Yield คืออะไร? และกี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน

28

ม.ค. 25

352

Yield คืออะไร? และกี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน

ยิลด์ ( Yield ) เป็นคำที่พบได้บ่อยในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม และสินทรัพย์อื่นๆ ยิลด์เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่นักลงทุนใช้ในการประเมินผลตอบแทนของการลงทุนในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ต่อปี แล้วคำว่ายิลด์จริงๆ นั้น หมายถึงอะไร? และยิลด์กี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะเหมาะสมกับการลงทุน? วันนี้เรามาสรุปมาให้แล้วค่ะ…

 

ความหมายของคำว่า ยิลด์ ( Yield )

Yieldคือ อัตรา ผลตอบแทน จากการลงทุนที่แสดงในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ โดยคำนวณจากรายได้ เช่น ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล ที่ได้รับจากสินทรัพย์นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของการลงทุน ตัวอย่างเช่น

  • หากคุณลงทุนในพันธบัตรที่มีราคาหน้าตั๋ว 1,000 บาท และได้รับดอกเบี้ยปีละ 50 บาท ยิลด์จะเท่ากับ 5% (50 ÷ 1,000 x 100)
  • สำหรับหุ้น ยิลด์อาจคำนวณจากเงินปันผลที่ได้รับเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในตลาด

ยิลด์มีหลายประเภท เช่น Dividend Yield (ยิลด์จากเงินปันผล) และ Bond Yield (ยิลด์จากพันธบัตร) ซึ่งนักลงทุนสามารถ เลือกใช้ตามประเภทของสินทรัพย์ที่สนใจ

 

ปัจจัยที่มีผลต่อยิลด์

  1. ประเภทของสินทรัพย์ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล มักให้ยิลด์ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์
  2. สภาพเศรษฐกิจ ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต ยิลด์จากหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงสูงมักเพิ่มขึ้น ในขณะที่ช่วงเศรษฐกิจซบเซา ยิลด์จากพันธบัตรหรือสินทรัพย์ปลอดภัยจะเป็นที่นิยม
  3. อัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น ยิลด์จากก็มักปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม

 

ยิลด์กี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน?

ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า… ยิลด์กี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสม เนื่องจากขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถพิจารณาแนวทางเบื้องต้นได้ดังนี้

  1. สำหรับนักลงทุนที่เน้นความปลอดภัย
    • หากคุณต้องการความมั่นคงและไม่อยากเสี่ยง ยิลด์ที่เหมาะสมอาจอยู่ในช่วง 2-5% เช่น การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนตราสารหนี้
  2. สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้บ้าง:
    • การลงทุนในหุ้นที่มีปันผล อาจให้ยิลด์ในช่วง 4-7% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ยังต้องการความมั่นคงในระดับหนึ่ง
  3. สำหรับนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนสูง
    • หากคุณพร้อมรับความเสี่ยง การลงทุนในหุ้นเติบโตหรือกองทุนรวมที่มุ่งเน้นผลตอบแทนสูง อาจให้ยิลด์ตั้งแต่ 7% ขึ้นไป แต่ควรระมัดระวัง เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

Yield คืออะไร? และกี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน

เคล็ดลับในการเลือกยิลด์ที่เหมาะสม

  1. วิเคราะห์ความเสี่ยง อย่ามองแค่ยิลด์ที่สูง แต่ควรพิจารณาความเสี่ยงที่มาพร้อมกับผลตอบแทน
  2. เปรียบเทียบกับตลาด ตรวจสอบว่ายิลด์ของสินทรัพย์ที่คุณสนใจสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของตลาดหรือไม่?
  3. กระจายการลงทุน ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ยิลด์สูงเพียงอย่างเดียว ควรกระจายการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยง

 

สรุปส่งท้าย ยิลด์ เป็นตัวชี้วัดสำคัญ ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึง ผลตอบแทน จากการลงทุน

อย่างไรก็ตาม การเลือกยิลด์ที่เหมาะสมไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพิจารณาถึงเป้าหมาย ความเสี่ยง และสภาพตลาดในช่วงเวลานั้นด้วย การศึกษาและวางแผนอย่างรอบคอบจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกยิลด์ที่ตอบโจทย์และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

 

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

 

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

 

