วิกฤตหนี้ บ้าน-คอนโด ทะลุ 2.32 แสนล้าน สะท้อนคน ผ่อนไม่ไหว เน้นเช่าเสียมากกว่า

27

พ.ค. 25

วิกฤตหนี้ บ้าน-คอนโด ทะลุ 2.32 แสนล้าน สะท้อนคน ผ่อนไม่ไหว เน้นเช่าเสียมากกว่า

สัญญาณเตือนอสังหาริมทรัพย์ เข้าสู่ วิกฤตหนี้ บ้านคอนโดทะลุ 2.32 แสนล้าน ‘เครดิตบูโร’ ชี้หนี้เสียพุ่ง 16.5% สะท้อนภาวะ ผ่อนไม่ไหว จาก“ทรัพย์สิน” สู่ “ภาระหนี้”

ในวันที่ความฝันเรื่อง “บ้าน หรือ คอนโด” กำลังถูกบดบังด้วยภาวะ “หนี้” ตัวเลขใหม่จาก เครดิตบูโร ได้เผยให้เห็นสัญญาณเตือนที่น่ากังวลของตลาดที่อยู่อาศัยในไทย เมื่อยอด หนี้เสีย (NPLs) กลุ่มบ้านขคอนโดในไตรมาส 1 ปี 2568 พุ่งทะลุ 232,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 16.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กลายเป็นแรงสะท้อนถึงภาวะการเงินที่ตึงตัวในระดับครัวเรือน ที่กำลังส่งผลสั่นสะเทือนต่อระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัย

 

บ้าน-คอนโด จาก“ทรัพย์สิน” สู่ “ภาระหนี้”

ไม่บ่อยนักที่สินเชื่อบ้าน-คอนโด จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวข้อหนี้เสียที่ต้องจับตา เพราะตามธรรมชาติแล้ว “บ้าน-คอนโด” มักเป็นทรัพย์สินก้อนสุดท้ายที่ลูกหนี้จะยอมให้หลุดมือ ทว่า…ในไตรมาสที่ผ่านมา กลับพบว่า… จำนวนบัญชีหนี้เสียในกลุ่มบ้าน-คอนโด เพิ่มขึ้นเป็น 156,644 บัญชี เพิ่มขึ้น 6.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแค่บ่งชี้ว่าภาระหนี้บ้านกำลังไหลเข้าสู่พื้นที่สีแดงของระบบการเงิน แต่ยังสะท้อนถึง “ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง” ของเศรษฐกิจครัวเรือนที่แม้แต่สินทรัพย์มั่นคงอย่างบ้าน ยังเริ่มถูกสั่นคลอน
หนี้รวม 13.5 ล้านล้าน “บ้าน” กลับเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น

จากตัวเลขรวมของเครดิตบูโร ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่า… หนี้ครัวเรือนภายใต้ระบบเครดิตบูโรมีมูลค่ารวมถึง 13.5 ล้านล้านบาท โดยกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังครองสัดส่วนสูงสุดที่ 5.12 ล้านล้านบาทเทียบปีต่อปีพิ่มขึ้น 2.5%

แม้สินเชื่อบ้าน-คอนโด จะยังเติบโต แต่สิ่งที่น่าห่วง คือ อัตราหนี้เสียรวมของระบบพุ่งแตะ 8.8% จากเดิม 8.0% ในปีก่อนหน้า โดยหนี้เสียกลุ่มบ้านที่เพิ่มขึ้นถึง 16.5% กลายเป็นแรงฉุดภาพรวมที่ไม่อาจมองข้าม!

เนื่องมาจากโครงสร้างรายได้ ไม่สอดรับ “ภาระหนี้”

การเพิ่มขึ้นของยอดการปรับโครงสร้างหนี้ก่อนเป็น NPLs (Debt Restructuring หรือ DR) คือ อีกหนึ่งสัญญาณสะท้อนวิกฤตการณ์ที่ค่อยๆ ก่อตัว โดยไตรมาสนี้ยอด DR กลุ่มบ้านเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 34.4% (QoQ) หรือคิดเป็น 395,833 ล้านบาทเป็นระดับที่สูงเป็นอันดับสอง รองจากกลุ่มสินเชื่อรถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

