
ภาษีและค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนคอนโดควรรู้ ฉบับอัพเดตปี 2025
ภาษีและค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนคอนโดต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อ–ปล่อยเช่า
ทำไมต้องรู้เรื่องภาษีและค่าใช้จ่ายก่อนลงทุนคอนโด? สำหรับนักลงทุนคอนโด ต้นทุนที่แท้จริงไม่ได้มีแค่ “ราคาซื้อห้อง” แต่ยังรวมถึง ภาษี ค่าโอน ค่าบำรุง ค่าปล่อยเช่า และค่าใช้จ่ายรายปี ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ “กำไรสุทธิ”
รู้ก่อน = คำนวณผลตอบแทนได้แม่นยำ
รู้ช้า = กำไรหาย ต้นทุนบานโดยไม่รู้ตัว
1) ค่าใช้จ่ายตอนซื้อคอนโด
- ค่าโอนกรรมสิทธิ์ (Transfer Fee)
- ปกติอัตรา 2% ของราคาประเมินกรมที่ดิน
- ผู้ซื้อ–ผู้ขายตกลงแบ่งกันได้ (ส่วนใหญ่ออกคนละครึ่ง)
- โปรโมชันจากรัฐอาจลดเหลือ 01% สำหรับบางช่วง (ต้องเช็กปีที่ทำรายการ)
- ค่าจดจำนอง (Mortgage Registration Fee)
หากกู้ธนาคาร
- อัตรา: 1% ของวงเงินกู้
- ส่วนใหญ่ผู้ซื้อออกเอง
ตัวอย่าง กู้ 2,000,000 บาท → ค่าจดจำนอง 20,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมสินเชื่อจากธนาคาร
อาจมี ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์, ค่าประกันอัคคีภัย, ค่าธรรมเนียมจัดการสินเชื่อ รวมๆ แล้ว ~5,000–20,000 บาท
- ค่ากองทุนส่วนกลาง (Sinking Fund)
จ่ายครั้งแรกตอนโอน จะอยู่ที่ประมาณ 300–600 บาท/ตร.ม. เพื่อใช้ซ่อมแซมใหญ่ในอนาคต เช่น สระว่ายน้ำ ลิฟต์ ระบบไฟฟ้า
- ค่าบำรุงส่วนกลางรายปี (Common Fee)
ค่าเฉลี่ย 40–80 บาท/ตร.ม./เดือน นักลงทุนต้องคิดรวมในต้นทุนรายปีเสมอ เพราะลดกำไรจากค่าเช่าโดยตรง
2) ภาษีและค่าใช้จ่ายตอนถือครอง
- ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
สำหรับคอนโดที่ปล่อยเช่า → ถือว่าเป็น อสังหาเพื่อการพาณิชย์ อัตราภาษีประจำปีประมาณ 0.3% – 1.2% ของมูลค่าประเมิน ตามที่แต่ละท้องถิ่นกำหนด เช่น คอนโดราคา 3,000,000 บาท → ภาษีประมาณ 9,000–36,000 บาท/ปี
- ประกันภัยอัคคีภัยและทรัพย์สิน (ไม่บังคับแต่ควรมี)
เฉลี่ย 1,500–4,000 บาท/ปี ช่วยคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินและความเสี่ยงจากผู้เช่า
- ค่าซ่อมบำรุง–เปลี่ยนอุปกรณ์
ค่าใช้จ่ายประจำปีที่ต้องกันงบไว้ เช่น สีซีด ห้องชำรุด, เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์, ซ่อมแอร์, เปลี่ยนผ้าม่าน ควรเผื่อไว้ปีละ 5,000–20,000 บาท ขึ้นกับรูปแบบการปล่อยเช่า
3) ภาษีจากรายได้การปล่อยเช่า
การปล่อยเช่า = มีรายได้จากทรัพย์สิน ต้องเสียภาษี 2 ประเภท
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (จากค่าเช่า)
คิดตามฐานภาษีของผู้รายงานรายได้ รายได้ค่าเช่าสามารถ หักค่าใช้จ่ายเหมาได้ 30%
ตัวอย่าง รายได้ค่าเช่าปีละ 120,000 → หักเหมา 36,000 → เหลือรายได้สุทธิ 84,000 บาท
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (สำหรับผู้เช่าบางประเภท)
กรณีผู้เช่าเป็นบริษัท → ต้องหัก ณ ที่จ่าย 5% เช่น ค่าเช่า 10,000 บาท → โอนจริง 9,500 บาท (บริษัทนำ 500 บาทไปยื่นภาษี)
4) ค่าใช้จ่ายตอนขายคอนโด
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax – SBT) ถ้าถือครองน้อยกว่า 5 ปี → ต้องเสียภาษี ในอัตรา: 3.3% ของราคาประเมิน หรือราคาขาย (สูงกว่า)
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) คิดตามช่วงเงินได้ (ภาษีแบบขั้นบันได) คิดจากราคาประเมินกรมที่ดิน
- ค่าอากรแสตมป์ (Stamp Duty) 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (สูงกว่า) ยกเว้น ถ้าจ่าย SBT → ไม่ต้องจ่ายอากรแสตมป์
สรุปส่งท้าย ภาษีและค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนคอนโดต้องรู้ หรือต้นทุนจริงของนักลงทุนคอนโด ต้นทุนคอนโด = ราคาซื้อ + ค่าโอน + ค่าจดจำนอง + ค่าส่วนกลาง + ภาษีที่ดิน + ภาษีปล่อยเช่า + ค่าใช้จ่ายซ่อมแซม + ภาษีตอนขาย นักลงทุนควรจัดงบประมาณให้ครบทุกส่วน เพื่อไม่ให้กำไรจริงน้อยกว่าที่คาดไว้
𝐀𝐦𝐛𝐞𝐫 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐑𝐞𝐚𝐥𝐭𝐲
คู่คิด ข้างคุณ เรื่องคอนโด
บริษัทเอเจนต์คอนโดให้บริการโดยทีมงาน
ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
การันตีด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี
เราให้บริการแบบ One Stop Service
เกี่ยวกับคอนโดมิเนียม แก่ลูกค้าทั้งชาวไทย
และชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน
สิงคโปร์ เป็นต้น ได้รับการยอมรับ
และทำงานร่วมกันกับ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เจ้าใหญ่ของไทย เช่น MQDC, Sansiri, AP Thai, Origin ฯลฯ
✨ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย
✨ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property
✨ได้รับรางวัล Best Smart Agency 2025 จาก Livinginsider
✨ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service
📍บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด
📍บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด
📍บริการบริหารและจัดการคอนโด
📍LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs
📍Tel : 089-986-0202
📍Youtube : @amberrealty
📍Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty
📍เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/p