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

Yield คืออะไร? และกี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน

Yield คืออะไร? และกี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน

ยิลด์ ( Yield ) เป็นคำที่พบได้บ่อยในโลกของการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม และสินทรัพย์อื่นๆ ยิลด์เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่นักลงทุนใช้ในการประเมินผลตอบแทนของการลงทุนในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ต่อปี แล้วคำว่ายิลด์จริงๆ นั้น หมายถึงอะไร? และยิลด์กี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะเหมาะสมกับการลงทุน? วันนี้เรามาสรุปมาให้แล้วค่ะ…   ความหมายของคำว่า ยิลด์ ( Yield ) Yieldคือ อัตรา ผลตอบแทน จากการลงทุนที่แสดงในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ โดยคำนวณจากรายได้ เช่น ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล ที่ได้รับจากสินทรัพย์นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของการลงทุน ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุนในพันธบัตรที่มีราคาหน้าตั๋ว 1,000 บาท และได้รับดอกเบี้ยปีละ 50 บาท ยิลด์จะเท่ากับ 5% (50 ÷ 1,000 x 100) สำหรับหุ้น ยิลด์อาจคำนวณจากเงินปันผลที่ได้รับเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในตลาด ยิลด์มีหลายประเภท เช่น Dividend Yield (ยิลด์จากเงินปันผล) และ Bond Yield (ยิลด์จากพันธบัตร) ซึ่งนักลงทุนสามารถ เลือกใช้ตามประเภทของสินทรัพย์ที่สนใจ   ปัจจัยที่มีผลต่อยิลด์ ประเภทของสินทรัพย์ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล มักให้ยิลด์ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ สภาพเศรษฐกิจ ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต ยิลด์จากหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงสูงมักเพิ่มขึ้น ในขณะที่ช่วงเศรษฐกิจซบเซา ยิลด์จากพันธบัตรหรือสินทรัพย์ปลอดภัยจะเป็นที่นิยม อัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น ยิลด์จากก็มักปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม   ยิลด์กี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกับการลงทุน? ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า… ยิลด์กี่เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสม เนื่องจากขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถพิจารณาแนวทางเบื้องต้นได้ดังนี้ สำหรับนักลงทุนที่เน้นความปลอดภัย หากคุณต้องการความมั่นคงและไม่อยากเสี่ยง ยิลด์ที่เหมาะสมอาจอยู่ในช่วง 2-5% เช่น การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนตราสารหนี้ สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้บ้าง: การลงทุนในหุ้นที่มีปันผล อาจให้ยิลด์ในช่วง 4-7% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ยังต้องการความมั่นคงในระดับหนึ่ง สำหรับนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนสูง หากคุณพร้อมรับความเสี่ยง การลงทุนในหุ้นเติบโตหรือกองทุนรวมที่มุ่งเน้นผลตอบแทนสูง อาจให้ยิลด์ตั้งแต่ 7% ขึ้นไป แต่ควรระมัดระวัง เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เคล็ดลับในการเลือกยิลด์ที่เหมาะสม วิเคราะห์ความเสี่ยง อย่ามองแค่ยิลด์ที่สูง แต่ควรพิจารณาความเสี่ยงที่มาพร้อมกับผลตอบแทน เปรียบเทียบกับตลาด ตรวจสอบว่ายิลด์ของสินทรัพย์ที่คุณสนใจสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของตลาดหรือไม่? กระจายการลงทุน ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ยิลด์สูงเพียงอย่างเดียว ควรกระจายการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยง   สรุปส่งท้าย ยิลด์ เป็นตัวชี้วัดสำคัญ ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึง ผลตอบแทน จากการลงทุน อย่างไรก็ตาม การเลือกยิลด์ที่เหมาะสมไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพิจารณาถึงเป้าหมาย ความเสี่ยง และสภาพตลาดในช่วงเวลานั้นด้วย การศึกษาและวางแผนอย่างรอบคอบจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกยิลด์ที่ตอบโจทย์และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property   ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด   LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/   #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

28 มกราคม 2025

ปิดเทอมนี้ไปไหนดี? แนะนำ 10 สถานที่เที่ยวช่วงปิดเทอม 2568 เด็กเที่ยวได้ผู้ใหญ่เที่ยวดี

