สัญญาจะซื้อจะขาย คืออะไร ทำไมต้องรู้ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโด?

13

ก.พ. 25

119

สัญญาจะซื้อจะขาย คืออะไร ทำไมต้องรู้ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโด?

สัญญาจะซื้อจะขาย คืออะไร ทำไมต้องรู้ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโด?

เพราะเรื่องสัญญาจะซื้อจะขาย มันสำคัญ จึงอยากให้ทุกคนรู้และเข้าใจก่อน Amber จึงได้สรุปบทความนี้มาให้นั่นเองค่ะ

สัญญา จะซื้อจะขาย คือหนังสือสัญญาประเภทหนึ่งที่ผู้ซื้อให้คำมั่นแก่ผู้ขายว่า… ในอนาคตจะซื้ออสังหาริมทรัพย์แห่งนั้นจริงๆ และสัญญาจะซื้อจะขาย จะช่วยรักษาผลประโยชน์ให้แก่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายก่อนทำสัญญาซื้อขายบ้าน คอนโด และที่ดิน

สัญญา จะซื้อจะขาย คืออะไร ทำไมถึงต้องทำ?
สัญญา จะซื้อจะขาย คือ หนังสือสัญญาประเภทหนึ่งที่ผู้ซื้อให้คำมั่นแก่ผู้ขายว่าในอนาคตจะซื้ออสังหาริมทรัพย์แห่งนั้นจริงๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องร่างหนังสือจะซื้อจะขาย แทนที่จะทำหนังสือสัญญาซื้อขายเลย เป็นเพราะว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน หรือการกู้ซื้อที่ดิน ต้องยื่นกู้กับทางธนาคาร ซึ่งใช้ระยะเวลาพิจารณาสินเชื่อค่อนข้างนาน ทำให้ในระหว่างนี้อาจมีผู้ซื้อรายอื่น มาซื้อตัดหน้าด้วยเงินสดก่อนได้ แต่ถ้าทำสัญญาจะซื้อจะขายเอาไว้แล้ว ผู้จะขาย ไม่สามารถขายอสังหาริมทรัพย์แห่งนั้น ให้แก่ผู้ซื้อรายอื่นได้นั่นเอง

นอกจากนี้สัญญาจะซื้อจะขายก็มีประโยชน์ต่อการกู้ซื้อบ้านด้วยเช่นกัน เพราะใช้เป็นเอกสารประกอบการกู้ ด้วยเหตุนี้ผู้จะซื้อ ต้องทำสัญญาจะซื้อจะขายให้เรียบร้อยพร้อมวางเงินมัดจำเสียก่อน หลังจากได้สัญญาตัวจริงแล้ว ก็ให้ยื่นกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร พร้อมเตรียมเอกสารอื่นๆ ประกอบด้วย ดังต่อไปนี้

  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาโฉนดที่ดิน
  • แผนผังแสดงที่ตั้งของหลักประกัน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • หนังสือรับรองเงินเดือน
  • สมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน

 

ยิ่งไปกว่านี้หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย ก็มีประโยชน์ต่อผู้จะขายด้วยเช่นเดียวกัน กล่าวคือ การสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายใช้เวลาก่อสร้างนาน บางครั้งกินระยะเวลามากกว่า 3 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้พัฒนาอสังหาฯ จะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ล่วงหน้าก่อนได้ หรือที่เรียกกันว่า Pre-Sale เพื่อประเมินยอดขาย ก่อนเปิดโครงการจริง โดยหากผู้ซื้อสนใจ ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะให้วางเงินมัดจำล่วงหน้า พร้อมทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งหลังโครงการสร้างเสร็จสิ้นแล้วจะส่งมอบโครงการให้ตามวันที่ระบุเอาไว้ในสัญญา