นั่นหมายความว่า ผู้กู้จำนวนมากเริ่มรู้ตัวว่า “ผ่อนไม่ไหว” และต้องเจรจาขอผ่อนปรนกับสถาบันการเงิน ซึ่งแม้จะเป็นสัญญาณบวกในเชิงการป้องกัน NPLs แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า “แรงอึดทางการเงิน” ของคนจำนวนไม่น้อยกำลังถึงขีดจำกัด

ท่ามกลางสัญญาณลบ ก็ยังมีจุดที่น่าจับตาในเชิงบวก เช่น กลุ่มหนี้ที่ค้างชำระระยะสั้น (SM) ในกลุ่มบ้าน-คอนโดข ซึ่งมีมูลค่าลดลง 2.5% อยู่ที่ 182,018 ล้านบาท จากเดิม 186,593 ล้านบาท บ่งชี้ถึงความพยายามของทั้งสถาบันการเงินและลูกหนี้ในการรักษาระดับหนี้ไม่ให้ไหลสู่ NPLs

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างหนี้หลังกลายเป็นหนี้เสีย (TDR) ก็ยังคงอยู่ในระดับที่ “ควบคุมได้” โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.9% อยู่ที่ 299,783 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการขยับที่ไม่หวือหวา หากเทียบกับแรงเหวี่ยงของปัญหาภายนอก

ความรุนแรงของวิกฤตหนี้เสียกลุ่มบ้าน-คอนโด อาจยังไม่ถึงจุดพีค แต่แนวโน้มนี้สะท้อนถึงโจทย์ใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือการกลับมาทบทวน “ราคาขาย” “เงื่อนไขการกู้” และ “การพัฒนาโครงการ” ให้สอดคล้องกับกำลังซื้อจริงในตลาด ไม่เช่นนั้น บ้าน-คอนโด ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง อาจกลายเป็นต้นเหตุของความทุกข์ในระดับครัวเรือน  เมื่อบ้านในฝัน หรือ ภาระในชีวิต

 

วิกฤตหนี้บ้าน-คอนโด ในไตรมาสแรกของปีนี้ อาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาที่กำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ผิวน้ำ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูง และรายได้ที่ไม่ทันความเปลี่ยนแปลง ความท้าทายของทุกฝ่ายไม่ใช่แค่ควบคุม NPLs ให้อยู่ในกรอบเท่านั้น… แต่คือการสร้างระบบที่เอื้อให้ประชาชน “มีบ้าน มีคอนโด” ได้ โดยไม่ต้องแลกด้วยความไม่มั่นคงในชีวิตระยะยาว

 

สรุปส่งท้าย วิกฤตหนี้ ที่เกิดขึ้น สะท้อนภาวะคนเริ่ม ผ่อนไม่ไหว จากทรัพย์สิน ที่มีกลับกลายเป็นภาระหนี้เสีย และด้วยเหตุนี้เอง คนรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y Gen Z ถึงเลือกที่จะเช่ามากกว่าซื้อบ้านหรือคอนโด เพื่อไม่มีภาระผูกมัดระยะยาวนั่นเองค่ะ…

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย

ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

 

เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

 