เด็กๆ ใกล้ปิดเทอมแล้ว ผู้ปกครองหลายท่าน อาจมีไอเดียว่าจะพาเด็กๆ แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี? บทความนี้ Amber จะมาแนะนำ 10 สถานที่เที่ยวช่วงปิดเทอม มีทั้งเที่ยวแบบสนุกสนาน แบบสบายๆ หรือแบบผจญภัย เด็กสนุก ผู้ใหญ่บันเทิง มีที่ไหน น่าสนใจลองไปดูกันได้เลยค่ะ…   ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) กรุงเทพฯ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ หรือที่เรียกว่า ท้องฟ้าจำลอง สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งความรู้ด้านดาราศาสตร์ของไทย ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ติดกับรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย นอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์เป็นหลักแล้ว ยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อื่นๆ ด้วย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ห้องฉายดาวสุดอลังการ มีการแสดงดวงดาวในท้องฟ้าของประเทศต่างๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : เฟซบุ๊ก ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ – Bangkok Planetarium   Sea Life Bangkok Ocean World กรุงเทพฯ ชวนสัมผัสกับโลกใต้ทะเลใจกลางกรุงเทพฯ ณ Sea Life Bangkok Ocean World ที่ทำให้เหมือนได้เข้าไปสัมผัสแนบชิดกับทะเลจริงๆ เพราะที่นี่เขาจะพาหนูๆ ดำดิ่งสู่โลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยหมู่ปลาเล็กปลาน้อยไปจนถึงปลาใหญ่ปลายักษ์ที่แสนตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงสัตว์น้ำน่ารักอย่างเพนกวิน นากทะเล ปลาดาว และอื่นๆ อีกมากมาย   Siam Amazing Park กรุงเทพฯ สวนสนุกและสวนน้ำที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ไกลจากศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เช่น Water World, Adventure World, Family World, Xtreme World และ Small World ซึ่งแต่ละโซนก็จะเต็มไปด้วยความสนุกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็สามารถเดินทางมาเที่ยวตักตวงความสนุกที่นี่ได้ทั้งนั้น   สนุกกับกิจกรรมทางน้ำ ณ ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน กรุงเทพฯ ชวนไปดับร้อนกันที่ ศูนย์กีฬาบึงหนองบอน ตั้งอยู่ที่บึงหนองบอน ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ซอย 43) ใกล้กับสวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะบึงกว้าง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มาเดินเล่น วิ่ง หรือจะถ่ายรูปเล่นก็ทำได้ตามอัธยาศัย แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบก็มีกิจกรรมกีฬาทางน้ำให้ทำมากมาย ทั้งพายเรือคายัก เรือใบ ซัพบอร์ด และวินด์เซิร์ฟ หากเล่นไม่เป็นก็มีครูคอยช่วยสอนและแนะนำ (แต่ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะ) รวมถึงยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น จักรยาน เทเบิลเทนนิส ฯลฯ   พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) กรุงเทพฯ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) ตั้งอยู่ในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำแพงเพชร 4 ใกล้กับตลาดนัดสวนจตุจักร เป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวคิด Learning for Young Creative Minds ประกอบด้วยอาคารจำนวน 4 หลัง ได้แก่ อาคารสายรุ้ง อาคารทอตะวัน อาคารจักรวาล และอาคารยูนิลีเวอร์ ซึ่งแต่ละอาคารจะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซนลานสร้างสรรค์ โซนนักสืบไดโนเสาร์ โซนสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ โซนศิลปะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การเรียนรู้กลางแจ้งและสวนน้ำคลายร้อน   ซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ สวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ตั้งอยู่บนถนนปัญญาอินทรา เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ อาณาจักรแห่งความสุขสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เช่น โซนซาฟารีปาร์ค (สวนสัตว์เปิด) โซนมารีนปาร์ค การแสดงโชว์ของสัตว์น้ำและจังเกิลวอล์ก กิจกรรมล่องเรือ River Safari สัมผัสป่าลึกลับ เป็นต้น   ปั่นจักรยานชมวิวศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนบางขุนเทียน แหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนเกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน ถือเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีความสำคัญของกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ สร้างสมดุลของระบบนิเวศ โดยเปิดให้ทุกคนได้เข้ามาเที่ยวพักผ่อน รวมถึงศึกษาและชมความงดงามของธรรมชาติ ตลอดจนมีกิจกรรมปลูกป่าชายเลน หรือจะปั่นจักรยานเสพบรรยากาศสองข้างทางของป่าชายเลน ซึ่งจะเริ่มปั่นตั้งแต่สะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน   สยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) สวนน้ำและสวนสนุกที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน เครื่องเล่นจะมีทั้งแนวหวาดเสียวเอาใจวัยรุ่น และเครื่องเล่นสำหรับครอบครับที่แนะนำอย่างม้าหมุนสองชั้น ผจญภัยแดนไดโนเสาร์ ล่องซุงมหาสนุก และสวนน้ำที่มีทะเลเทียมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สไลด์เดอร์สายรุ้งขนาดยักษ์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของสยามอะเมซิ่งพาร์คที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี เร็ว ๆ นี้กำลังจะมีโซนใหม่ชื่อว่า แบงคอกเวิล์ด ซึ่งเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปในบรรยากาศกรุงเทพฯสมัยก่อน   9.Dream World (สวนสนุกดรีมเวิลด์) Dream world แน่นอนว่า… คงเป็น สวนสนุกที่ครองใจเด็กเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งสวนสนุกดรีมเวิลด์ก็เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะมีทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ซึ่งไม่น่าหวาดเสียวเท่าเครื่องเล่นของผู้ใหญ่ มีบ้านผีสิง บ้านหิมะ หรือเมืองหิมะ ที่สามารถเข้าไปสัมผัสความสนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นสถานที่ช่วงปิดเทอมที่ได้สนุกกันทั้งครอบครัวอย่างแน่นอน       Workshop ต่างๆ กิจกรรม workshop เข้าค่าย เข้าคอร์ส ไม่ว่าจะเป็น ด้านศิลปะ, เดินป่า, แล่นเรือใบ หรือฝึกอาชีพต่างๆ รับรองว่าสนุกและได้ความรู้กันแบบจุกๆ ใครชอบแบบไหนก็ตามไปสมัครกันได้เลย หาที่เรียน ที่หาทำกันได้เลยค่ะ   สรุปส่งท้าย เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 สถานที่เที่ยวช่วงปิดเทอม หวังว่า… ที่เที่ยวปิดเทอม ปี 2568 ที่ Amber นำมาเสนอในบทความนี้ จะช่วยให้ผู้ปกครองได้ไอเดียในการพาบุตรหลานของท่านไปเที่ยว ขอให้มีช่วงเวลาที่ดี และสนุกสนานกับครอบครัว หรือเพื่อนๆ กันถ้วนหน้าโล้ดดด!   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

