
ลงทุนคอนโดใหม่หรือมือสอง แบบไหนคุ้มกว่า
ลงทุนคอนโดใหม่หรือมือสอง แบบไหนคุ้มกว่า ก่อนลงทุน ต้องเข้าใจก่อนว่า “เป้าหมายคืออะไร” ก่อนจะตัดสินใจซื้อคอนโดใหม่หรือมือสอง คำถามแรกที่ควรถามตัวเอง คือ “ซื้อเพื่ออยู่เอง หรือเพื่อปล่อยเช่า / เก็งกำไร?” เพราะเป้าหมายการลงทุนจะเป็นตัวกำหนดว่าแบบไหน “คุ้มกว่า” สำหรับคุณ คอนโด “ใหม่” ความสดใหม่ที่มาพร้อมราคาพรีเมียม ข้อดีของคอนโดใหม่ อาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Co-Working Space หรือระบบ Smart Home มีครบ เหมาะกับกลุ่มผู้เช่ารุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ค่าบำรุงและซ่อมบำน้อย ทุกอย่างยังใหม่ ทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมใหญ่ในช่วง 5–10 ปีแรก ได้โปรโมชั่นจากโครงการ ผู้พัฒนามักจัดโปร เช่น ฟรีโอน ฟรีเฟอร์นิเจอร์ หรือดาวน์ต่ำ ผ่อนเบา ช่วยลดภาระเงินสดตอนซื้อ เหมาะกับผู้ซื้อเพื่ออยู่เองหรือเก็งกำไรระยะสั้น เพราะคอนโดใหม่ สามารถขายต่อได้ง่ายในช่วงเปิดขาย – สร้างเสร็จ ข้อเสียของคอนโดใหม่ ราคาต่อ ตร.ม. มักสูงกว่าโซนเดียวกัน 15–30% ทำเลใหม่อาจยังไม่พัฒนาเต็มที่ เช่น ห่างสถานีรถไฟฟ้า หรือศูนย์การค้า ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง (ค่าส่วนกลาง, กองทุนแรกเข้า ฯลฯ) หากซื้อเพื่อปล่อยเช่า อัตราผลตอบแทนอาจต่ำกว่าคอนโดมือสองในระยะสั้น คอนโด “มือสอง” คุ้มค่า ราคาย่อมเยา แต่ต้องเลือกให้ดี ข้อดีของคอนโดมือสอง ราคาต่อตารางเมตรถูกกว่า 20–40% โดยเฉพาะในทำเลดี เช่น ติดรถไฟฟ้า หรือใจกลางเมือง ทำให้ผลตอบแทนจากค่าเช่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาซื้อ เห็นของจริงก่อนตัดสินใจ ทั้งห้อง วิว ทิศแดด เสียงรบกวน และสภาพส่วนกลาง ไม่มีความเสี่ยงจาก “ภาพจำลอง” เหมือนคอนโดใหม่ ค่าเช่าเริ่มต้นได้ทันที ไม่ต้องรอสร้างเสร็จ สามารถปล่อยเช่าหรือรีโนเวตขายต่อได้เลย ต่อรองราคาได้ ผู้ขายส่วนใหญ่ยืดหยุ่นกว่าโครงการ สามารถเจรจาราคาได้ตามภาวะตลาด ข้อเสียของคอนโดมือสอง อาจมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซม / รีโนเวทเพิ่มเติม ระบบอาคารหรือส่วนกลางบางแห่งเสื่อมสภาพ ต้องตรวจสอบหนี้สินคงค้าง (ค่าส่วนกลาง / ภาษี) ก่อนซื้อ บางโครงการอาจมีสัดส่วนผู้เช่าสูง ทำให้ราคาขายต่อโตช้า แล้ว… แบบไหน “คุ้มกว่า” ขึ้นอยู่กับ “เป้าหมาย” หากเป้าหมาย คือ ซื้อเพื่ออยู่เอง คอนโดใหม่ เหมาะกับคนชอบเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่เพื่อลงทุนปล่อยเช่า คอนโดมือสอง เหมาะกับคนอยากเริ่มลงทุนเร็ว ผลตอบแทนค่าเช่าดีกว่า รวมถึงผลกำไรคอนโดใหม่ โอกาสราคาขึ้นช่วงเปิดตัวสูง ส่วนคอนโดมือสองในทำเลดี ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง สรุปส่งท้าย ลงทุนคอนโดใหม่หรือมือสอง แบบไหนคุ้มกว่า คอนโด “ใหม่” เด่นเรื่องความสะดวกและภาพลักษณ์ คอนโด “มือสอง” เด่นเรื่องราคาคุ้มและผลตอบแทนเช่าดี การเลือกให้ “คุ้ม” จึงไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่ต้องดู ทำเล ศักยภาพ และเป้าหมายการลงทุน ของคุณร่วมด้วยนั่นเองค่ะ… 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ✨ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ✨ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ✨ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ✨ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service 📍บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด 📍บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด 📍บริการบริหารและจัดการคอนโด 📍LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs 📍Tel : 089-986-0202 📍Youtube : @amberrealty 📍Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty 📍เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

แนวโน้มการ ลงทุนคอนโด ปีนี้ควรซื้อโซนไหน?
