด้วยนะคะ —————————————————————————– ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ให้บริการแบบครบจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

18 กรกฎาคม 2023
โฉนดที่ดินหาย ! ทำยังไงดี

โฉนดที่ดินหาย! ทำยังไงดี

#โฉนดที่ดิน อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายๆ คน เพราะเมื่อได้มาเราก็จะเก็บมันไว้เพราะเป็นเอกสารสำคัญของบ้าน และไม่ใช่เอกสารที่จะพกพาติดตัว เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่ แต่หากวันไหนที่ต้องใช้และพบว่า โฉนดที่ดินหาย หรือเกิดชำรุดขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง? ก่อนอื่นไม่ต้องตกใจไปนะคะ เราสามารถยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ได้ ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาบอกทุกคนเองค่ะ 1. แจ้งความต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น อันดับแรกเลยก็คือต้องไป แจ้งความต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันว่าเจ้าของที่ดินนั้นไม่ได้นำโฉนดที่ดิน ไปจำหน่าย #จำนอง หรือแลกเปลี่ยนเป็นของผู้อื่น 2. ติดต่อกับสำนักงานที่ดิน เมื่อได้ใบบันทึกประจำวันมาเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารมาติดต่อที่สำนักงานที่ดิน เพื่อขอโฉนดที่ดินใหม่ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมไปด้วยมีดังนี้ – บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ – ทะเบียนบ้านตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ – ใบแจ้งความ / บันทึกประจำวัน – พยานบุคคล 2 คน พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง ซึ่งหากเกิดปัญหาในภายหลัง พยานทั้ง 2 คนนี้ จะต้องเป็นพยานในชั้นศาลด้วย เมื่อเตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้ว จะต้องกรอกเอกสารรับรองและลงลายมือชื่อต่อหน้าเจ้าพนักงาน เพื่อรองรับว่าเจ้าของที่ดินได้ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินใหม่จริงๆ . โดยในขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินใหม่ทั้งหมดนี้ จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 75 บาท ทั้งนี้โฉนดที่ดินใหม่ หรือ ใบแทน จะมีประทับตราบนเอกสารว่า “ใบแทน” เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเอกสารฉบับนี้ สามารถใช้แทนโฉนดที่ดินฉบับจริงได้ 100% เมื่อเกิดการทำนิติกรรมหรือมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายที่ดิน ใบแทนนี้จะมีผลทางกฎหมายไม่ต่างกับโฉนดตัวจริง . เป็นอย่างไรบ้างคะ โฉนดที่ดินหาย ขอใหม่ไม่ยากและไม่วุ่นวายอย่างที่คิดใช่ไหม แต่อย่างไรก็ตามเอกสารสำคัญแบบนี้ ควรเก็บไว้ให้ดีและไม่ทำหายจะดีที่สุดนะคะ เพราะเมื่อจะทำการขายต่อหรือนำไปทำธุรกรรมอื่นๆ เนี่ย ทั้งนักลงทุน นายหน้าอสังหา หรือบุคคลที่เราทำธุรกรรมด้วย ก็จะต้องขอดูโฉนดกันอย่างแน่นอนค่ะ —————————————————————————————– ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ให้บริการแบบครบจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