แยกให้ออก สัญญาจะซื้อจะขาย กับ สัญญาซื้อขาย ต่างกันอย่างไร

สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาที่ยังไม่ได้มีการซื้อขายเกิดขึ้นจริง เป็นเพียงการทำข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาเท่านั้น! ว่า… ในอนาคตจะมีการซื้อขายเกิดขึ้น ซึ่งหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดสัญญาจะซื้อจะขาย ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่คู่สัญญา โดยถ้าผู้จะซื้อผิดสัญญา จะถูกริบเงินมัดจำทั้งหมด แต่หากผู้จะขายเป็นฝ่ายผิดสัญญา ต้องคืนเงินมัดจำให้แก่ผู้จะซื้อ ยิ่งไปกว่านี้การทำผิดสัญญาจะซื้อจะขาย ยังสามารถฟ้องร้องต่อศาล เพื่อบังคับซื้อขายได้เช่นเดียวกัน

ส่วนสัญญาซื้อขายแตกต่างจากสัญญาจะซื้อจะขายตรงที่เป็นการซื้อขายเกิดขึ้นจริงแล้ว ทำให้มีการส่งมอบกรรมสิทธิ์ด้วยการโอนโฉนดที่ดิน ณ สำนักงานกรมที่ดิน พร้อมชำระค่าโอนที่ดินตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากผู้ซื้อชำระเงินด้วยเงินสด กรรมสิทธิ์จะเป็นของผู้ซื้อโดยทันที แต่ในกรณีที่กู้ซื้อ กรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อจะติดภาระจำนอง ซึ่งหากผ่อนชำระครบตามเงื่อนไขที่ตกลงเอาไว้ในสัญญา ภาระจำนองก็จะหมดไปในภายหลัง

 

สัญญาจะซื้อจะขาย ใช้กับการซื้ออสังหาฯ ประเภทไหนบ้าง?

สัญญาจะซื้อจะขายมักใช้กับการซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าสูง เช่น บ้าน ที่ดิน หรือ คอนโด เพราะกระบวนการซื้อขายใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ตามเหตุผลที่ให้ไปแล้วข้างต้น โดยตัวอย่างของหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย ได้แก่ สัญญาจะซื้อจะขายบ้านและที่ดิน และสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน คอนโด และที่ดิน

ใช้สำหรับการทำสัญญา เพื่อให้คำมั่นว่าในอนาคตต้องการซื้อขายบ้านและที่ดินจริง โดยเนื้อหาในหนังสือจะให้ระบุรายละเอียดของโฉนดที่ดิน และระบุจำนวนของอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่บนที่ดิน จากนั้นท้ายสัญญาให้แนบรายละเอียดของแผนผังแสดงที่ตั้งของที่ดิน รวมทั้งโฉนดที่ดินประกอบด้วย

สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด

เป็นสัญญาแสดงเจตจำนงระหว่างผู้จะซื้อและผู้จะขายว่า ในอนาคตจะมีการตกลงซื้อขายคอนโดเกิดขึ้นจริง โดยสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด แตกต่างจากสัญญาจะซื้อจะขายบ้านและที่ดินตรงที่สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด ไม่ต้องใช้โฉนดที่ดินยื่นประกอบการทำสัญญา

ทั้งนี้ไม่ว่า… สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน คอนโด และที่ดิน หรือสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด ผู้จะขายมักกำหนดให้ผู้จะซื้อวางเงินค่ามัดจำประมาณ 5-10 % ของราคาหลักทรัพย์ เช่น สมมติว่าราคาประเมินที่ดิน อยู่ที่ราว 1 ล้านบาท เงินค่ามัดจำจะอยู่ในช่วง 50,000-100,000 บาท เป็นต้น ส่วนในกรณีที่ผู้จะซื้อประสงค์วางเงินค่ามัดจำในรูปแบบของเช็ค ก็ต้องระบุรายละเอียดของเช็คให้ชัดเจน ซึ่งประกอบด้วย เลขที่เช็ค, สาขาของธนาคาร, วันที่ออกเช็ค และชื่อธนาคาร

 

รายละเอียดที่ต้องมีใน สัญญาจะซื้อจะขาย ต้องมีอะไรบ้าง?

