ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

18

ก.พ. 25

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

ซื้อ-ขายบ้าน คอนโด ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? และ ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ค่าธรรมเนียม ก็ถือเป็นหนึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ แต่ผู้ซื้อหลายคนมักมองข้ามความสำคัญในส่วนนี้ไป จนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบจากการเสียค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น จนทำให้การซื้อขายอสังหาฯ บ้าน คอนโด ขาดทุนได้หลังเสียค่าธรรมเนียมและภาษีไปแล้ว เพื่อเป็นการเตรียมตัว Amber ขอพาทุกคนมารู้จักภาษีและวิธีคำนวณภาษีการขายอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นกันก่อนค่ะ…

 

อสังหาริมทรัพย์ คืออะไร ?

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 139 บัญญัติ กล่าวว่า อสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดินกับทรัพย์อันติดกับที่ดินมีลักษณะเป็นการถาวร หรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้น และหมายความรวมถึงทรัพย์สินอันเกี่ยวกับที่ดิน หรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดิน หรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นด้วย

อสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เช่น อาคาร บ้านเรือน สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงสิ่งอื่นใดที่อยู่ติดกับที่ดินซึ่งเคลื่อนที่ไม่ได้ นอกจากนี้ทรัพย์ตามธรรมชาติที่ประกอบเป็นอันเดียวกับดิน เช่น แม่น้ำ บึง แร่ กรวด ทราย ที่อยู่ในอาณาบริเวณที่ดินนั้นก็จัดว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ด้วย

 

รู้จักอสังหาริมทรัพย์แล้ว… ก็จะต้องมีความรู้เรื่องของราคา และราคาที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง? ตามไปอ่านกันเลยค่ะ!

 

  1. ราคาประเมิน คือ

ราคาที่กรมธนารักษ์กำหนดให้เป็นราคากลางของอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการคิดค่าธรรมเนียมและภาษีจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีการปรับราคาประเมินใหม่ทั่วประเทศทุกๆ 4 ปี ซึ่งราคาประเมินอาจจะสูงหรือต่ำกว่าราคาซื้อขายจริงก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วราคาประเมินจะต่ำกว่า

  1. ราคาตลาด คือ

ราคาที่ใช้ในการซื้อขายกันจริง ซึ่งจะสอดคล้องกับอุปสงค์และอุปทานของตลาดในแต่ละช่วงเวลา มีการปรับตัวตามภาวะค่าครองชีพอยู่ตลอดเวลา ราคาตลาดจึงมักสูงกว่าราคาประเมิน

 

 

ในทางภาษี เราต้องทราบว่าได้อสังหาริมทรัพย์มาได้อย่างไร?

กรมสรรพากร แบ่งการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ออกเป็น 2 กรณี คือ

  1. การได้รับอสังหาริมทรัพย์โดยมุ่งค้าหรือหากำไร เช่น เราซื้อที่ดินมาเพื่อเก็งกำไรและขาย หรือซื้อที่ดินเพื่อจัดสรร ปลูกสร้างอาคาร คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารโรงงานเพื่อจำหน่าย เป็นต้น
  2. การได้รับอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มุ่งค้าหรือหากำไร แบ่งออกเป็น

2.1 อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับมาโดยทางมรดก หรือได้รับจากการให้โดยเสน่หา (ได้มาฟรี มีคนยกให้)

2.2 อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยไม่มุ่งค้าหรือหากำไร เช่น ซื้อที่ดินมาเพื่อทำการเกษตรกรรม ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างมาเพื่ออยู่อาศัย เป็นต้น

 

และค่าใช้จ่ายเมื่อมีการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์

จะขายบ้าน ขายคอนโด ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายในการขายอสังหาริมทรัพย์ส่วนที่ผู้ขายต้องจ่าย ประกอบไปด้วย 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียม ค่าอากร ภาษีเงินได้ และภาษีธุรกิจเฉพาะ มาทำความรู้จักกันไปทีละส่วนกันเลยค่ะ…

  1. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2%

ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอัตรา 2% จากราคาประเมิน ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นหรือการลดหย่อนใดๆ และเพื่อความยุติธรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมักนิยมแบ่งค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้แต่ละฝ่ายรับผิดชอบคนละครึ่งคือ ผู้ซื้อค่าธรรมเนียมชำระ 1% และผู้ขายชำระค่าธรรมเนียม 1% เท่าๆ กัน โดยให้ระบุในสัญญาจะซื้อจะขาย

 

  1. ค่าอากรแสตมป์ 0.5%

ค่าอากรแสตมป์ที่ผู้ขายต้องเสียในขั้นตอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ พิจารณาจากราคาประเมินและราคาตลาดร่วมกันโดยเลือกใช้ราคาที่สูงกว่ามาคำนวณในอัตรา 0.5%

เท่ากับว่า… ผู้ขายจะเสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ทุกๆ 200 บาท โดยผู้ขายจะเป็นฝ่ายชำระฝ่ายเดียว และจะได้รับยกเว้นค่าอากรต่อเมื่อต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

 