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

มัดรวม 10 ทำเล คอนโดฮอตฮิต ที่คนเช่าเยอะ ที่สุด ตลอดปี 2024

มัดรวม 10 ทำเลคอนโดฮอตฮิต ที่คนเช่าเยอะที่สุด ตลอดปี 2024

ต้นปีแบบนี้ Amber ขอพาไปส่อง ทำเลทอง คอนโดฮอตฮิต ที่คนเช่าเยอะที่สุด มีการค้นหามากสุด! ในปี 2024 จะมีที่ไหนบ้าง ตามเราไปดูกันเลยค่ะ…   จากผลการค้นหาแหล่ง ทำเลที่มีคนเช่าคอนโด รีเสิร์ชหามากที่สุดในกรุงเทพ และพร้อมที่จะควักเงินก้อนใหญ่ลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่าในอนาคต 10 อันดับแรก ก็หนีไม่พ้นย่านเศรษฐกิจ แนวรถไฟฟ้า และเขตชานเมืองที่เดิมทางสะดวก โดยอันดับที่ 1 – 4 เรียกได้ว่าเป็นย่านเศรษฐกิจของแต่ละโซนในกรุงเทพ อันดับ 5 – 7 ใกล้แนวรถไฟฟ้า และอันดับ 8 – 10 เป็นเขตชานเมืองที่เดินทางสะดวกสบายขึ้น ***ข้อมูลอ้างอิงจากผลการค้นหาแหล่ง ‘เช่าคอนโด’ ที่คนเสิร์ชหามากที่สุดในกรุงเทพ   เริ่มจากอันดับที่ 1 – 4 เรียกได้ว่า… เป็นย่านเศรษฐกิจของแต่ละโซนในกรุงเทพฯ เลย   อันดับที่ 1 ต้องยอมให้ย่านนี้จริงๆ สุขุมวิทตอนต้น ได้แก่ อโศก ทองหล่อ เอกมัย (ผลการค้นหา 36,549 รายการ) โดยเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว เรียกได้ว่า… เป็นย่านออฟฟิศ และเศรษฐกิจหลากหลายประเภทรวมตัวกันอยู่ในย่านนี้ จึงไม่แปลกใจที่จะมีผู้คนต้องการคอนโดให้เช่าจำนวนมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ   อันดับ 2 โซนพระราม 9 จนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (ผลการค้นหา 34,089 รายการ) เส้นทางหลักรถไฟฟ้าสาย MRT เป็นย่านธุรกิจสำคัญ ที่มีทั้งสถานศึกษาชั้นนำ ศูนย์การค้า และออฟฟิศมากมาย จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่ Investor ควรจับตามอง เพราะมีกลุ่มคนทั้งพนักงานออฟฟิศ และนักศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก   อันดับ 3 สุขุมวิทตอนกลาง พระโขนง – อ่อนนุช – อุดมสุข (ผลการค้นหา 32,675 รายการ) ส่วนต่อขยายเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเช่นเดียวกัน แต่อยู่ในช่วงสุขุมวิทส่วนกลาง จนถึงตอนปลาย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่น่าจับตามองเพราะการเดินทางที่สะดวกด้วยรถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วนหลายสาย และมีคอมมูนิตี้มอลหรือห้างสรรพสินค้าที่อำนวยความสะดวกมากขึ้นเรื่อยๆ   อันดับ 4 โซนรัชดา และห้วยขวาง (ผลการค้นหา 17,629 รายการ) มาถึงอีกย่านที่น่าจับตามองเรียกได้ว่าเชื่อมต่อทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT ได้ง่าย เป็นแหล่งเศรษฐกิจที่มีลูกค้ากลุ่มคนจีนมากมาย รวมไปถึงแหล่งออฟฟิศ มหาวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้าสุดคึกคักแห่งหนึ่งในกรุงเทพ   อันดับ 5 โซนลาดพร้าว (ผลการค้นหา 11,473 รายการ) ลาดพร้าวตอนต้นที่เริ่มจากห้าแยกลาดพร้าว จนถึงเลียบด่วนรามอินทรา เป็นอีกทำเลทองที่อุดมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร แหล่งออฟฟิศ และจุดเชื่อมต่อการเดินทางหลายสาย   อันดับ 6 สุขุมวิทตอนปลาย บางนา – แบริ่ง – ราม 2 (ผลการค้นหา 11,313 รายการ) ทำเลทองที่ Investor มองข้ามไม่ได้เรียกได้ว่ามีครบทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งศึกษา และเส้นทางเชื่อมต่อได้ทั้งรถไฟฟ้า, Airport Link และทางด่วน   อันดับ 7 ย่านธุรกกิจอีก 1 ที่ คือ โซนสาทร – นราธิวาส – เจริญกรุง (ผลการค้นหา 9,339 รายการ) ถึงจะไม่ใช่ย่านใหม่ แต่อนาคตน่าสนใจไม่น้อย เพราะด้วยความเป็นย่านเศรษฐกิจหลักที่มีทั้งโรงเรียนชั้นนำ โรงพยาบาล และเป็นที่ตั้งของออฟฟิศใจกลางเมืองมากมาย จึงเป็นทำเลทองที่น่าสนใจสำหรับ Investor ไม่น้อยเลยทีเดียว   อันดับ 8 เขตชานเมือง บางซื่อ – วงศ์สว่าง – เตาปูน (ผลการค้นหา 9,212 รายการ) ด้วยเส้นทางการเดินรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ที่เข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มกระจายเข้าสู่พื้นที่ทำเลทองนี้มากขึ้น เพราะเชื่อมต่อได้ทั้งในเมือง และปริมณฑล รวมไปถึงย่านชุมชน และห้างสรรพสินค้า อันดับ 9 โซนรามคำแหง – หัวหมาก (ผลการค้นหา 9,051 รายการ) ใครบอกว่า… รามคำแหง หัวหมากอยู่นอกเมืองอาจจะต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เพราะการเดินทางเข้าถึงสะดวกไม่ว่าจะทางด้วย หรือรถไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งย่านทำเลทองที่น่าจับตามองสุดๆ   อันดับ 10 โซนศูนย์ราชการ ย่านรัตนาธิเบศร์ – สนามบินน้ำ – พระนั่งเกล้า (ผลการค้นหา 8,373 รายการ) เป็นอีกย่านทำเลทอง ที่ผู้คนหาคอนโดให้เช่าอยู่พอสมควร ด้วยเป็นแหล่งของข้าราชการ ห้างสรรพสินค้า และเสริมความสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง แถมยังมีทางด่วนเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวสบายสุดๆ และนี่คือ 10 อันดับ ทำเลทอง คอนโดฮอตฮิต ที่คนเช่าเยอะที่สุด แห่งปี 2024 หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการลงทุนอสังหา ก็อย่าลืม ตรวจเช็คทำเล เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และเหมาะสมกันด้วยนะคะ   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property   ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด   LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/   #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ  