แนวโน้มการ ลงทุนคอนโด ปีนี้ ควรซื้อ “โซนไหน” ถึงจะคุ้มค่าที่สุด? ตลาดคอนโดในปีนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนอสังหาหลายคนเริ่มมองหาทำเลทอง “ซื้อคอนโดไว้เก็บค่าเช่าหรือขายต่อ” แต่คำถามสำคัญคือ… “ปีนี้ ควรซื้อคอนโดโซนไหน ถึงจะคุ้มและมีอนาคต?” วันนี้ Amber จะพาเจาะลึกแนวโน้มการลงทุนคอนโดปีนี้ พร้อมชี้โซนน่าซื้อที่น่าจับตาที่สุด 1. โซน CBD เก่า – ทำเลใจกลางเมืองที่ยังมีดีมานด์จริง แม้ราคาคอนโดในย่าน สุขุมวิท, สีลม, สาทร, เพลินจิต จะอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังเป็น “โซนปลอดภัย” สำหรับนักลงทุน เพราะความต้องการเช่าจากชาวต่างชาติและคนทำงานยังคงหนาแน่น เหมาะสำหรับ • นักลงทุนที่เน้นปล่อยเช่าระยะยาว • ผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ที่มูลค่าไม่ตกง่าย 2. โซนใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่ ศักยภาพพุ่ง ราคายังไปต่อได้ รถไฟฟ้าสายใหม่ เช่น สายสีชมพู (มีนบุรี–แคราย), สายสีเหลือง (ลาดพร้าว–สำโรง) และ สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม–มีนบุรี) ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นโซนศักยภาพสูง เพราะเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกขึ้น ทำเลที่น่าจับตา คือ แคราย, หลักสี่, มีนบุรี, ลาดพร้าวตอนปลาย และศรีนครินทร์ ทำเลพวกนี้ยังมีราคาที่ดินยังไม่สูงเท่าในเมือง แต่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก 3. โซนชานเมืองใกล้แหล่งงาน คอนโดราคาจับต้องได้ กำลังซื้อมหาศาล พื้นที่อย่าง รังสิต, บางนา, พระราม 2, บางใหญ่, ลำลูกกา กลายเป็นโซนคอนโดที่ขายดีต่อเนื่อง เพราะราคายังอยู่ในระดับไม่เกิน 2 ล้านบาท เหมาะกับกลุ่ม First Jobber และครอบครัวเริ่มต้น เทรนด์ • Developer หันมาพัฒนา “คอนโด Low-rise ใกล้รถไฟฟ้า” มากขึ้น • มีศักยภาพปล่อยเช่ากลุ่มคนทำงานในนิคมและโรงงาน 4. โซนที่มีมหาวิทยาลัยหรือโรงพยาบาลใหญ่ – ปล่อยเช่าง่าย อีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจคือ “คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล” เช่น ศาลายา, ธรรมศาสตร์รังสิต, ศรีราชา, แม่โจ้, มข. ทำให้ดีมานด์เช่าจากนักศึกษา และบุคลากรเพิ่มขึ้นทุกปีเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนค่าเช่ามั่นคงและสม่ำเสมอ สรุปแนวโน้มการลงทุนคอนโดปีนี้ ทำเล CBD เดิม ปล่อยเช่าง่าย มูลค่าทรงตัว เหมาะกับนักลงทุนสายปลอดภัย ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่ ศักยภาพเติบโตสูง ราคายังไม่แพง นักลงทุนใหม่ เน้น Capital Gain ทำเลชานเมือง ราคาถูก กำไรจากเช่า ลงทุนระยะกลาง–ยาว ทำเลใกล้มหาวิทยาลัย/โรงพยาบาล ความต้องการเช่ามั่นคง ลงทุนค่าเช่าระยะยาวได้ดี สรุปส่งท้าย การ ลงทุนคอนโด ในปีนี้ยังคงน่าสนใจ โดยเฉพาะโซนใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่และพื้นที่ชานเมืองที่กำลังเติบโต แต่ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรดูปัจจัยด้าน “ราคาประเมิน, ศักยภาพทำเล, กลุ่มผู้เช่าเป้าหมาย” ให้รอบด้าน 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ✨ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ✨ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ✨ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ✨ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service 📍บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด 📍บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด 📍บริการบริหารและจัดการคอนโด 📍LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs 📍Tel : 089-986-0202 📍Youtube : @amberrealty 📍Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty 📍เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

Amber คว้ารางวัล 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠𝐢𝐧𝐬𝐢𝐝𝐞𝐫 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝 𝐀𝐠𝐞𝐧𝐭 𝐀𝐰𝐚𝐫𝐝 𝟐𝟎𝟐𝟓
“อำพัน” (Amber) คืออัญมณีล้ำค่า ที่เก็บรักษา และเพิ่ม “คุณค่า” ของสิ่งเหล่านั้นตามกาลเวลา 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 ใช้หลักการเดียวกัน เราไม่คาดเดา แต่ใช้ Smart Tools และ Data Insight เพื่อสร้างรากฐาน ข้อมูลที่แข็งแกร่ง เพิ่มรักษาและเพิ่มมูลค่า เป็น คู่คิด เคียงข้างคุณ ให้ได้ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุด ความมุ่งมั่นนี้ การันตีด้วยรางวัล “𝐁𝐞𝐬𝐭 𝐒𝐦𝐚𝐫𝐭 𝐀𝐠𝐞𝐧𝐜𝐲” จากเวทีอันทรงเกียรติ 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠𝐢𝐧𝐬𝐢𝐝𝐞𝐫 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝 𝐀𝐠𝐞𝐧𝐭 𝐀𝐰𝐚𝐫𝐝 𝟐𝟎𝟐𝟓 รางวัลนี้คือการตอกย้ำว่า เราคือผู้นำ ในวงการเอเจ้นอสังหาฯของประเทศไทย และพร้อมเป็น “อำพัน” ที่เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินของคุณอย่างยั่งยืน! ขอบคุณ Livinginsider สำหรับรางวัลอันทรงเกียรติ, พาร์ทเนอร์, ทีมงาน Amber และลูกค้าทุกท่านที่เชื่อมั่นใน Amber 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด #Amber #amberrealty #amberinterrealty #Livinginsider #LivinginsiderThailandAgentAwards2025