25 สิงหาคม 2023
7 ข้อผิดพลาดสำหรับผู้ ปล่อยเช่าคอนโด มือใหม่

7 ข้อผิดพลาดสำหรับผู้ ปล่อยเช่าคอนโด มือใหม่

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนกับคอนโดฯ คงคิดว่าการ ปล่อยเช่าคอนโด เป็นเรื่องง่าย และได้เงินตลอดทุกเดือน เพียงแค่แต่งห้องให้สวยและถูกใจกลุ่มหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วการปล่อยเช่าคอนโดฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ยิ่งไปกว่านั้นผู้ปล่อยเช่ามือใหม่ อาจจะพลั้งพลาดและประมาทไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนทำให้ความความเสียหายตามมา วันนี้เราจะมาบอกถึงสิ่งที่ควรระวังและตรวจเช็คให้ดี ก่อนการ ปล่อยเช่าคอนโด ของคุณกันค่ะ มาเริ่มกันเลย . #ศึกษากฎระเบียบของโครงการคอนโดฯ ก่อนปล่อยเช่าคอนโด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้จ่ายเงิน และซื้อห้องนั้นมาครอบครองแล้วแต่อย่าลืมว่า คอนโดฯ แต่ละที่นั้นมีกฎระเบียบไว้ให้ลูกบ้านได้ปฎิบัตตาม อย่าลืมศึกษาให้ดีว่าทางคอนโดฯ มีกฎข้อห้ามใดบ้าง และแจ้งผู้เช่าให้ชัดเจน ไม่งั้นอาจจะถูกเรียกปรับได้โดยไม่รู้ตัวเลยนะ . #ละเลยการคัดกรองผู้เช่า ผู้ให้เช่าจำนวนไม่น้อยเลยที่กังวลเกี่ยวกับการหาผู้เช่า และอยากปล่อยห้องเช่าให้ได้เร็วที่สุด จนลืมให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผู้เช่า ก่อนที่จะย้ายเข้ามาพักอาศัย ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงมากๆ ผู้เช่าที่คุณควรหลีกเลี่ยงเลย หากไม่อยากให้ห้องเสียหายหรือมีปัญหาตามมาก็คือ – มีอาชีพและสถานะทางการเงินที่ไม่มั่นคง เพราะในอนาคตอาจจะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าคอนโดฯ ให้คุณได้ – ผู้ที่เข้ามาคุย มักจะเรียกร้องเอานี่เพิ่มนั่นเพิ่มมากจนเกินพอดี หรือขอต่อราคาลง เพราะเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจจะมีปัญหาตามมา – ผู้เช่าที่สูบบุหรี่ เพราะจะทำให้กลิ่นติดห้อง ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ของคุณ หรือในกรณีที่ไปสูบตรงระเบียง ก็อาจจะโดนเพื่อนบ้านร้องเรียนได้ ซึ่งผลกระทบจะตกมาอยู่ที่คุณได้ – ผู้เช่าที่มีเด็กเล็ก หรืออายุต่ำกว่า 10 ปี เพราะอาจจะทำให้ห้องของคุณสกปรกได้ เช่นการขีดเขียนผนัง ซึ่งการพิจารณาผู้เช่านั้นควรดูเป็นกรณีไป หากได้ผู้เช่าดีก็ถือว่าวินๆ กันไป แต่ถ้าหากได้ผู้เช่าไม่ดี เงินที่ได้มาอาจจะไม่คุ้มกับค่าเสียหายที่คุณได้รับเลย . #ไม่ได้ทำสัญญาเช่า ถือเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงเลยสำหรับข้อนี้ เพราะการให้เช่าก็นับเป็นธุรกิจ ควรมีการทำสัญญา ที่ระบุเงื่อนไขไว้ชัดเจนและรัดกุมมากที่สุด เพื่อให้ระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่ามีความเข้าใจที่ตรงกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณและผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายด้วย และคุณต้องมั่นใจด้วยว่าผู้เช่ารับทราบ และเข้าใจในข้อตกลงร่วมกันก่อนจะเซ็นชื่อลงในใบสัญญา . #ไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานการโอนค่าเช่า ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผู้ให้เช่าหลายคนมักละเลย และดูแค่ตัวหลักฐานผ่านๆ โดยไม่ตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อผู้เช่าส่งหลักฐานการโอนมา ผู้ให้เช่าควรเช็คให้ละเอียดว่ามีการโอนเงินจริงๆ โดยเช็คจาก วันที่ เวลาและยอดเงินในหลักฐาน ว่าตรงกับรายการบัญชีหรือไม่ ป้องกันผู้เช่าหัวหมอ ที่อาจจะปลอมหลักฐานและส่งมาให้คุณกันนะคะ . #ไม่ได้ตรวจสอบห้องพร้อมผู้เช่าในวันย้ายเข้าและบันทึกเป็นหลักฐาน ข้อนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ให้เช่าควรปล่อยผ่าน แต่ควรรวบรวมเป็นตารางรายการเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องทั้งหมด พร้อมเก็บบันทึกภาพถ่าย สภาพปัจจุบันของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น โดยรวบรวมเป็นหมวดย่อยหรือแบ่งตามห้องต่าง ๆ เป็นไงกันบ้างคะการปล่อยเช่าคอนโดฯ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดกันเลยใช่ไหม หากคุณอยากปล่อยเช่า แต่ยังเป็นมือใหม่และกังวลกับปัญหาที่จะตามมา ทาง Amber สามารถช่วยคุณได้นะคะ เรามีบริการตั้งแต่หาผู้เช่าจนถึงการบริหารจัดการห้อง หลังมีผู้เช่าแล้วโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ หมดกังวลกับปัญหาข้างต้นได้เลยค่ะ —————————————————————– หากสนใจสามารถติดต่อมาได้ตามข้อมูลด้านล่างเลยนะคะ LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #condoforrent #condo #condobkk #คอนโดพระราม9 #พระราม9 #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

25 สิงหาคม 2023