สัญญาจะซื้อจะขายจะมีผลสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อ คู่สัญญาระบุรายละเอียดครบถ้วนชัดเจน ซึ่งการเขียนสัญญาอย่างรัดกุม จะช่วยป้องกันการโกงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยรายละเอียดที่ควรมีในสัญญา มีดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลของคู่สัญญา
  • สัญญาจะซื้อจะขาย เรียกคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายว่า ผู้จะซื้อ และ ผู้จะขาย โดยรายละเอียดข้อมูลของคู่สัญญาประกอบด้วย
    • 1.ชื่อ – นามสกุล
    • 2.อายุ
    • 3.บ้านเลขที่ ซึ่งข้อมูลของคู่สัญญาทั้งหมดต้องตรงกับสำเนาบัตรประชาชนที่แนบท้ายสัญญา
  • ข้อมูลการทำสัญญา
  • ข้อมูลในส่วนนี้ให้ระบุว่าหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายจัดทำเมื่อวันที่เท่าไหร่ พร้อมทั้งระบุข้อมูลสถานที่จัดทำสัญญา
  • ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่จะขาย เป็นรายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ที่จะขายว่าเป็นประเภทอะไร และระบุรายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ขนาดของเนื้อที่ หมายเลขแผนผัง ที่ตั้ง จำนวนที่มีการซื้อขาย ซึ่งผู้จะขายสามารถอ้างอิงข้อมูลในส่วนนี้ได้จากใบระวางที่ดิน หรือโฉนดที่ดิน
  • รายละเอียดการชำระเงิน เป็นข้อมูลที่ระบุว่าผู้จะซื้อต้องวางเงินมัดจำเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ พร้อมทั้งระบุเงื่อนไขว่าต้องชำระเป็นเงินสด หรือจ่ายเป็นเช็ค
  • ระยะเวลาการโอนกรรมสิทธิ์ เป็นเงื่อนไขที่กำหนดว่าผู้จะขายต้องส่งมอบกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้จะซื้อภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ณ สำนักงานกรมที่ดิน
  • เงื่อนไขการทำผิดสัญญา เป็นรายละเอียดที่ให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระบุว่าจะให้อีกฝ่ายหนึ่งชดเชยอย่างไร เมื่อมีการทำผิดสัญญา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักตกลงกันว่า หากผู้จะซื้อทำผิดสัญญา ผู้จะขายมีสิทธิ์ยึดเงินค่ามัดจำเอาไว้ได้ แต่ถ้าผู้จะขายเป็นฝ่ายผิดสัญญา นอกจากต้องคืนเงินให้แก่ผู้จะซื้อแล้ว ต้องยินยอมให้ผู้จะซื้อฟ้องศาลบังคับคดีได้ และจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
  • การจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ เป็นรายละเอียดที่ระบุว่าคู่สัญญาฝ่ายใด เป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือค่าภาษีเงินได้ เมื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานกรมที่ดิน
  • ข้อตกลงอื่นๆ คู่สัญญาสามารถกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมได้ว่าจะให้อีกฝ่ายปฏิบัติอย่างไร นอกเหนือจากข้อสัญญาหลักที่ได้ร่างไว้ เช่น กำหนดให้ฝ่ายจะซื้อชำระเงินเป็นจำนวนเงินกี่งวด หรือหากฝ่ายจะซื้อ จ่ายเงินล่าช้าตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ ต้องจ่ายดอกเบี้ยปรับเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เป็นต้น
  • การลงลายมือชื่อ ผลของสัญญาจะซื้อจะขายเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ได้เซ็นยินยอมลงชื่อท้ายสัญญา พร้อมลงชื่อพยานฝ่ายละ 1 คน ซึ่งหลังจากจัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ฉบับแรกเสร็จสิ้น ให้จัดทำหนังสือสัญญาขึ้นมาอีกหนึ่งฉบับ โดยต้องมีรายละเอียดเหมือนกับหนังสือฉบับแรก เมื่อเสร็จแล้ว ให้เก็บไว้ฝ่ายละ 1 ฉบับ

สัญญาจะซื้อจะขาย คืออะไร ทำไมต้องรู้ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโด?

เอกสารประกอบแนบท้ายสัญญา ประกอบด้วย

1.สำเนาทะเบียนบ้าน

2.โฉนดที่ดิน

3.แบบผังบ้าน หรือแผนผังที่ดิน

4.สำเนาบัตรประชาชนของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

5.สำเนาทะเบียนบ้าน

6.โฉนดที่ดิน

7.เอกสารอื่น ๆ (หากมี)

 

ทั้งนี้การลงชื่อทำสัญญาจะซื้อจะขาย ต้องเขียนด้วยลายมือเท่านั้น ไม่สามารถใช้ตราประทับ หรือพิมพ์ลงชื่อแทนได้ เพราะเป็นข้อกำหนดสำหรับการใช้เป็นหลักฐานเมื่อมีการฟ้องร้องบังคับคดีเกิดขึ้น

 

สรุปส่งท้าย สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นสัญญาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกคนควรทำความเข้าใจก่อนจะเริ่มร่างสัญญาซื้อขายบ้านพร้อมที่ดินฉบับจริง เพราะช่วยปกป้องผลประโยชน์ให้แก่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ ฝ่ายซื้อมั่นใจได้ว่าจะได้สิทธิ์ซื้ออสังหาริมทรัพย์แห่งนั้นจริง ในขณะที่ฝ่ายขายก็มั่นใจได้ว่าทรัพย์ของตน สามารถขายออกได้แน่นอน เมื่อถึงระยะเวลาที่ตกลงกันเอาไว้

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

Layout ห้องคอนโด เลือกแบบไหนให้ตรงใจไลฟ์สไตล์คุณที่สุด

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมสักหนึ่งห้อง นอกจากจะพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคา และสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว Layout หรือผังห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผังห้องที่ดี จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ Layout ห้องคอนโดแบบต่างๆ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกผังห้องที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด   ทำไม Layout ห้องคอนโดถึงสำคัญ ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต: ผังห้องที่ดี จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การพักผ่อน หรือการทำงาน การจัดเก็บของ: ห้องที่มีพื้นที่จัดเก็บของที่เพียงพอ จะช่วยให้ห้องของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น การตกแต่ง: ผังห้องจะกำหนดรูปแบบและสไตล์การตกแต่งห้องของคุณได้เป็นอย่างดี มูลค่าการขาย: ห้องที่มี Layout ดี มักจะมีมูลค่าการขายที่สูงกว่าห้องที่มี Layout ธรรมดา Layout ห้องคอนโดแบบต่างๆ ห้องสี่เหลี่ยม: ข้อดี: จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย มีพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย ข้อเสีย: อาจดูเรียบง่ายเกินไป ไม่มีความโดดเด่น ห้องรูปตัว L: ข้อดี: แบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ชัดเจน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ข้อเสีย: อาจมีมุมที่ใช้ประโยชน์ได้ยาก ห้องรูปตัว U: ข้อดี: เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บของมากมาย ข้อเสีย: อาจทำให้ห้องดูแคบลง ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือก Layout ห้อง ไลฟ์สไตล์: ถ้าคุณชอบทำอาหารบ่อยๆ ก็ควรเลือกห้องที่มีครัวขนาดใหญ่ ถ้าคุณชอบอ่านหนังสือ ก็ควรเลือกห้องที่มีพื้นที่สำหรับจัดวางชั้นหนังสือ ขนาดครอบครัว: ถ้าคุณมีครอบครัวใหญ่ ก็ควรเลือกห้องที่มีจำนวนห้องนอนที่เพียงพอ งบประมาณ: ราคาของห้องคอนโดจะขึ้นอยู่กับขนาดและ Layout ของห้อง ความต้องการส่วนตัว: คุณชอบห้องที่มีแสงธรรมชาติมากน้อยแค่ไหน ชอบห้องที่มีระเบียงหรือไม่ เคล็ดลับในการเลือก Layout ห้องคอนโด วาดผังห้อง: ลองวาดผังห้องเพื่อดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ จะวางอยู่ในตำแหน่งไหนได้บ้าง ไปดูห้องตัวอย่าง: ลองไปดูห้องตัวอย่างเพื่อสัมผัสบรรยากาศจริง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือก Layout ห้องแบบไหนดี สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ได้   การเลือก Layout ห้องคอนโดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณในระยะยาว การเลือก Layout ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขและสะดวกสบาย หากใครยังไม่รู้จะเลือก Layout ห้องแบบไหน สามารถทักปรึกษา Amber  เราได้ เรามีทีมงานมีอาชีพค่อยให้ตำปรึกษา และมีห้องหลากหลาย Layout รอให้คุณมาจับจองเป็นเจ้าของอยู่   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