ทำไม คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ถึงราคาแพง?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหรือสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คือ “ ทำไม คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ถึงราคาแพงกว่าคอนโดที่อยู่ไกล?” คำตอบอยู่ที่ “ทำเล” และ “ความสะดวกในการใช้ชีวิต” ซึ่งถือเป็นหัวใจของการพัฒนาอสังหาในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ทำเลทอง เดินทางสะดวก ตอบโจทย์ชีวิตเมือง คอนโดใกล้รถไฟฟ้ามักตั้งอยู่ในย่านที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เหมาะกับคนทำงานในเมืองที่ต้องการลดเวลารถติด ยิ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากเท่าไหร่ มูลค่าทรัพย์ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เพราะ “เวลา” คือ สิ่งที่คนเมืองยอมจ่ายเพื่อซื้อ “ความสะดวกสบาย” ความต้องการสูง แต่พื้นที่จำกัด คอนโดใกล้รถไฟฟ้า “มีจำกัด” ในขณะที่ความต้องการของผู้ซื้อและผู้เช่ายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุปสงค์มากกว่าอุปทาน ราคาจึงขยับสูงขึ้นตามกลไกตลาด ผู้พัฒนาโครงการเองก็ต้องแบกรับต้นทุนที่ดินซึ่งสูงกว่าพื้นที่อื่นหลายเท่าตัว ลงทุนง่าย ปล่อยเช่าได้เร็ว อีกหนึ่งเหตุผลที่ราคาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าแพง คือ “ความคุ้มค่าในการลงทุน” ไม่ว่าจะปล่อยเช่าหรือขายต่อ มักได้ราคาดีกว่าโซนที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า เพราะผู้เช่ากลุ่มใหญ่ในเมือง เช่น พนักงานออฟฟิศ ชาวต่างชาติ หรือคนรุ่นใหม่ ต่างมองหาคอนโดที่เดินทางสะดวกเป็นอันดับแรก โอกาสในการเติบโตของมูลค่าทรัพย์ (Capital Gain) เมื่อมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคต คอนโดที่อยู่ใกล้สถานีมักได้รับอานิสงส์โดยตรง ราคาประเมินที่ดินและมูลค่าทรัพย์สินจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นทำเลที่ “ปลอดภัย” สำหรับการถือครองระยะยาว ไลฟ์สไตล์ครบครัน รอบสถานีรถไฟฟ้า โดยรอบสถานีรถไฟฟ้ามักมีศูนย์การค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ผู้พัฒนาโครงการจึงมักชูจุดขาย “อยู่ใกล้ทุกอย่าง เดินทางง่าย” ซึ่งกลายเป็นภาพลักษณ์ของการใช้ชีวิตแบบคนเมืองยุคใหม่ ยิ่งทำให้ราคาคอนโดในโซนนั้นสูงขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สรุปส่งท้าย “คอนโดใกล้รถไฟฟ้า” คือ การจ่ายเพื่อความคุ้มค่าในอนาคต แม้ราคาจะสูงกว่าคอนโดทั่วไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความสะดวกในการเดินทาง, ศักยภาพในการปล่อยเช่า, มูลค่าเพิ่มของทรัพย์ในระยะยาว ดังนั้น สำหรับทั้งผู้ที่อยู่อาศัยเองและนักลงทุน คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ยังคงเป็น “ทำเลทอง” ที่น่าจับตาเสมอนั่นเองค่ะ 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ✨ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ✨ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ✨ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ✨ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service 📍บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด 📍บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด 📍บริการบริหารและจัดการคอนโด 📍LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs 📍Tel : 089-986-0202 📍Youtube : @amberrealty 📍Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty 📍เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ซื้อคอนโดช่วงพรีเซลดีไหม? เจาะลึกข้อดี ข้อเสียก่อนตัดสินใจ
คอนโดพรีเซล คืออะไร? “คอนโดพรีเซล” (Pre-Sale) หมายถึง โครงการคอนโดที่เปิดขายก่อนสร้างเสร็จ โดยผู้ซื้อจะจองและทำสัญญาซื้อขายในช่วงที่โครงการยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง หรือบางครั้งยังไม่เริ่มสร้างเลย โครงการพรีเซลมักจะเปิดตัวพร้อมโปรโมชั่นแรงๆ เช่น ส่วนลดวันเปิดจอง, เฟอร์นิเจอร์ฟรี, เงินจอง ทำสัญญาเริ่มต้นเพียงหลักหมื่น แต่คำถามคือ… “การซื้อคอนโดช่วงพรีเซล ดีจริงไหม?” มาดูข้อดี–ข้อเสียให้ครบก่อนตัดสินใจกันค่ะ… ข้อดีของการซื้อคอนโดช่วงพรีเซล ได้ราคาถูกกว่าหลังสร้างเสร็จ โดยทั่วไป ราคาคอนโดพรีเซลจะ ถูกกว่าช่วงโอน 5–20% เพราะผู้พัฒนาโครงการต้องการระดมทุนและสร้างยอดขายตั้งแต่ต้น เช่น ห้องราคา 2.5 ล้านบาทในช่วงพรีเซล อาจขยับเป็น 2.8–3.0 ล้านเมื่อสร้างเสร็จ เลือกตำแหน่งห้องได้ก่อนใคร ซื้อก่อน = เลือกก่อน คุณสามารถเลือกห้องที่วิวดีที่สุด, ไม่โดนแดดบ่าย, หรืออยู่ชั้นที่ต้องการได้ก่อนผู้อื่น ผ่อนดาวน์สบายๆ ระหว่างก่อสร้าง ในช่วงที่โครงการยังสร้างอยู่ (ปกติ 2–3 ปี) ผู้ซื้อจะผ่อนดาวน์เดือนละหลักพัน ถึง หลักหมื่น ช่วยให้เก็บเงินได้ต่อเนื่อง และมีเวลาเตรียมสินเชื่อก่อนโอนจริง มีโอกาสเก็งกำไรได้ นักลงทุนจำนวนมากนิยมซื้อพรีเซลเพราะ “ซื้อถูก ขายต่อได้กำไร เมื่อโครงการเสร็จ”ถ้าทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า หรือเป็นโครงการจากแบรนด์ใหญ่ ราคาหลังสร้างเสร็จอาจปรับขึ้นสูง ข้อเสียของการซื้อคอนโดพรีเซล เห็นแค่โมเดล ไม่เห็นของจริง หลายครั้งสิ่งที่เห็นในห้องตัวอย่างอาจไม่เหมือนห้องจริง 100% เช่น วัสดุแตกต่าง หรือขนาดห้องเล็กกว่าที่คิด ความเสี่ยงจากผู้พัฒนาโครงการ หากบริษัทไม่มีความมั่นคง หรือมีปัญหาทางการเงิน อาจเกิด กรณีโครงการล่าช้า หรือหยุดก่อสร้าง ได้ เงื่อนไขสัญญาซื้อขาย บางโครงการมีเงื่อนไขยกเลิกสัญญาที่ยุ่งยาก หรือไม่คืนเงินจอง หากผู้ซื้อต้องการยกเลิก จึงควรอ่านสัญญาให้ละเอียด และเช็กชื่อผู้พัฒนาในระบบของกรมที่ดิน ความเสี่ยงเรื่องสินเชื่อ ในวันที่คอนโดสร้างเสร็จและถึงกำหนดโอน ผู้ซื้อจะต้อง ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร หากไม่ผ่าน → ต้องหาเงินสดมาโอน หรืออาจเสียเงินจองทั้งหมด แล้วการซื้อคอนโดช่วงพรีเซล เหมาะกับใคร? กลุ่มที่ 1 คนที่อยากได้คอนโดราคาถูกกว่าตลาด เพราะได้ราคาต่ำกว่า 5–20% กลุ่มที่ 2 นักลงทุนเก็งกำไร เพราะเวลาขายต่อจะได้กำไรมากขึ้น เคล็ดลับก่อนซื้อคอนโดพรีเซล ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาโครงการ และประวัติผลงานที่ผ่านมา อ่านสัญญาให้ละเอียด โดยเฉพาะเงื่อนไขคืนเงินจอง ดูทำเลจริง ไม่ใช่ดูจากโบรชัวร์เท่านั้น! คำนวณงบประมาณหลังโอน เช่น ค่าจดทะเบียน, ค่าส่วนกลาง, ค่ากองทุน เตรียมสินเชื่อล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดตอนโครงการเสร็จ สรุปส่งท้าย ซื้อคอนโดช่วงพรีเซลดีไหม? การซื้อคอนโดพรีเซล ดีสำหรับคนที่มองระยะยาวและมีการวางแผนทางการเงินที่ดี เพราะได้ราคาถูกกว่าและเลือกห้องได้ก่อนใคร แต่ก็มีความเสี่ยงจากการรอคอยและผู้พัฒนาโครงการ จึงเหมาะกับ “นักลงทุน” และ “คนที่ยังไม่รีบเข้าอยู่”แต่ควรเลี่ยง หาก “ต้องการอยู่ทันที” หรือ “ยังไม่มั่นใจเรื่องสินเชื่อ” 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ✨ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ✨ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ✨ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ✨ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service 📍บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด 📍บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด 📍บริการบริหารและจัดการคอนโด 📍LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs 📍Tel : 089-986-0202 📍Youtube : @amberrealty 📍Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ขายคอนโดอย่างไรให้ได้ราคาดี?
ขายคอนโดอย่างไรให้ได้ราคาดี? เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญอสังหาฯ ปัญหายอดฮิตของคนอยากขายคอนโด “อยากขายคอนโด แต่ราคาตลาดตก” หรือ “ลงประกาศมานาน แต่ไม่มีคนโทร” หรือ “โดนต่อราคาเยอะจนไม่คุ้ม” ความจริงแล้ว การขายคอนโดให้ได้ราคาดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงหรือจังหวะตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ “การเตรียมตัว” และ “กลยุทธ์การนำเสนอ” ด้วย เคล็ดลับ “ขายคอนโดให้ได้ราคาดี” ที่ควรรู้ ตั้งราคาขายให้เหมาะสมกับตลาด สิ่งแรกที่คนขายพลาดบ่อย คือ ตั้งราคาสูงเกินจริง ควรดูข้อมูลเทียบเคียง (Comparable) เช่น ราคาตลาดของคอนโดโครงการเดียวกัน, ราคาที่ประกาศขายจริงในเว็บไซต์ (DDproperty, Baania, Kaidee Property ฯลฯ) รวมถึงราคาธุรกรรมเฉลี่ยจากกรมที่ดิน เคล็ดลับ: ตั้งราคาสูงกว่าตลาดเล็กน้อย 3–5% เพื่อเผื่อการต่อรอง รีโนเวทหรือแต่งห้องเล็กน้อยก่อนขาย คอนโดที่ดูสะอาดและพร้อมอยู่ จะดึงดูดผู้ซื้อได้มากกว่า ลองปรับปรุงเล็กน้อย เช่น ทาสีใหม่ให้ดูสว่าง, ซ่อมบานประตู/หน้าต่างที่ชำรุด, จัดเฟอร์นิเจอร์ให้ดูเป็นระเบียบ, เพิ่มแสงธรรมชาติ ห้องที่ “พร้อมอยู่” มักขายได้เร็วกว่าถึง 30–40% ถ่ายรูปให้สวย ดูมีชีวิต ภาพถ่าย คือ สิ่งแรกที่ผู้ซื้อตัดสินใจคลิกหรือเลื่อนผ่าน จ้างช่างถ่ายรูปมืออาชีพ หรือใช้กล้องมือถือที่มีคุณภาพ เน้นมุมกว้าง แสงธรรมชาติ และถ่ายให้ครบทุกห้อง ถ้ามีงบ ลองถ่าย “วิดีโอทัวร์” หรือ “ภาพ 360 องศา” จะเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น ลงประกาศในหลายช่องทาง อย่าพึ่งเพียงแพลตฟอร์มเดียว ควรลงขายคอนโดในหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์อสังหา: DDproperty, Livinginsider, Baania, Kaidee Property โซเชียลมีเดีย: Facebook Marketplace, กลุ่มอสังหา, TikTok, Line OA ตัวแทนนายหน้าอสังหา (Agent): amber-international เพิ่มโอกาสเจอผู้ซื้อที่ตรงกลุ่มมากขึ้น เลือกช่วงเวลาขายให้เหมาะ โดยทั่วไป ตลาดคอนโดจะเคลื่อนไหวดีในช่วง ไตรมาส 2–3 (เมษายน–กันยายน) เพราะผู้ซื้อมักมองหาที่อยู่อาศัยก่อนสิ้นปี และเป็นช่วงที่ธนาคารออกโปรโมชั่นสินเชื่อบ้าน และอย่าลืมดูแนวโน้มตลาด และดอกเบี้ยประกอบด้วย ใช้บริการนายหน้าอสังหามืออาชีพ หากคุณไม่มีเวลา หรืออยากได้ราคาขายที่คุ้ม การใช้ ตัวแทนนายหน้าอสังหา (Agent) amber-international ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะนายหน้ามีฐานข้อมูลผู้ซื้อจริง รู้วิธีนำเสนอ และต่อรองอย่างมืออาชีพ แถมเราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโดบริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโดบริการบริหารและจัดการคอนโด เคล็ดลับพิเศษ “รู้มูลค่าคอนโดก่อนขาย” ก่อนลงประกาศ ควร ประเมินราคาคอนโดเบื้องต้น เพื่อกำหนดราคาที่เหมาะสม สามารถดูจากราคาตลาดในพื้นที่ ราคาซื้อขายย้อนหลังจากกรมที่ดิน ประเมินกับธนาคาร หรือเว็บไซต์อสังหา หากต้องการเงินด่วนจากคอนโดก่อนขาย สามารถใช้บริการ “จำนองหรือขายฝากคอนโด” กับบริษัทที่ถูกกฎหมาย เช่น Property4Cash ได้เช่นกัน สรุปส่งท้าย ขายคอนโดอย่างไรให้ได้ราคาดี? ต้อง “วางกลยุทธ์ให้ถูก” การขายคอนโดไม่ใช่แค่ลงประกาศ แต่คือการ “วางแผนขาย” ให้เหมาะกับตลาดและผู้ซื้อ หากเตรียมห้องดี ถ่ายภาพสวย ตั้งราคาถูกจังหวะ คุณก็มีโอกาสขายได้เร็ว และได้ราคาที่พอใจแน่นอนค่ะ… 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ทำไม คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ถึงราคาแพง?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหรือสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คือ “ทำไม คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ถึงราคาแพงกว่าคอนโดที่อยู่ไกล?” คำตอบอยู่ที่ “ทำเล” และ “ความสะดวกในการใช้ชีวิต” ซึ่งถือเป็นหัวใจของการพัฒนาอสังหาในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ทำเลทอง เดินทางสะดวก ตอบโจทย์ชีวิตเมือง คอนโดใกล้รถไฟฟ้า มักตั้งอยู่ในย่านที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เหมาะกับคนทำงานในเมืองที่ต้องการลดเวลารถติด ยิ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากเท่าไหร่ มูลค่าทรัพย์ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เพราะ “เวลา” คือ สิ่งที่คนเมืองยอมจ่ายเพื่อซื้อ “ความสะดวกสบาย” ความต้องการสูง แต่พื้นที่จำกัด คอนโดใกล้รถไฟฟ้า “มีจำกัด” ในขณะที่ความต้องการของผู้ซื้อและผู้เช่ายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุปสงค์มากกว่าอุปทาน ราคาจึงขยับสูงขึ้นตามกลไกตลาด ผู้พัฒนาโครงการเองก็ต้องแบกรับต้นทุนที่ดินซึ่งสูงกว่าพื้นที่อื่นหลายเท่าตัว ลงทุนง่าย ปล่อยเช่าได้เร็ว อีกหนึ่งเหตุผลที่ราคาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าแพง คือ “ความคุ้มค่าในการลงทุน” ไม่ว่าจะปล่อยเช่าหรือขายต่อ มักได้ราคาดีกว่าโซนที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า เพราะผู้เช่ากลุ่มใหญ่ในเมือง เช่น พนักงานออฟฟิศ ชาวต่างชาติ หรือคนรุ่นใหม่ ต่างมองหาคอนโดที่เดินทางสะดวกเป็นอันดับแรก โอกาสในการเติบโตของมูลค่าทรัพย์ (Capital Gain) เมื่อมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอนาคต คอนโดที่อยู่ใกล้สถานีมักได้รับอานิสงส์โดยตรง ราคาประเมินที่ดินและมูลค่าทรัพย์สินจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นทำเลที่ “ปลอดภัย” สำหรับการถือครองระยะยาว ไลฟ์สไตล์ครบครัน รอบสถานีรถไฟฟ้า โดยรอบสถานีรถไฟฟ้ามักมีศูนย์การค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ผู้พัฒนาโครงการจึงมักชูจุดขาย “อยู่ใกล้ทุกอย่าง เดินทางง่าย” ซึ่งกลายเป็นภาพลักษณ์ของการใช้ชีวิตแบบคนเมืองยุคใหม่ ยิ่งทำให้ราคาคอนโดในโซนนั้นสูงขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สรุปส่งท้าย “คอนโดใกล้รถไฟฟ้า” คือ การจ่ายเพื่อความคุ้มค่าในอนาคต แม้ราคาจะสูงกว่าคอนโดทั่วไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความสะดวกในการเดินทาง, ศักยภาพในการปล่อยเช่า, มูลค่าเพิ่มของทรัพย์ในระยะยาว ดังนั้น สำหรับทั้งผู้ที่อยู่อาศัยเองและนักลงทุนคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ยังคงเป็น “ทำเลทอง” ที่น่าจับตาเสมอนั่นเองค่ะ 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

แนะวิธีรับมือ ปัญหาดินทรุดในเมือง ภัยเงียบพื้นที่เขตก่อสร้าง
แนะวิธีรับมือ ปัญหาดินทรุดในเมือง ภัยเงียบพื้นที่เขตก่อสร้าง ดินทรุดคืออะไร? ดินทรุด (Soil Subsidence) คือ ปรากฏการณ์ที่พื้นดินเกิดการยุบตัวลงอย่างช้าๆ หรือรวดเร็ว ซึ่งมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใต้ดิน เช่น การสูบน้ำใต้ดิน การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ การสั่นสะเทือน หรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว ในบริบทของเมือง ดินทรุดมักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ เขตก่อสร้าง หรือพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน อุโมงค์ ท่อประปา ท่อระบายน้ำ อยู่ใต้ดินเป็นจำนวนมาก สาเหตุหลักของปัญหาดินทรุดในเมือง การก่อสร้างอาคารและโครงการขนาดใหญ่ การขุดเจาะ ลึก การลงเสาเข็ม และการตอกเสาในพื้นที่จำกัด อาจทำให้ดินรอบข้างเสียสมดุลและยุบตัวได้ การสูบน้ำใต้ดินมากเกินไป เป็นสาเหตุสำคัญในหลายเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ที่มีการใช้น้ำบาดาลในภาคอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย การระบายน้ำไม่ดี และน้ำใต้ดินเปลี่ยนแปลง ฝนตกหนัก น้ำท่วม หรือน้ำระบายไม่ทัน อาจชะล้างดินหรือทำให้เกิดโพรงใต้พื้นดิน การวางระบบท่อใต้ดินที่ไม่ได้มาตรฐาน ท่อรั่วหรือแตกบ่อย ทำให้เกิดการกัดเซาะของดินใต้ถนน ส่งผลให้พื้นยุบตัว พื้นที่เดิมเคยเป็นแหล่งน้ำหรือที่ลุ่ม ดินในพื้นที่เหล่านี้มีความอ่อนตัวสูง และไม่เหมาะสำหรับการก่อสร้างหนัก ผลกระทบจากดินทรุดในพื้นที่เมือง ถนนและทางเท้าแตกร้าว เป็นคลื่น หรือเกิด “หลุมยุบ” อาคารบ้านเรือนทรุดเอียง หรือร้าว ท่อประปา/ท่อระบายน้ำเสียหาย ความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยลดลง ทำให้เกิดต้นทุนซ่อมแซมและบำรุงรักษาสูงขึ้น ส่งผลต่อการจราจรและโครงสร้างพื้นฐานของเมืองในระยะยาว วิธีรับมือและป้องกันปัญหาดินทรุดในเมือง ตรวจสอบพื้นที่ก่อนการก่อสร้าง ให้ความสำคัญกับการ สำรวจธรณีวิทยา (Soil Investigation) ก่อนเริ่มโครงการ เพื่อดูความสามารถในการรับน้ำหนักของดิน และความเสี่ยงดินทรุด ใช้วิธีเสริมฐานรากที่เหมาะสม หากพื้นที่มีแนวโน้มทรุดตัว ควรใช้ เสาเข็มเจาะ เสาเข็มสั้น หรือระบบตอกแบบพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักอาคาร ควบคุมการใช้น้ำบาดาล เมืองควรมีนโยบายจำกัดการใช้น้ำใต้ดิน และส่งเสริมการใช้น้ำผิวดินทดแทน ติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับดิน โดยใช้ เทคโนโลยีตรวจวัดดินทรุด เช่น GPS, Radar, หรือระบบเซนเซอร์ ติดตั้งตามพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังบริเวณใกล้การก่อสร้าง ประชาชนควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบความผิดปกติ เช่น พื้นเอียง รอยร้าว หรือเสียงใต้พื้น ใช้ระบบระบายน้ำมาตรฐาน การวางท่อและระบบระบายน้ำควรทำโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และมีการตรวจสอบสภาพอย่างสม่ำเสมอ บทบาทของภาครัฐและเอกชนในการจัดการปัญหาดินทรุด ภาครัฐ ควรมีนโยบายควบคุมโครงการก่อสร้างให้สอดคล้องกับความเสี่ยงทางธรณีวิทยา เทศบาลและท้องถิ่น ต้องมีแผนเฝ้าระวังและซ่อมแซมพื้นที่ที่มีประวัติดินทรุด ภาคเอกชน ผู้รับเหมาก่อสร้างควรปฏิบัติตามมาตรฐานวิศวกรรมอย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมือในการติดตามผลกระทบจากการก่อสร้าง สรุปส่งท้าย ปัญหาดินทรุดในเมือง อาจดูเหมือน ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่จริงๆ แล้วเป็น “ภัยเงียบในเมือง” ที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน การรับมือกับปัญหานี้จึงไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ ภาครัฐ และประชาชน หากตรวจพบหรือสงสัยว่าพื้นที่ที่คุณอยู่อาศัยมีความเสี่ยง ควรรีบขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันทีนะคะ… 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ คืออะไร? มีผลกระทบอย่างไรบ้าง?
ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ คืออะไร? “ชัตดาวน์” หรือ “Government Shutdown” หมายถึง สถานการณ์ที่ รัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถดำเนินงานตามปกติได้ เนื่องจาก รัฐสภาไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือกฎหมายงบชั่วคราวได้ทันเวลา ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางแห่งต้อง ปิดทำการชั่วคราว หรือให้พนักงานหยุดงานโดยไม่รับเงินเดือน ระบบการบริหารงบประมาณของสหรัฐฯ ถูกควบคุมโดยรัฐสภา (Congress) ซึ่งประกอบด้วยวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หากสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันเรื่องงบประมาณได้ภายในเส้นตายวันที่ 30 กันยายนของทุกปี รัฐบาลจะเข้าสู่ภาวะ “ชัตดาวน์” ชัตดาวน์ส่งผลกระทบอย่างไร? การชัตดาวน์มีผลกระทบทั้งในระดับบุคคล หน่วยงาน และระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยสามารถสรุปได้ดังนี้ ผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจะต้อง ปิดให้บริการชั่วคราว พนักงานรัฐหลายแสนคนต้อง หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง (Furlough) บางหน่วยงานจำเป็นต้องทำงานต่อไป เช่น ความมั่นคง ชายแดน การทหาร โรงพยาบาลของรัฐบาล แต่พนักงานเหล่านี้อาจไม่ได้รับเงินเดือนจนกว่าชัตดาวน์จะยุติ ผลกระทบต่อประชาชน การให้บริการบางอย่างล่าช้าหรือหยุดลง เช่น การขอวีซ่า พาสปอร์ต บริการจากกรมสรรพากร (IRS) สวัสดิการบางประเภทอาจล่าช้าหรือหยุดชั่วคราว หากไม่มีงบประมาณรองรับ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง ส่งผลต่อ ตลาดหุ้น ภาคธุรกิจที่พึ่งพางานจากภาครัฐ เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือบริษัทที่ขายสินค้าให้รัฐบาล จะได้รับผลกระทบ ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจกระทบต่อ อันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินของประเทศ ตัวอย่างการชัตดาวน์ในอดีต ปี 2013 เกิดขึ้นนาน 16 วัน สาเหตุจากความขัดแย้งเรื่องงบประมาณของโครงการประกันสุขภาพ “Obamacare” ปี 