ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

18

ก.พ. 25

244

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

ซื้อ-ขายบ้าน คอนโด ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? และ ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ค่าธรรมเนียม ก็ถือเป็นหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ แต่ผู้ซื้อหลายคนมักมองข้ามความสำคัญในส่วนนี้ไป จนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการเสียค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น จนทำให้การซื้อขายอสังหาฯ บ้าน คอนโด ขาดทุนได้หลังเสียค่าธรรมเนียมและภาษีไปแล้ว เพื่อเป็นการเตรียมตัว Amber ขอพาทุกคนมารู้จักภาษีและวิธีคำนวณภาษีการขายอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นกันก่อนค่ะ…

 

อสังหาริมทรัพย์ คืออะไร ?

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 139 บัญญัติ กล่าวว่า อสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดินกับทรัพย์อันติดกับที่ดินมีลักษณะเป็นการถาวร หรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้น และหมายความรวมถึงทรัพย์สินอันเกี่ยวกับที่ดิน หรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดิน หรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นด้วย

อสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เช่น อาคาร บ้านเรือน สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงสิ่งอื่นใดที่อยู่ติดกับที่ดินซึ่งเคลื่อนที่ไม่ได้ นอกจากนี้ทรัพย์ตามธรรมชาติที่ประกอบเป็นอันเดียวกับดิน เช่น แม่น้ำ บึง แร่ กรวด ทราย ที่อยู่ในอาณาบริเวณที่ดินนั้นก็จัดว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ด้วย

 

รู้จักอสังหาริมทรัพย์แล้ว… ก็จะต้องมีความรู้เรื่องของราคา และราคาที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง? ตามไปอ่านกันเลยค่ะ!

 

  1. ราคาประเมิน คือ

ราคาที่กรมธนารักษ์กำหนดให้เป็นราคากลางของอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการคิดค่าธรรมเนียมและภาษีจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีการปรับราคาประเมินใหม่ทั่วประเทศทุกๆ 4 ปี ซึ่งราคาประเมินอาจจะสูงหรือต่ำกว่าราคาซื้อขายจริงก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วราคาประเมินจะต่ำกว่า

  1. ราคาตลาด คือ

ราคาที่ใช้ในการซื้อขายกันจริง ซึ่งจะสอดคล้องกับอุปสงค์และอุปทานของตลาดในแต่ละช่วงเวลา มีการปรับตัวตามภาวะค่าครองชีพอยู่ตลอดเวลา ราคาตลาดจึงมักสูงกว่าราคาประเมิน

 

 

ในทางภาษี เราต้องทราบว่าได้อสังหาริมทรัพย์มาได้อย่างไร?

กรมสรรพากร แบ่งการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ออกเป็น 2 กรณี คือ

  1. การได้รับอสังหาริมทรัพย์โดยมุ่งค้าหรือหากำไร เช่น เราซื้อที่ดินมาเพื่อเก็งกำไรและขาย หรือซื้อที่ดินเพื่อจัดสรร ปลูกสร้างอาคาร คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารโรงงานเพื่อจำหน่าย เป็นต้น
  2. การได้รับอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มุ่งค้าหรือหากำไร แบ่งออกเป็น

2.1 อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับมาโดยทางมรดก หรือได้รับจากการให้โดยเสน่หา (ได้มาฟรี มีคนยกให้)

2.2 อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยไม่มุ่งค้าหรือหากำไร เช่น ซื้อที่ดินมาเพื่อทำการเกษตรกรรม ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างมาเพื่ออยู่อาศัย เป็นต้น

 

และค่าใช้จ่ายเมื่อมีการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์

จะขายบ้าน ขายคอนโด ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายในการขายอสังหาริมทรัพย์ส่วนที่ผู้ขายต้องจ่าย ประกอบไปด้วย 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียม ค่าอากร ภาษีเงินได้ และภาษีธุรกิจเฉพาะ มาทำความรู้จักกันไปทีละส่วนกันเลยค่ะ…

  1. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2%

ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอัตรา 2% จากราคาประเมิน ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นหรือการลดหย่อนใดๆ และเพื่อความยุติธรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมักนิยมแบ่งค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบคนละครึ่งคือ ผู้ซื้อค่าธรรมเนียมชำระ 1% และผู้ขายชำระค่าธรรมเนียม 1% เท่าๆ กัน โดยให้ระบุในสัญญาจะซื้อจะขาย

 