23 มกราคม 2025
ภาษีให้เช่า

ก่อนให้เช่าคอนโด อย่าลืม! คำนวณภาษี ด้วยนะ

ฝันถึงรายได้ก้อนโต แต่อย่าลืมว่า… ก่อนให้เช่าคอนโด บ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ใดๆ ต้องคำนวณ ภาษีให้เช่า โดยคำนึงถึงภาษี 2 ประเภท คือ ภาษีเงินได้ และภาษีที่ดิน นักลงทุนทั้งหลาย อย่าลืมว่า… รายได้ก้อนงามจากการลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า มีรายจ่ายระหว่างทางที่ต้องนำมาหักลบกับรายรับ โดยเฉพาะภาษีที่ต้องจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าของคอนโดให้เช่าต้องเสียภาษีหลัก 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้ และภาษีโรงเรือน แม้เราจะไม่ได้ทำสัญญาเช่า หรือรับเงินแบบนอกระบบ โดยไม่มีหลักฐานหรือใบเสร็จใดๆ ที่เป็นหลักฐานให้ตรวจสอบได้ แต่เราก็ไม่อาจจะวางใจได้ว่าจะรอดปลอดภัยจากการตรวจสอบได้ เนื่องจากเคย มีกรณีที่กรมสรรพากรติดต่อสอบถามผู้เช่าจากเบอร์โทรที่แจ้งประกาศให้เช่าคอนโดไว้ ทำให้ผู้เช่าที่ตั้งใจหลบเลี่ยงภาษีต้องจ่ายเงินเสียภาษีย้อนหลังจำนวนมาก ดังนั้น ทางที่ดีเราจึงควรดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ว่าจะเป็นการทำสัญญาเช่า การออกหลักฐาน หรือใบเสร็จรับเงิน การยื่นแจ้งอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า รวมถึงการเสียภาษีตามกฎหมาย   เรามาทำความเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีเงินได้และภาษีโรงเรือน เพื่อคาดการณ์รายได้สุทธิหลังหักภาษีในแต่ละปีด้วยตัวเอง   ภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน ถือเป็นภาษีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5) เช่น (ก)การให้เช่าบ้าน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นหรือแพ เป็นต้น เมื่อมีรายได้ดังที่กล่าวมาผู้มีเงินได้ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ (ถ้ามี) และนำไปยื่นเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่ ภาษีช่วงกลางปี (มกราคม-มิถุนายน) ซึ่งเรียกว่า ภ.ง.ด.94 ชำระภายในเดือนกันยายน และยื่นภาษีสิ้นปีหรือแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในเดือนมีนาคมของปีต่อไป วิธีการคำนวณแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ วิธีเงินได้สุทธิ และวิธีเงินได้พึงประเมิน วิธีเงินได้สุทธิ วิธีการคำนวณเงินได้สุทธิจะคำนวณจากเงินทั้งหมดที่ได้รับ ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่า และค่าเฟอร์นิเจอร์รวมกัน โดยนำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ตามสูตรดังนี้ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี สำหรับการปล่อยเช่าคอนโด ในปัจจุบันสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี โดยสามารถเลือกวิธีการหักที่ต่างกันได้ในแต่ละปี วิธีหักค่าใช้จ่าย หักค่าใช้จ่าย หักค่าใช้จ่ายเหมาในอัตรา 30% สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของคอนโดให้เช่าสามารถหักค่าใช้จ่าย 30% ของยอดรายได้ หักค่าใช้จ่ายจริงตามความจำเป็นและสมควร