2018-2019 เป็นการชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ (35 วัน) เนื่องจากข้อพิพาทเรื่องงบประมาณสำหรับกำแพงชายแดนระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก ทำไมจึงเกิดชัตดาวน์บ่อยครั้ง? ระบบการเมืองแบบสองพรรคของสหรัฐฯ (รีพับลิกัน vs เดโมแครต) ทำให้ การเจรจาเรื่องงบประมาณกลายเป็นเรื่องการเมือง โดยแต่ละฝ่ายอาจใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือกดดันฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้การอนุมัติงบประมาณล่าช้า และอาจนำไปสู่ภาวะชัตดาวน์ สรุปส่งท้าย ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะส่งผลกระทบทั้งภายในประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้จะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ผลกระทบในระยะสั้นสามารถกระจายเป็นวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

เทคนิคกู้ซื้อคอนโดให้ผ่านง่าย
เทคนิคกู้ซื้อคอนโดให้ผ่านง่าย อัปเดตล่าสุด สำหรับมือใหม่อยากมีคอนโด ทำยังไงให้ธนาคารอนุมัติไว ไม่โดนปฏิเสธสินเชื่อ ในยุคที่ราคาคอนโดเริ่มเอื้อมถึงได้มากขึ้น หลายคนเริ่มสนใจซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่าลงทุน แต่ขั้นตอนสำคัญที่ทำให้หลายคน “ติดด่าน” คือ การ กู้ซื้อคอนโด กับธนาคาร เพราะหากยื่นกู้ไม่ผ่าน อาจเสียโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย บทความนี้ Amber จะพาไปดู เทคนิคสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณ กู้คอนโดผ่านง่ายขึ้น พร้อมแนวทางเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ที่เคยโดนปฏิเสธมาแล้วก็ตาม เตรียมเอกสารให้ครบ ถูกต้อง และโปร่งใส เริ่มต้นที่พื้นฐานที่สุดแต่สำคัญมาก! การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วน และตรวจสอบความถูกต้อง จะช่วยลดโอกาสในการ “ถูกตีกลับ” จากธนาคาร เช่น สำเนาบัตรประชาชน / ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน Statement ธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เอกสารแสดงรายได้เสริม (ถ้ามี) เอกสารการซื้อ-ขายคอนโด (สัญญา / ใบจอง ฯลฯ) เช็ก “เครดิตบูโร” ก่อนยื่นกู้ หลายคนไม่รู้ว่า “เครดิตบูโร” คือ ปัจจัยหลักที่ธนาคารใช้พิจารณา หากคุณเคยมีประวัติค้างชำระ หรือจ่ายบัตรเครดิตล่าช้าเกิน 90 วัน อาจทำให้ธนาคารปฏิเสธทันที วิธีเช็กง่ายๆ สามารถขอรายงานเครดิตบูโรออนไลน์ผ่านแอป My Credit Bureau หรือที่ตู้ ATM ของธนาคารใหญ่ๆ ก็ได้ แนะนำ หากพบปัญหา ให้เคลียร์หนี้ให้เรียบร้อยก่อนยื่นกู้ และรอระบบอัปเดตประมาณ 3-6 เดือน รักษาวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ธนาคาร จะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระของคุณจากรายรับรายจ่ายในบัญชี โดยเฉพาะใน Statement 6 เดือนล่าสุด ควร มีเงินเข้าบัญชีสม่ำเสมอ ไม่ควรถอนเงินจนเหลือติดบัญชีศูนย์ หลีกเลี่ยงการกดเงินสดจากบัตรเครดิต หยุดกู้สินเชื่อรายย่อยก่อนยื่นกู้ เลือกคอนโดที่ราคาเหมาะสมกับรายได้ หลักการโดยทั่วไป คือ ธนาคารจะให้กู้ได้ประมาณ 30-40 เท่าของรายได้ต่อเดือน ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายได้ 30,000 บาท/เดือน ธนาคารจะพิจารณาวงเงินไม่เกิน 1.2 ล้านบาท หากคอนโดที่คุณเลือกแพงเกินไป โอกาสกู้ผ่านจะลดลง หรืออาจได้วงเงินน้อยกว่าราคาซื้อ มีเงินเก็บและเตรียมเงินดาวน์ไว้ล่วงหน้า การมีเงินดาวน์ 10-20% จะช่วยให้ วงเงินกู้ลดลง (ธนาคารพิจารณาง่ายขึ้น), ลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว แสดงให้ธนาคารเห็นถึงความสามารถในการเก็บออม หากไม่มีเงินดาวน์เลย และหวังให้กู้เต็ม 100% อาจทำให้ธนาคารพิจารณายากขึ้น กู้ร่วม = เพิ่มโอกาสผ่าน หากรายได้คุณคนเดียวไม่เพียงพอ อาจเลือก กู้ร่วมกับคู่สมรสหรือญาติสายตรง เพื่อรวมรายได้ให้ธนาคารพิจารณาได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่มีประวัติเสียทั้งสองฝ่าย ปรึกษาเจ้าหน้าที่สินเชื่อหรือโบรกเกอร์ก่อนยื่นจริง หลายธนาคารมีเจ้าหน้าที่ช่วยวิเคราะห์เบื้องต้นก่อนยื่นกู้จริง หรือสามารถปรึกษา “โบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์” ที่มีประสบการณ์ เพราะเขาจะช่วยคำนวณวงเงินกู้ที่คุณสามารถยื่นได้ แนะนำธนาคารที่ปล่อยกู้ง่าย และจัดการเอกสารให้ครบตามข้อกำหนด สรุปส่งท้าย เตรียมตัวดี มีโอกาสกู้ผ่านสูง นี่เป็น เทคนิคกู้ซื้อคอนโดให้ผ่านง่าย ที่เรานำมาฝากกัน และการกู้ซื้อคอนโดไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณเตรียมตัวให้พร้อม ตรวจสอบประวัติเครดิต รักษาวินัยทางการเงิน และเลือกคอนโดที่เหมาะสมกับศักยภาพของตัวเอง ยิ่งเตรียมตัวล่วงหน้า โอกาสอนุมัติก็ยิ่งง่ายขึ้น! 𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲 คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราให้บริการแบบ One Stop Service เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

ก่อนซื้อขายคอนโด ต้องรู้จัก! ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร ใครต้องจ่ายบ้าง?