  1. ค่าอากรแสตมป์ 0.5%

ค่าอากรแสตมป์ที่ผู้ขายต้องเสียในขั้นตอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ พิจารณาจากราคาประเมินและราคาตลาดร่วมกันโดยเลือกใช้ราคาที่สูงกว่ามาคำนวณในอัตรา 0.5%

เท่ากับว่า… ผู้ขายจะเสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ทุกๆ 200 บาท โดยผู้ขายจะเป็นฝ่ายชำระฝ่ายเดียว และจะได้รับยกเว้นค่าอากรต่อเมื่อต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

 

  1. ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%

ผู้ขายที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปี จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ในอัตรา 3.3% จากราคาประเมินหรือราคาตลาดขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า อย่างไรก็ตาม มีการยกเว้นเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในกรณีที่ผู้ขายครอบครองอสังหาริมทรัพย์ นานเกิน 5 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนานกว่า 1 ปี ถูกเวนคืนบ้านหรือที่ดิน หรือเป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยมรดก

 

  1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

เมื่อเกิดการขายอสังหาริมทรัพย์ จะนับเป็นรายได้แก่ผู้ขาย จึงต้องนำมาคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินที่จะต้องคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ผู้ขายจึงต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเองทั้งหมด ภาษีเงินได้จะพิจารณาจากราคาประเมินและจำนวนปีที่ถือครอง

จำนวนปีที่ถือครองนั้นจะนับตามปีบัญชี โดยหนึ่งปีจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมไปจนถึง 31 ธันวาคมของปีเดียวกัน การซื้อขายภายในปีเดียวกันนับเป็นการถือครอง 1 ปี หากครอบครองตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ถึงมีนาคมปีหน้าก็ให้นับเป็นถือครอง 2 ปี

สามารถคำนวณเงินได้โดยนำราคาประเมินคูณกับร้อยละของเงินได้ที่นำมาคำนวณภาษีตามจำนวนปีที่ถือครองตามอัตราที่แสดงในตารางจะได้จำนวนเงินที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ทั้งหมด จากนั้นนำมาหารด้วยจำนวนปีที่ถือครองจะได้จำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปี

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

การคำนวณภาษีเงินได้ภาษีอสังหาริมทรัพย์ของนิติบุคคล

สำหรับหลักการคำนวณภาษีอสังหาริมทรัพย์ของนิติบุคคล มีดังนี้

  1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องเสียในอัตรา 1%  เพราะถือว่ามีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้นิติบุคคลต้องนำรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี ภ.ง.ด.50 อีกครั้ง ซึ่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เคยถูกหักไว้ สามารถนำใช้เป็นเครดิตภาษีเพื่อลดยอดภาษีสิ้นปีที่ต้องชำระได้
  2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องเสียในอัตรา 3.3% กรณีผู้ขายเป็นผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์ หรือเข้าเงื่อนไขมุ่งค้าหากำไร ซึ่งปกตินิติบุคคลจะเข้าเงื่อนไขมุ่งค้าหากำไร เพราะกรมสรรพากรกำหนดให้การขายอสังหาริมทรัพย์ที่นิติบุคคลมีไว้ในการประกอบกิจการต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ทั้งนี้ถ้าเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะไม่ต้องเสียอากรแสตมป์อีก
  3. อากรแสตมป์ ต้องเสียในอัตรา 0.5% ซึ่งในทางปฏิบัติค่อนข้างยากที่นิติบุคคลจะเข้ากรณีที่ต้องเสียอากรแสตมป์ เพราะปกติจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมาก่อนอย่างที่อธิบายข้างต้น ทั้งนี้ถ้าเสียอากรแสตมป์แล้ว จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีก

สรุปส่งท้าย ใครที่กังวลว่า… ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดูจะเป็นการคำนวณภาษีที่ยุ่งยากยาก ซับซ้อน สบายใจได้เลยค่ะ เพราะภาษีทั้งหมดข้างต้น เมื่อเรามีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะเป็นคนคำนวณแทนเราเองค่ะ แต่ถ้าเราเข้าใจการคำนวณก็สามารถคำนวณตัวเลขเบื้องต้น เพื่อประมาณค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