สำหรับผู้ที่เตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยและประเมินค่าใช้จ่ายของตัวเองไว้ว่าน่าจะสูงกว่า 30% ของรายได้ โดยวิธีนี้สามารถนำภาษีโรงเรือนมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้   วิธีเงินได้พึงประเมิน ในกรณีที่รายได้จากการให้เช่าคอนโด และรายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนรวมกันมีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี เราสามารถใช้วิธีเงินได้พึงประเมิน ตามสูตรดังนี้ รายได้ค่าเช่าทั้งหมด x 0.5% หลังจากนั้น ลองเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณทั้ง 2 แบบ โดยสามารถใช้วิธีการคำนวณผ่านโปรแกรมการคำนวณภาษีต่างๆ ได้ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา หรือผ่านอินเทอร์เน็ต   ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เจ้าของคอนโดไม่ว่า จะครอบครองเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่า มีหน้าที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วยเช่นกัน โดยแต่ละปีจะต้องเสียตามอัตราดังต่อไปนี้ >>>กรณีคอนโดมิเนียมแห่งที่ 2 เป็นต้นไป ราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 0.02% หรือจ่ายล้านละ 200 บาท ราคาประเมิน 50-75 ล้านบาท เสียภาษี 0.03% หรือจ่ายล้านละ 300 บาท ราคาประเมิน 75-100 ล้านบาท เสียภาษี 0.05% หรือจ่ายล้านละ 500 บาท ราคาประเมินเกิน 100 ล้านบาท เสียภาษี 0.10% หรือจ่ายล้านละ 1,000 บาท   >>>กรณีเชิงพาณิชย์ หากนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น ออฟฟิศ, สำนักงาน, โรงแรม หรือธุรกิจร้านอาหาร ราคาประเมินไม่เกิน 50 ล้านบาท เสียภาษี 0.3% หรือจ่ายล้านละ 1,000 บาท ราคาประเมิน 50-200 ล้านบาท เสียภาษี 0.4% หรือจ่ายล้านละ 4,000 บาท ราคาประเมิน 200-1,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.5% หรือจ่ายล้านละ 5,000 บาท ราคาประเมิน 1,000-5,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.6% หรือจ่ายล้านละ 6,000 บาท ราคาประเมินเกิน 5,000 ล้านบาท เสียภาษี 0.7% หรือจ่ายล้านละ 7,000 บาท   ทั้งนี้ ผู้ให้เช่ายังสามารถขอผ่อนชำระค่าภาษีแบ่งเป็น 3 งวดได้ โดยสามารถยื่นหนังสือแจ้งความจำนงขอผ่อนชำระค่าภาษีต่อพนักงานเก็บภาษีภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ในกรณีที่วงเงินค่าภาษีที่จะขอผ่อนชำระมีจำนวนเงินค่าภาษีตั้งแต่ 9,000 บาทขึ้นไป   สรุปส่งท้าย ก่อนที่จะให้เช่าทรัพย์สิน การคำนวณ ภาษีให้เช่า ทั้งสองประเภทจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงภาระภาษีที่ต้องจ่ายทั้งในแง่ของรายได้จากการเช่าและการถือครองทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ถูกต้อง เพื่อการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั่นเองค่ะ…   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

07 มีนาคม 2025
ผลสำรวจ คนหาบ้าน ในปี 2568 ต้องการเช่า มากกว่าซื้อ

ผลสำรวจ คนหาบ้าน ในปี 2568 มีแนวโน้มเช่ามากกว่าซื้อจริงหรือไม่?