การซื้อขายคอนโดมิเนียม ไม่ใช่แค่เรื่องของราคาซื้อขาย หรือทำสัญญาเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของ ภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” ที่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าคืออะไร และใครเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่าย ในบทความนี้ Amber จะมาอธิบายแบบเข้าใจง่ายว่า ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร ใครบ้างที่ต้องจ่าย และต้องจ่ายในกรณีไหน เพื่อให้คุณวางแผนการซื้อขายคอนโดได้อย่างรอบคอบ ภาษีธุรกิจเฉพาะคืออะไร? ภาษีธุรกิจเฉพาะ(Specific Business Tax – SBT) เป็นภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากการประกอบธุรกิจบางประเภท ซึ่งไม่อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เช่น การขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ การให้บริการทางการเงิน การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ในกรณีของ การขายคอนโดมิเนียม หากผู้ขายเข้าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ก็จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะด้วย ใครบ้างที่ต้องจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ? ผู้ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายคอนโด ได้แก่ บุคคลธรรมดา ที่ขายคอนโด ภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่ถือกรรมสิทธิ์ ผู้ที่ขายบ่อยครั้ง หรือมีลักษณะคล้ายกับการค้าหรือการลงทุน นิติบุคคล ที่ขายอสังหาริมทรัพย์ทุกกรณี หมายเหตุ: หากคุณถือครองคอนโดไว้ เกิน 5 ปี และเป็น บ้านพักอาศัยหลัก ของคุณ หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ เท่าไหร่? อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะในการขายคอนโด คือ 3.3% ของราคาขาย หรือ ราคาประเมินกรมที่ดิน แล้วแต่ว่าอันไหนสูงกว่า โดยแบ่งเป็น ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.0% เงินเพิ่ม (เทศบาล) 0.3% ตัวอย่างการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ สมมุติว่าคุณขายคอนโดในราคา 3,000,000 บาท และราคาประเมินกรมที่ดินอยู่ที่ 2,800,000 บาท ใช้ราคาขาย 3,000,000 บาท (เพราะสูงกว่า) ภาษีธุรกิจเฉพาะ = 3,000,000 x 3.3% = 99,000 บาท แล้วถ้าไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จะเสียอะไรแทน? กรณีไม่เข้าเกณฑ์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น ถือครองเกิน 5 ปี และใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลัก จะต้องเสีย ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (คำนวณแบบอัตราก้าวหน้า) ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่อันไหนสูงกว่า) เอกสารที่เกี่ยวข้องในการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ สำเนาโฉนดที่ดิน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของคอนโด บัตรประชาชนของผู้ซื้อและผู้ขาย สรุปส่งท้าย ก่อนขายคอนโด ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเข้าข่ายเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่? เงื่อนไข ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่? คือ ถือครองไม่เกิน 5 ปี ขายโดยนิติบุคคล หรือขายเพื่อการลงทุน/ค้าขาย สุดท้ายนี้… ก่อนซื้อขายคอนโด อย่าลืมคำนวณภาษีต่างๆ ให้ครบถ้วน โดยเฉพาะ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่อาจเป็นภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ หากคุณไม่ได้วางแผนล่วงหน้า การปรึกษานายหน้าอย่างเรา นับเป็นเรื่องที่ดี ที่จะช่วยให้คุณวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างรอบคอบนะคะ… สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p

1 ตารางเมตรเท่ากับกี่เมตร เข้าใจเรื่องพื้นที่ก่อนซื้อคอนโด
เมื่อคุณเริ่มมองหาคอนโดมิเนียมหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่คุณจะพบเสมอคือ “พื้นที่ใช้สอย” ซึ่งมักจะแสดงเป็น “ตารางเมตร” เช่น 28 ตร.ม., 35 ตร.ม., หรือ 45 ตร.ม. แต่หลายคนอาจสงสัยว่า… 1 ตารางเมตรเท่ากับกี่เมตร กันแน่? แล้วมันต่างจาก “เมตร” อย่างไร? คำตอบสั้นๆ คือ 1 ตารางเมตร ≠ 1 เมตร แต่ 1 ตารางเมตร (1 ตร.ม.) หมายถึง พื้นที่ของสี่เหลี่ยมที่มีด้านกว้าง 1 เมตร และยาว 1 เมตร ดังนั้น 1 ตารางเมตร = 1 เมตร x 1 เมตร = 1 ตร.ม. (พื้นที่) ไม่ใช่ความยาว แต่เป็น “ขนาดของพื้นที่” ถ้าคุณวัดเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เช่น กว้าง 1 เมตร นั่นไม่ใช่ 1 ตารางเมตรทันที เว้นแต่ว่าอีกด้านก็ต้องยาว 1 เมตรด้วยเช่นกัน ทำไมต้องรู้เรื่องตารางเมตรก่อนซื้อคอนโด? ก็เพราะคอนโดมักโฆษณาพื้นที่ เช่น สตูดิโอ 26 ตร.ม., 1 ห้องนอน 34 ตร.ม., 2 ห้องนอน 45 ตร.ม. แต่คุณจะรู้ได้ยังไงว่าขนาดนั้น “พอ” กับไลฟ์สไตล์คุณหรือไม่ ถ้าคุณไม่เข้าใจว่า 26 ตารางเมตร มีลักษณะประมาณไหน? ลองนึกภาพห้องขนาด 5 เมตร x 5 เมตร = 25 ตารางเมตร หรือ ห้อง 6 เมตร x 4 เมตร = 24 ตารางเมตร นั่นคือห้องประมาณ 1 สตูดิโอที่พออยู่ได้คนเดียวแบบกะทัดรัด เคล็ดลับการดูขนาดห้อง อย่าดูแค่ “จำนวนเมตร” แต่ถามโครงการว่า ขนาดที่แจ้ง คือ พื้นที่ใช้สอยจริง หรือรวมพื้นที่ผนัง/ระเบียงด้วย ดูผังห้อง (Floor Plan) เพื่อรู้ว่า พื้นที่นั้นถูกแบ่งยังไง เช่น ห้องนอนเล็กแค่ไหน? ห้องครัวแคบหรือกว้าง? และอย่าลืม! ว่า… พื้นที่แนวดิ่ง (ความสูงของห้อง) ก็มีผลต่อความรู้สึก “โปร่งโล่ง” ด้วยนะ วิธีคำนวณพื้นที่ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หากคุณมีผังห้องหรือไปวัดเอง ใช้สูตรนี้ พื้นที่ (ตารางเมตร) = ความกว้าง (เมตร) x ความยาว (เมตร) เช่น ห้องกว้าง 3.5 เมตร และยาว 8 เมตร พื้นที่จะ = 3.5 x 8 = 28 ตารางเมตร สรุปส่งท้าย การที่เข้าใจตารางเมตร = เข้าใจความคุ้มค่า และการรู้ว่า 1 ตารางเมตรเท่ากับกี่เมตรจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อคอนโดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ถูกหลอกด้วยขนาดเลขเยอะ หรือพื้นที่ใช้สอยที่ดูดีแต่ใช้จริงไม่ได้ ก่อนจะจองคอนโด อย่าลืม “เดินเข้าไปดูห้องจริง” ว่าขนาดที่โฆษณาไว้ ตรงกับความรู้สึกของคุณไหม? สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p