Loft กับ Duplex ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

Loft กับ Duplex ต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย คอนโดติดรถไฟฟ้าที่มีข้อดีเรื่องความสะดวกในการเดินทาง อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยได้เพียงพออีกต่อไป รูปแบบของห้องเองก็มีส่วนในการตัดสินใจของผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะห้องแบบ Loft กับ Duplex ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นห้อง 2 ชั้น ให้ความรู้สึกไม่อึดอัด และดีไซน์ที่สวยถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนวัยทำงาน แต่หลายคนยังคงสับสนว่า ห้อง Loft กับ Duplex นั้นต่างกันอย่างไร? เป็นห้อง 2 ชั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะถึงจะเป็นห้อง 2 ชั้นเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันอยู่นะคะ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนหายงงกันเองค่ะ มาเริ่มกันเลย . ห้องสไตล์ Loft – ชั้นล่างและชั้นบนจะอยู่บนโครงสร้างเดียวกัน เป็นห้องที่มีฝ้าเพดานสูงและในทางกฎหมาย ไม่มีการกำหนดความสูงขั้นต่ำของชั้นลอย – พื้นที่ใช้สอยถูกนับเพียงชั้นล่าง เนื่องจากในทางกฎหมายระบุไว้ว่าพื้นที่ใช้สอยส่วนชั้นลอย เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ จะไม่ถูกนับรวมอยู่ในโฉนด – ชั้นลอยถูกนับเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่มีประตูกั้นห้อง – มีประตูเข้าออกทางเดียวคือ ทางชั้นล่าง – ชั้นลอยจะไม่มีห้องน้ำ ข้อดีของห้องสไตล์ Loft – การเสียค่าส่วนกลางจะเสียแค่พื้นที่ใช้สอยที่ออกตามโฉนด ดังนั้นถ้าห้องขนาด 35 ตร.ม. และมีพื้นที่ใช้สอยชั้นลอย 22 ตร.ม. จะเสียค่าส่วนกลางแค่ 35 ตร.ม. – การที่มีฝ้าเพดานสูง ทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งกว่าเดิม ข้อเสียของห้องสไตล์ Loft – มีความปลอดภัยค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีทางเข้า – ออก ทางเดียว หากเกิดเหตุฉุกเฉินอาจจะหนีลำบาก – ปัญหาเรื่องความสูงของชั้นลอย เนื่องจากทางกฎหมายไม่ได้กำหนดขั้นต่ำไว้ จึงทำให้บางโครงการมีความสูงของเพดานเตี้ยกว่า 2.40 เมตร ทำให้ห้องดูอึดอัด . ห้องสไตล์ Duplex – ชั้นล่างและชั้นบนอยู่บนโครงสร้างคนละชั้น ในทางกฏหมายกำหนดให้ชั้นบนมีความสูงไม่น้อยกว่า 2.4 เมตร – พื้นที่ใช้สอยชั้นบนถูกนับเป็นสิ่งก่อสร้าง ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยทั้งชั้นบนและล่างจะถูกนับรวมกันอยู่ในโฉนด – ชั้นบนสามารถแบ่งเป็นห้องต่างๆ มีประตูเปิด – ปิดได้ – ตามกฎหมายกำหนดให้มีประตูเข้า – ออก ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง – ชั้นบนมักจะมีห้องน้ำด้วย โดยจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับชั้นล่าง ข้อดีของห้องสไตล์ Duplex – เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน – ความสูงของเพดาน ที่มีความสูงมาก จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น – หากเลือกแบบห้องที่มีการปิดกั้น ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ข้อเสียของห้องสไตล์ Duplex – ค่าไฟ ยิ่งห้องที่สูงและกว้างมากขึ้นเท่าไหร่ ภาระค่าไฟยิ่งมากขึ้นเท่านั้น – เสียค่าส่วนกลางที่มากขึ้นตามขนาดของห้องอีกด้วย . แล้วห้องแบบไหนที่จะตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของเรากันล่ะ? ห้องสไตล์ Loft เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการห้องที่โล่ง โปร่งสบาย เพราะมีเพดานสูง ให้ความรู้สึกทันสมัย มีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยที่เพิ่มขึ้น และยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ห้องสไตล์ Duplex เหมาะกับผู้อาศัยที่ต้องการให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความลักซ์ชัวรี่ และบรรยากาศการอาศัยอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ให้ความสะดวกสบายและมีพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้งานอย่างเต็มที่ อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงเข้าใจความแตกต่าง ของห้องสไตล์ Loft และ Duplex กันมากขึ้นแล้ว และคงมีคำตอบกันแล้วใช่ไหมคะว่าห้องแบบไหน ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แต่ในการตัดสินใจเลือกซื้อ ก็อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ กันด้วยนะคะ —————————————————————————– ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ให้บริการแบบครบจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