28 พฤศจิกายน 2024
เปรียบเทียบ ทำเลทอง คอนโดทำเลไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2025?

เปรียบเทียบทำเลทอง คอนโดทำเลไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2025?

รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และ MRT สายสีน้ำเงิน นับเป็น ทำเลทอง เส้นเลือดใหญ่ของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร ที่เชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน ทำให้คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้เคียงรถไฟฟ้าทั้งสองสายนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ สะดวกสบายในการเดินทาง: ลดเวลาเดินทางไปทำงาน ทำธุระ หรือท่องเที่ยว ช่วยให้คุณมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน: คอนโดใกล้รถไฟฟ้ามักมีราคาสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะรักษาหรือเพิ่มมูลค่าได้ดีกว่าคอนโดในทำเลอื่น มีผู้เช่าให้บริการตลอดทั้งปี: เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อปล่อยเช่า เพราะมีผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง: สะดวกในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล และสถานบันเทิง ทำเลที่น่าสนใจใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน ย่านสีลม-สาทร: จุดเด่น: เป็นศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำของประเทศ มีอาคารสำนักงานสูงตระหง่าน ห้างสรรพสินค้าระดับโลก โรงแรมหรู และสถานทูต รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี, ศาลาแดง, สุรศักดิ์, สะพานตากสิน / MRT สีลม เหมาะสำหรับ: ผู้บริหารระดับสูง, นักธุรกิจ, ชาวต่างชาติที่ทำงานในย่านธุรกิจ ย่านอโศก-เพชรบุรี: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีความเจริญเติบโตสูง มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า และสถานบันเทิงมากมาย รถไฟฟ้า: BTS อโศก, เพชรบุรี / MRT เพชรบุรี เหมาะสำหรับ: คนทำงาน, นักศึกษา, คนที่ชอบความสะดวกสบาย และต้องการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ย่านสุขุมวิท: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารนานาชาติ สถานบันเทิง และชุมชนชาวต่างชาติ รถไฟฟ้า: BTS นานา, อ่อนนุช, พระโขนง เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบความหลากหลาย, ชาวต่างชาติ, ครอบครัวขนาดเล็ก ย่านพระราม 9: จุดเด่น: เป็นย่านธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโต มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม และคอนโดมิเนียมหรู รถไฟฟ้า: MRT พระราม 9 เหมาะสำหรับ: ผู้ทำงานในย่านธุรกิจใหม่, ครอบครัวที่ต้องการความสงบ ย่านบางนา: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง มีนิคมอุตสาหกรรม และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า: BTS บางนา เหมาะสำหรับ: ผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม, ครอบครัวขนาดใหญ่ ปัจจัยเพิ่มเติมที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อคอนโด ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้า: ยิ่งใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะดวกต่อการเดินทางมากขึ้นเท่านั้น สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม ห้องสมุด Co-working Space ขนาดห้อง: เลือกขนาดห้องให้เหมาะสมกับความต้องการและจำนวนสมาชิกในครอบครัว ราคา: เปรียบเทียบราคาของโครงการต่างๆ เพื่อเลือกโครงการที่คุ้มค่า ศักยภาพในการเติบโตของทำเล: พิจารณาว่าทำเลนั้นมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ เช่น มีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ หรือโครงการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต กฎหมายและข้อจำกัด: เช่น ข้อจำกัดในการซื้อคอนโดสำหรับชาวต่างชาติ ค่าส่วนกลาง: เปรียบเทียบค่าส่วนกลางของแต่ละโครงการ เพื่อวางแผนงบประมาณ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อคอนโด ตรวจสอบข้อมูลโครงการให้ละเอียด: เช่น ผู้พัฒนาโครงการ ประวัติโครงการที่ผ่านมา สัญญาซื้อขาย และเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบโครงการหลายๆ โครงการ: เพื่อหาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด การเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน นอกจากจะช่วยให้คุณเดินทางสะดวกสบายแล้ว ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอีกด้วย แนวโน้มตลาดคอนโดในอนาคต คอนโดมิเนียมขนาดเล็ก: เน้นความคุ้มค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยน้อยลง คอนโดมิเนียมหรู: เน้นความเป็นส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม คอนโดมิเนียมที่เน้นความยั่งยืน: ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีระบบจัดการพลังงานที่ประหยัด คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน: มีพื้นที่ Co-working Space และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับการทำงาน การเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด เนื่องจากทำเลเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ควรคำนึงถึงแนวโน้มเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าคอนโดที่คุณเลือกจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณในระยะยาว   ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อมูลโครงการอย่างละเอียด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และเปรียบเทียบโครงการต่างๆ เพื่อให้ได้โครงการที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด  อยากได้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลยนะคะ   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