ผู้บริโภคในตลาดอสังหาฯ ปี 2568 มีความ ต้องการเช่า มากกว่าซื้อ จริงหรือไม่? ปัจจุบัน ความท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทย กำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากรายงานของ DDproperty ในช่วงต้นปี 2567 พบว่า… กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับล่างที่มีราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งครองสัดส่วนถึง 30% ของตลาดทั้งหมด กำลังส่งสัญญาณอันตราย จากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่พุ่งสูงถึง 40-50% สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของกำลังซื้อที่แท้จริงในตลาดที่อยู่อาศัยระดับล่าง และยิ่งไปกว่านั้น… ข้อมูลจากเครดิตบูโรยิ่งตอกย้ำความน่ากังวลของสถานการณ์ เมื่อพบว่าหนี้เสียจากสินเชื่อบ้านกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อระดับล่างที่เริ่มผ่อนบ้านไม่ไหว อันเนื่องมาจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น โดยประมาณ 60-70% ของหนี้ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นหนี้เสีย หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.2 แสนล้านบาท มาจากกลุ่มผู้กู้ที่ซื้อบ้านในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจลุกลามเป็นปัญหาเชิงระบบได้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยยังคง เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญในชีวิตของผู้บริโภคหลายคน นอกจากจะสะท้อนถึงความมั่นคงและความพร้อมทางการเงินของผู้บริโภคแล้ว ยังสะท้อนภาพรวมให้เห็นถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจไทยชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในขณะที่อัตราดอกเบี้ยสูงย่อมส่งผลกระทบต่อการวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคโดยตรงเช่นกัน ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยว่า… เศรษฐกิจไทยปี 2566 ขยายตัว 1.9% ชะลอตัวจากการขยายตัว 2.5% ในปี 2565 และคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะขยายตัวในช่วง 2.2–3.2% (โดยไม่รวมผลของมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต) ซึ่งปรับลดลงจากประมาณการครั้งก่อนหน้า ที่คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.7-3.7% ถือเป็นการส่งสัญญานให้ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ต้องเตรียมวางแผนทางการเงินอย่างรัดกุมอีกครั้ง ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย พบว่า… ภาพรวมความเชื่อมั่นด้านอสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภคชาวไทยมีทิศทางลดลงในทุกด้าน โดยดัชนีความเชื่อมั่นด้านอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 48% จากเดิม 50% ในรอบก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความท้าทายต่างๆ ยังคงส่งผลกระทบต่อการวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความท้าทายทางการเงินที่เป็นปัจจัยสำคัญส่งผลให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคปรับลดลงตามไปด้วย โดยลดลงมาอยู่ที่ 59% (จากเดิม 63% ในรอบก่อน) หลังจากผู้บริโภคต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเงินทั้งจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง ผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่า… อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับสูง (48%) และสูงมาก (29%) มีเพียง 16% ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันมีความเหมาะสมแล้ว ขณะเดียวกันมีผู้บริโภคเพียง 13% เท่านั้นที่มองว่ารัฐบาลมีความพยายามเพียงพอที่จะช่วยให้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ (ลดลงจาก 15% ในรอบก่อน) เนื่องจากภาครัฐยังคงไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม (นอกจากมาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง ที่ต่ออายุมาตรการจนถึงสิ้นปี 2567) เมื่อพิจารณาความพึงพอใจในสภาพตลาดที่อยู่อาศัยมีการปรับลดลงเช่นกัน โดยลดลงมาอยู่ที่ 63% จากเดิม 65% ในรอบก่อน อย่างไรก็ตามสำหรับในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคงพึงพอใจอยู่ ส่วนใหญ่ 39% เผยว่าพึงพอใจเนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รองลงมามองว่าตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพและยืดหยุ่น 37% และเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว 31% ขณะที่มุมมองของผู้ที่ไม่พึงพอใจ เกือบ 2 ใน 3 (65%) มองว่า เศรษฐกิจยังไม่ดีเท่าที่ควร ตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยยังไม่ลดลงมาถึงระดับที่คาดหวัง 32% และมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่มีเสถียรภาพ 30% คนอยากซื้อบ้านน้อยลงในยุคดอกเบี้ยสูง ผู้บริโภคกว่า 2 ใน 5 (44%) วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยในอีก 1 ปีข้างหน้า ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 