18 กรกฎาคม 2023
โฉนดที่ดินหาย ! ทำยังไงดี

โฉนดที่ดินหาย! ทำยังไงดี

#โฉนดที่ดิน อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายๆ คน เพราะเมื่อได้มาเราก็จะเก็บมันไว้เพราะเป็นเอกสารสำคัญของบ้าน และไม่ใช่เอกสารที่จะพกพาติดตัว เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่ แต่หากวันไหนที่ต้องใช้และพบว่า โฉนดที่ดินหาย หรือเกิดชำรุดขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง? ก่อนอื่นไม่ต้องตกใจไปนะคะ เราสามารถยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ได้ ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาบอกทุกคนเองค่ะ 1. แจ้งความต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น อันดับแรกเลยก็คือต้องไป แจ้งความต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันว่าเจ้าของที่ดินนั้นไม่ได้นำโฉนดที่ดิน ไปจำหน่าย #จำนอง หรือแลกเปลี่ยนเป็นของผู้อื่น 2. ติดต่อกับสำนักงานที่ดิน เมื่อได้ใบบันทึกประจำวันมาเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารมาติดต่อที่สำนักงานที่ดิน เพื่อขอโฉนดที่ดินใหม่ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมไปด้วยมีดังนี้ – บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ – ทะเบียนบ้านตัวจริงของผู้ที่ยื่นขอโฉนดที่ดินใหม่ – ใบแจ้งความ / บันทึกประจำวัน – พยานบุคคล 2 คน พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง ซึ่งหากเกิดปัญหาในภายหลัง พยานทั้ง 2 คนนี้ จะต้องเป็นพยานในชั้นศาลด้วย เมื่อเตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้ว จะต้องกรอกเอกสารรับรองและลงลายมือชื่อต่อหน้าเจ้าพนักงาน เพื่อรองรับว่าเจ้าของที่ดินได้ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินใหม่จริงๆ . โดยในขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินใหม่ทั้งหมดนี้ จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 75 บาท ทั้งนี้โฉนดที่ดินใหม่ หรือ ใบแทน จะมีประทับตราบนเอกสารว่า “ใบแทน” เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเอกสารฉบับนี้ สามารถใช้แทนโฉนดที่ดินฉบับจริงได้ 100% เมื่อเกิดการทำนิติกรรมหรือมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายที่ดิน ใบแทนนี้จะมีผลทางกฎหมายไม่ต่างกับโฉนดตัวจริง . เป็นอย่างไรบ้างคะ โฉนดที่ดินหาย ขอใหม่ไม่ยากและไม่วุ่นวายอย่างที่คิดใช่ไหม แต่อย่างไรก็ตามเอกสารสำคัญแบบนี้ ควรเก็บไว้ให้ดีและไม่ทำหายจะดีที่สุดนะคะ เพราะเมื่อจะทำการขายต่อหรือนำไปทำธุรกรรมอื่นๆ เนี่ย ทั้งนักลงทุน นายหน้าอสังหา หรือบุคคลที่เราทำธุรกรรมด้วย ก็จะต้องขอดูโฉนดกันอย่างแน่นอนค่ะ —————————————————————————————– ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ให้บริการแบบครบจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