11 มีนาคม 2025
ภาษีให้เช่า

ก่อนให้เช่าคอนโด อย่าลืม! คำนวณภาษี ด้วยนะ

ฝันถึงรายได้ก้อนโต แต่อย่าลืมว่า… ก่อนให้เช่าคอนโด บ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ใดๆ ต้องคำนวณ ภาษีให้เช่า โดยคำนึงถึงภาษี 2 ประเภท คือ ภาษีเงินได้ และภาษีที่ดิน นักลงทุนทั้งหลาย อย่าลืมว่า… รายได้ก้อนงามจากการลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า มีรายจ่ายระหว่างทางที่ต้องนำมาหักลบกับรายรับ โดยเฉพาะภาษีที่ต้องจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าของคอนโดให้เช่าต้องเสียภาษีหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้ และภาษีโรงเรือน แม้เราจะไม่ได้ทำสัญญาเช่า หรือรับเงินแบบนอกระบบ โดยไม่มีหลักฐานหรือใบเสร็จใดๆ ที่เป็นหลักฐานให้ตรวจสอบได้ แต่เราก็ไม่อาจจะวางใจได้ว่าจะรอดปลอดภัยจากการตรวจสอบได้ เนื่องจากเคย มีกรณีที่กรมสรรพากรติดต่อสอบถามผู้เช่าจากเบอร์โทรที่แจ้งประกาศให้เช่าคอนโดไว้ ทำให้ผู้เช่าที่ตั้งใจหลบเลี่ยงภาษีต้องจ่ายเงินเสียภาษีย้อนหลังจำนวนมาก ดังนั้น ทางที่ดีเราจึงควรดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาเช่า การออกหลักฐาน หรือใบเสร็จรับเงิน การยื่นแจ้งอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า รวมถึงการเสียภาษีตามกฎหมาย   เรามาทำความเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีเงินได้และภาษีโรงเรือน เพื่อคาดการณ์รายได้สุทธิหลังหักภาษีในแต่ละปีด้วยตัวเอง   ภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน ถือเป็นภาษีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5) เช่น (ก)การให้เช่าบ้าน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ เป็นต้น เมื่อมีรายได้ดังที่กล่าวมาผู้มีเงินได้ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ (ถ้ามี) และนำไปยื่นเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่ ภาษีช่วงกลางปี (มกราคม-มิถุนายน) ซึ่งเรียกว่า ภ.ง.ด.94 ชำระภายในเดือนกันยายน และยื่นภาษีสิ้นปีหรือแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในเดือนมีนาคมของปีต่อไป วิธีการคำนวณแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ วิธีเงินได้สุทธิ และวิธีเงินได้พึงประเมิน วิธีเงินได้สุทธิ วิธีการคำนวณเงินได้สุทธิจะคำนวณจากเงินทั้งหมดที่ได้รับ ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่า และค่าเฟอร์นิเจอร์รวมกัน โดยนำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ตามสูตรดังนี้ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี สำหรับการปล่อยเช่าคอนโด ในปัจจุบันสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี โดยสามารถเลือกวิธีการหักที่ต่างกันได้ในแต่ละปี วิธีหักค่าใช้จ่าย หักค่าใช้จ่าย หักค่าใช้จ่ายเหมาในอัตรา 30% สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของคอนโดให้เช่าสามารถหักค่าใช้จ่าย 30% ของยอดรายได้ หักค่าใช้จ่ายจริงตามความจำเป็นและสมควร สำหรับผู้ที่เตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยและประเมินค่าใช้จ่ายของตัวเองไว้ว่าน่าจะสูงกว่า 30% ของรายได้ โดยวิธีนี้สามารถนำภาษีโรงเรือนมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้   วิธีเงินได้พึงประเมิน ในกรณีที่รายได้จากการให้เช่าคอนโด และรายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนรวมกันมีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี เราสามารถใช้วิธีเงินได้พึงประเมิน ตามสูตรดังนี้ รายได้ค่าเช่าทั้งหมด x 0.5% หลังจากนั้น ลองเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณทั้ง 2 แบบ โดยสามารถใช้วิธีการคำนวณผ่านโปรแกรมการคำนวณภาษีต่างๆ ได้ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา หรือผ่านอินเทอร์เน็ต   ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เจ้าของคอนโดไม่ว่า จะครอบครองเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่า มีหน้าที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วยเช่นกัน โดยแต่ละปีจะต้องเสียตามอัตราดังต่อไปนี้ >>>กรณีคอนโดมิเนียมแห่งที่ 2 เป็นต้นไป ราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 0.02% หรือจ่ายล้านละ 200 บาท ราคาประเมิน 50-75 ล้านบาท เสียภาษี 0.03% หรือจ่ายล้านละ 300 บาท ราคาประเมิน 75-100 ล้านบาท เสียภาษี 0.05% หรือจ่ายล้านละ 500 บาท ราคาประเมินเกิน 100 ล้านบาท เสียภาษี 0.10% หรือจ่ายล้านละ 1,000 บาท   >>>กรณีเชิงพาณิชย์ หากนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น ออฟฟิศ, สำนักงาน, โรงแรม หรือธุรกิจร้านอาหาร ราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 0.3% หรือจ่ายล้านละ 1,000 บาท ราคาประเมิน 50-200 ล้านบาท เสียภาษี 0.4% หรือจ่ายล้านละ 4,000 บาท ราคาประเมิน 200-1,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.5% หรือจ่ายล้านละ 5,000 บาท ราคาประเมิน 1,000-5,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.6% หรือจ่ายล้านละ 6,000 บาท ราคาประเมินเกิน 5,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.7% หรือจ่ายล้านละ 7,000 บาท   ทั้งนี้ ผู้ให้เช่ายังสามารถขอผ่อนชำระค่าภาษีแบ่งเป็น 3 งวดได้ โดยสามารถยื่นหนังสือแจ้งความจำนงขอผ่อนชำระค่าภาษีต่อพนักงานเก็บภาษีภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ในกรณีที่วงเงินค่าภาษีที่จะขอผ่อนชำระมีจำนวนเงินค่าภาษีตั้งแต่ 9,000 บาทขึ้นไป   สรุปส่งท้าย ก่อนที่จะให้เช่าทรัพย์สิน การคำนวณ ภาษีให้เช่า ทั้งสองประเภทจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงภาระภาษีที่ต้องจ่ายทั้งในแง่ของรายได้จากการเช่าและการถือครองทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ถูกต้อง เพื่อการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั่นเองค่ะ…   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

07 มีนาคม 2025