53% ในรอบก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณสะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงไม่ฟื้นตัว สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ในกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและล่างยังคงมีความเปราะบางทางการเงินจึงจำเป็นต้องลดการก่อหนี้ใหม่ ในทางกลับกันสัดส่วนของผู้เลือกเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นถึง 14% (จากเดิม 9%) ส่วนอีก 34% ยังไม่มีการวางแผนซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยใดๆ ขณะที่อีก 8% จะรับมรดกที่อยู่อาศัยต่อจากพ่อแม่และผ่อนชำระต่อไปแทน 1 ใน 3 ของคนหาบ้านมีเงินพร้อมซื้อ หวังเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ (44%) ตัดสินใจซื้อที่อาศัยในเวลานี้เนื่องจากต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากที่สุด รองลงมา คือ เลือกซื้อเพื่อการลงทุน 29% และซื้อเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับพ่อแม่/บุตรหลานให้มากขึ้น 27% อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาความพร้อมทางการเงินของผู้บริโภคพบว่ามีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ โดย 1 ใน 3 ของผู้ที่วางแผนซื้อที่อยู่อาศัย (33%) เผยว่ามีเงินออมเพียงพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองแล้ว สัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 24% ในรอบก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่า… คนหาบ้านยุคนี้ให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น หลังจากเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจมาเป็นเวลานาน ขณะที่ผู้บริโภคเกือบครึ่ง (47%) เผยว่า… เก็บเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น ส่วน 19% ของผู้วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยยังไม่ได้เริ่มแผนเก็บเงินใดๆ เลย เงินเก็บไม่พอ ทำให้คนหันเช่า เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกเช่าที่อยู่อาศัยนั้น กว่า 3 ใน 5 (61%) เผยว่ายังไม่มีเงินเก็บเพียงพอในการซื้อที่อยู่อาศัยในเวลานี้ ขณะที่เกือบ 2 ใน 5 (38%) มองว่าที่อยู่อาศัยมีราคาแพงเกินไปจึงเลือกเก็บออมเงินแทน และ 27% มองไม่เห็นความจำเป็นหรือความเร่งด่วนที่ต้องซื้อที่อยู่อาศัยตอนนี้ สะท้อนให้เห็นว่าสภาพคล่องทางการเงินยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคไม่พร้อมเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย จึงหันมาเลือกเช่าแทน เทรนด์ Generation Rent ที่ยังคงได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องด้วยความท้าทายจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทำให้คนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ไม่ต้องการเพิ่มภาระผูกพันทางการเงินในระยะยาวจากการซื้อที่อยู่อาศัย การเช่าจึงตอบโจทย์เรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่า และยังได้เปรียบในด้านความยืดหยุ่นและคล่องตัวหากต้องการย้ายที่อยู่อาศัยในอนาคต โดยผู้เช่าส่วนใหญ่ 31% เผยว่า… ได้วางแผนเช่า 2 ปี ก่อนจะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในภายหลัง ขณะที่ 1 ใน 3 (33%) ยังไม่แน่ใจว่าจะเช่าต่อไปอีกนานแค่ไหน เนื่องจากต้องพิจารณาความพร้อมหลายๆ ด้านประกอบกัน โดยค่าเช่าที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอยู่ที่ไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน สัดส่วน 48% และมีสัดส่วนที่สูงขึ้นในกลุ่มผู้เช่าปัจจุบันและผู้มีรายได้น้อย สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อและความสามารถในการใช้จ่ายของผู้เช่าในปัจจุบันที่ยังคงต้องรัดเข็มขัดต่อเนื่อง รองลงมาคือ 5,001-10,000 บาท/เดือน และ 10,001-15,000 บาท/เดือน (สัดส่วน 39% และ 6% ตามลำดับ) สรุปส่งท้าย ปี 2568 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่จะเห็นการปรับตัวครั้งใหญ่ทั้งจากฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยผู้บริโภคมีความ ต้องการเช่า มากกว่าซื้อ เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้บริบทของตลาดที่ต้องพึ่งพากลไกการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น โดยเฉพาะการออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ให้สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ควบคู่ไปกับการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องจักรสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย สามารถกลับมาขับเคลื่อนได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง และด้วยการเพิ่มจำนวนของวัยรุ่น Gen Z ที่มองหาการเช่า มากกว่าการซื้อ ด้วยเหตุผลที่ว่า… ไม่มีภาระผูกมัดย่อมดีกว่า เพราะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ก็เป็นผลต่อการตัดสินใจซื้อนั้นเองค่ะ…   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

05 มีนาคม 2025