25 สิงหาคม 2023
7 ข้อผิดพลาดสำหรับผู้ ปล่อยเช่าคอนโด มือใหม่

7 ข้อผิดพลาดสำหรับผู้ ปล่อยเช่าคอนโด มือใหม่

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนกับคอนโดฯ คงคิดว่าการ ปล่อยเช่าคอนโด เป็นเรื่องง่าย และได้เงินตลอดทุกเดือน เพียงแค่แต่งห้องให้สวยและถูกใจกลุ่มหมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วการปล่อยเช่าคอนโดฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ยิ่งไปกว่านั้นผู้ปล่อยเช่ามือใหม่ อาจจะพลั้งพลาดและประมาทไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนทำให้ความความเสียหายตามมา วันนี้เราจะมาบอกถึงสิ่งที่ควรระวังและตรวจเช็คให้ดี ก่อนการ ปล่อยเช่าคอนโด ของคุณกันค่ะ มาเริ่มกันเลย . #ศึกษากฎระเบียบของโครงการคอนโดฯ ก่อนปล่อยเช่าคอนโด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้จ่ายเงิน และซื้อห้องนั้นมาครอบครองแล้วแต่อย่าลืมว่า คอนโดฯ แต่ละที่นั้นมีกฎระเบียบไว้ให้ลูกบ้านได้ปฎิบัตตาม อย่าลืมศึกษาให้ดีว่าทางคอนโดฯ มีกฎข้อห้ามใดบ้าง และแจ้งผู้เช่าให้ชัดเจน ไม่งั้นอาจจะถูกเรียกปรับได้โดยไม่รู้ตัวเลยนะ . #ละเลยการคัดกรองผู้เช่า ผู้ให้เช่าจำนวนไม่น้อยเลยที่กังวลเกี่ยวกับการหาผู้เช่า และอยากปล่อยห้องเช่าให้ได้เร็วที่สุด จนลืมให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผู้เช่า ก่อนที่จะย้ายเข้ามาพักอาศัย ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงมากๆ ผู้เช่าที่คุณควรหลีกเลี่ยงเลย หากไม่อยากให้ห้องเสียหายหรือมีปัญหาตามมาก็คือ – มีอาชีพและสถานะทางการเงินที่ไม่มั่นคง เพราะในอนาคตอาจจะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าคอนโดฯ ให้คุณได้ – ผู้ที่เข้ามาคุย มักจะเรียกร้องเอานี่เพิ่มนั่นเพิ่มมากจนเกินพอดี หรือขอต่อราคาลง เพราะเป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจจะมีปัญหาตามมา – ผู้เช่าที่สูบบุหรี่ เพราะจะทำให้กลิ่นติดห้อง ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ของคุณ หรือในกรณีที่ไปสูบตรงระเบียง ก็อาจจะโดนเพื่อนบ้านร้องเรียนได้ ซึ่งผลกระทบจะตกมาอยู่ที่คุณได้ – ผู้เช่าที่มีเด็กเล็ก หรืออายุต่ำกว่า 10 ปี เพราะอาจจะทำให้ห้องของคุณสกปรกได้ เช่นการขีดเขียนผนัง ซึ่งการพิจารณาผู้เช่านั้นควรดูเป็นกรณีไป หากได้ผู้เช่าดีก็ถือว่าวินๆ กันไป แต่ถ้าหากได้ผู้เช่าไม่ดี เงินที่ได้มาอาจจะไม่คุ้มกับค่าเสียหายที่คุณได้รับเลย . #ไม่ได้ทำสัญญาเช่า ถือเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงเลยสำหรับข้อนี้ เพราะการให้เช่าก็นับเป็นธุรกิจ ควรมีการทำสัญญา ที่ระบุเงื่อนไขไว้ชัดเจนและรัดกุมมากที่สุด เพื่อให้ระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่ามีความเข้าใจที่ตรงกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณและผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายด้วย และคุณต้องมั่นใจด้วยว่าผู้เช่ารับทราบ และเข้าใจในข้อตกลงร่วมกันก่อนจะเซ็นชื่อลงในใบสัญญา . #ไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานการโอนค่าเช่า ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผู้ให้เช่าหลายคนมักละเลย และดูแค่ตัวหลักฐานผ่านๆ โดยไม่ตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อผู้เช่าส่งหลักฐานการโอนมา ผู้ให้เช่าควรเช็คให้ละเอียดว่ามีการโอนเงินจริงๆ โดยเช็คจาก วันที่ เวลาและยอดเงินในหลักฐาน ว่าตรงกับรายการบัญชีหรือไม่ ป้องกันผู้เช่าหัวหมอ ที่อาจจะปลอมหลักฐานและส่งมาให้คุณกันนะคะ . #ไม่ได้ตรวจสอบห้องพร้อมผู้เช่าในวันย้ายเข้าและบันทึกเป็นหลักฐาน ข้อนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ให้เช่าควรปล่อยผ่าน แต่ควรรวบรวมเป็นตารางรายการเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องทั้งหมด พร้อมเก็บบันทึกภาพถ่าย สภาพปัจจุบันของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น โดยรวบรวมเป็นหมวดย่อยหรือแบ่งตามห้องต่าง ๆ เป็นไงกันบ้างคะการปล่อยเช่าคอนโดฯ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดกันเลยใช่ไหม หากคุณอยากปล่อยเช่า แต่ยังเป็นมือใหม่และกังวลกับปัญหาที่จะตามมา ทาง Amber สามารถช่วยคุณได้นะคะ เรามีบริการตั้งแต่หาผู้เช่าจนถึงการบริหารจัดการห้อง หลังมีผู้เช่าแล้วโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ หมดกังวลกับปัญหาข้างต้นได้เลยค่ะ —————————————————————– หากสนใจสามารถติดต่อมาได้ตามข้อมูลด้านล่างเลยนะคะ LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #condoforrent #condo #condobkk #คอนโดพระราม9 #พระราม9 #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

25 สิงหาคม 2023