14 มกราคม 2025

เทรนด์คอนโดปี 2025 เทรนด์ไหนมาแรง ?

พาคุณไปเจาะลึก เทรนด์คอนโดปี 2025 ที่น่าจับตามอง เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการตัดสินใจลงทุนหรือเลือกที่อยู่อาศัยใหม่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ปี 2025 นี้ก็เช่นกัน มีเทรนด์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งจะส่งผลต่อการออกแบบ การก่อสร้าง และการตลาดโครงการคอนโดในอนาคต เทรนด์คอนโดปี 2025 ที่น่าจับตามอง คอนโดเน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ฟิตเนสที่ทันสมัย สวนหย่อมขนาดใหญ่ พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง และระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ออกกำลังกาย ผ่อนคลาย และมีสุขภาพที่ดี เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น: เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการคอนโดมากขึ้น เช่น ระบบ Smart Home ที่ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องได้ผ่านสมาร์ทโฟน ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และพื้นที่ Co-working Space ที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน คอนโดเน้นความยืดหยุ่น: รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เช่น ห้องนอนที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้ หรือพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้หลากหลาย คอนโดเน้นความยั่งยืน: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบจัดการขยะ และวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คอนโดเน้นความเป็นส่วนตัว: หลังจากที่ต้องอยู่บ้านกันเป็นเวลานาน ทำให้ผู้คนต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงออกแบบคอนโดให้มีพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวางขึ้น เช่น ระเบียงส่วนตัว สวนส่วนตัว หรือห้องทำงานส่วนตัว ปัจจัยที่ส่งผลต่อเทรนด์คอนโดในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค เทคโนโลยี: เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อการออกแบบและการก่อสร้างคอนโด กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์มีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโด เศรษฐกิจ: สถานการณ์เศรษฐกิจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและราคาอสังหาริมทรัพย์   เทรนด์คอนโดในปี 2025 นั้นมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี เทคโนโลยี ความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และความเป็นส่วนตัว ผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมควรศึกษาข้อมูลและเทรนด์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้คอนโดที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเอง หากใครกำลังตัดสินใจซื้อคอนโดและยังไม่รู้จะเริ่มยังไงดี สามารถติดต่อเราได้เลย เรามีห้องหลากหลายโครงการ หลากหลายทำเล ในราคาที่ดีที่สุดในตลาด หรือ อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent  

10 มกราคม 2025