  1. ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%

ผู้ขายที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปี จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ในอัตรา 3.3% จากราคาประเมินหรือราคาตลาดขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า อย่างไรก็ตาม มีการยกเว้นเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในกรณีที่ผู้ขายครอบครองอสังหาริมทรัพย์ นานเกิน 5 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนานกว่า 1 ปี ถูกเวนคืนบ้านหรือที่ดิน หรือเป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยมรดก

 

  1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

เมื่อเกิดการขายอสังหาริมทรัพย์ จะนับเป็นรายได้แก่ผู้ขาย จึงต้องนำมาคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินที่จะต้องคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ผู้ขายจึงต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเองทั้งหมด ภาษีเงินได้จะพิจารณาจากราคาประเมินและจำนวนปีที่ถือครอง

จำนวนปีที่ถือครองนั้นจะนับตามปีบัญชี โดยหนึ่งปีจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมไปจนถึง 31 ธันวาคมของปีเดียวกัน การซื้อขายภายในปีเดียวกันนับเป็นการถือครอง 1 ปี หากครอบครองตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ถึงมีนาคมปีหน้าก็ให้นับเป็นถือครอง 2 ปี

สามารถคำนวณเงินได้โดยนำราคาประเมินคูณกับร้อยละของเงินได้ที่นำมาคำนวณภาษีตามจำนวนปีที่ถือครองตามอัตราที่แสดงในตารางจะได้จำนวนเงินที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ทั้งหมด จากนั้นนำมาหารด้วยจำนวนปีที่ถือครองจะได้จำนวนเงินได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ที่ต้องชำระต่อปี

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

การคำนวณภาษีเงินได้ภาษีอสังหาริมทรัพย์ของนิติบุคคล

สำหรับหลักการคำนวณภาษีอสังหาริมทรัพย์ของนิติบุคคล มีดังนี้

  1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องเสียในอัตรา 1%  เพราะถือว่ามีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้นิติบุคคลต้องนำรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี ภ.ง.ด.50 อีกครั้ง ซึ่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เคยถูกหักไว้ สามารถนำใช้เป็นเครดิตภาษีเพื่อลดยอดภาษีสิ้นปีที่ต้องชำระได้
  2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องเสียในอัตรา 3.3% กรณีผู้ขายเป็นผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์ หรือเข้าเงื่อนไขมุ่งค้าหากำไร ซึ่งปกตินิติบุคคลจะเข้าเงื่อนไขมุ่งค้าหากำไร เพราะกรมสรรพากรกำหนดให้การขายอสังหาริมทรัพย์ที่นิติบุคคลมีไว้ในการประกอบกิจการต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ทั้งนี้ถ้าเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะไม่ต้องเสียอากรแสตมป์อีก
  3. อากรแสตมป์ ต้องเสียในอัตรา 0.5% ซึ่งในทางปฏิบัติค่อนข้างยากที่นิติบุคคลจะเข้ากรณีที่ต้องเสียอากรแสตมป์ เพราะปกติจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมาก่อนอย่างที่อธิบายข้างต้น ทั้งนี้ถ้าเสียอากรแสตมป์แล้ว จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีก

สรุปส่งท้าย ใครที่กังวลว่า… ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดูจะเป็นการคำนวณภาษีที่ยุ่งยากยาก ซับซ้อน สบายใจได้เลยค่ะ เพราะภาษีทั้งหมดข้างต้น เมื่อเรามีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะเป็นคนคำนวณแทนเราเองค่ะ แต่ถ้าเราเข้าใจการคำนวณก็สามารถคำนวณตัวเลขเบื้องต้น เพื่อประมาณค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

 

สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property

ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service

>>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด

>>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด

>>> บริการบริหารและจัดการคอนโด

LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR

Tel : 089-986-0202

Youtube : @amberrealty

Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty

เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/

#ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

บทความน่าสนใจ

Layout ห้องคอนโด เลือกแบบไหนให้ตรงใจไลฟ์สไตล์คุณที่สุด

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมสักหนึ่งห้อง นอกจากจะพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคา และสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว Layout หรือผังห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผังห้องที่ดี จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ Layout ห้องคอนโดแบบต่างๆ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกผังห้องที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด   ทำไม Layout ห้องคอนโดถึงสำคัญ ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต: ผังห้องที่ดี จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การพักผ่อน หรือการทำงาน การจัดเก็บของ: ห้องที่มีพื้นที่จัดเก็บของที่เพียงพอ จะช่วยให้ห้องของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น การตกแต่ง: ผังห้องจะกำหนดรูปแบบและสไตล์การตกแต่งห้องของคุณได้เป็นอย่างดี มูลค่าการขาย: ห้องที่มี Layout ดี มักจะมีมูลค่าการขายที่สูงกว่าห้องที่มี Layout ธรรมดา Layout ห้องคอนโดแบบต่างๆ ห้องสี่เหลี่ยม: ข้อดี: จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย มีพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย ข้อเสีย: อาจดูเรียบง่ายเกินไป ไม่มีความโดดเด่น ห้องรูปตัว L: ข้อดี: แบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ชัดเจน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ข้อเสีย: อาจมีมุมที่ใช้ประโยชน์ได้ยาก ห้องรูปตัว U: ข้อดี: เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บของมากมาย ข้อเสีย: อาจทำให้ห้องดูแคบลง ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือก Layout ห้อง ไลฟ์สไตล์: ถ้าคุณชอบทำอาหารบ่อยๆ ก็ควรเลือกห้องที่มีครัวขนาดใหญ่ ถ้าคุณชอบอ่านหนังสือ ก็ควรเลือกห้องที่มีพื้นที่สำหรับจัดวางชั้นหนังสือ ขนาดครอบครัว: ถ้าคุณมีครอบครัวใหญ่ ก็ควรเลือกห้องที่มีจำนวนห้องนอนที่เพียงพอ งบประมาณ: ราคาของห้องคอนโดจะขึ้นอยู่กับขนาดและ Layout ของห้อง ความต้องการส่วนตัว: คุณชอบห้องที่มีแสงธรรมชาติมากน้อยแค่ไหน ชอบห้องที่มีระเบียงหรือไม่ เคล็ดลับในการเลือก Layout ห้องคอนโด วาดผังห้อง: ลองวาดผังห้องเพื่อดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ จะวางอยู่ในตำแหน่งไหนได้บ้าง ไปดูห้องตัวอย่าง: ลองไปดูห้องตัวอย่างเพื่อสัมผัสบรรยากาศจริง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือก Layout ห้องแบบไหนดี สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ได้   การเลือก Layout ห้องคอนโดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณในระยะยาว การเลือก Layout ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ จะช่วยให้คุณอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุขและสะดวกสบาย หากใครยังไม่รู้จะเลือก Layout ห้องแบบไหน สามารถทักปรึกษา Amber  เราได้ เรามีทีมงานมีอาชีพค่อยให้ตำปรึกษา และมีห้องหลากหลาย Layout รอให้คุณมาจับจองเป็นเจ้าของอยู่   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/UIbzhRs Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

28 พฤศจิกายน 2024
เปรียบเทียบ ทำเลทอง คอนโดทำเลไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2025?

เปรียบเทียบทำเลทอง คอนโดทำเลไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2025?

รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และ MRT สายสีน้ำเงิน นับเป็น ทำเลทอง เส้นเลือดใหญ่ของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร ที่เชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน ทำให้คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้เคียงรถไฟฟ้าทั้งสองสายนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ สะดวกสบายในการเดินทาง: ลดเวลาเดินทางไปทำงาน ทำธุระ หรือท่องเที่ยว ช่วยให้คุณมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน: คอนโดใกล้รถไฟฟ้ามักมีราคาสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะรักษาหรือเพิ่มมูลค่าได้ดีกว่าคอนโดในทำเลอื่น มีผู้เช่าให้บริการตลอดทั้งปี: เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อปล่อยเช่า เพราะมีผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง: สะดวกในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล และสถานบันเทิง ทำเลที่น่าสนใจใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน ย่านสีลม-สาทร: จุดเด่น: เป็นศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำของประเทศ มีอาคารสำนักงานสูงตระหง่าน ห้างสรรพสินค้าระดับโลก โรงแรมหรู และสถานทูต รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี, ศาลาแดง, สุรศักดิ์, สะพานตากสิน / MRT สีลม เหมาะสำหรับ: ผู้บริหารระดับสูง, นักธุรกิจ, ชาวต่างชาติที่ทำงานในย่านธุรกิจ ย่านอโศก-เพชรบุรี: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีความเจริญเติบโตสูง มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า และสถานบันเทิงมากมาย รถไฟฟ้า: BTS อโศก, เพชรบุรี / MRT เพชรบุรี เหมาะสำหรับ: คนทำงาน, นักศึกษา, คนที่ชอบความสะดวกสบาย และต้องการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ย่านสุขุมวิท: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารนานาชาติ สถานบันเทิง และชุมชนชาวต่างชาติ รถไฟฟ้า: BTS นานา, อ่อนนุช, พระโขนง เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบความหลากหลาย, ชาวต่างชาติ, ครอบครัวขนาดเล็ก ย่านพระราม 9: จุดเด่น: เป็นย่านธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโต มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม และคอนโดมิเนียมหรู รถไฟฟ้า: MRT พระราม 9 เหมาะสำหรับ: ผู้ทำงานในย่านธุรกิจใหม่, ครอบครัวที่ต้องการความสงบ ย่านบางนา: จุดเด่น: เป็นย่านที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง มีนิคมอุตสาหกรรม และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า: BTS บางนา เหมาะสำหรับ: ผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม, ครอบครัวขนาดใหญ่ ปัจจัยเพิ่มเติมที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อคอนโด ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้า: ยิ่งใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะดวกต่อการเดินทางมากขึ้นเท่านั้น สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม ห้องสมุด Co-working Space ขนาดห้อง: เลือกขนาดห้องให้เหมาะสมกับความต้องการและจำนวนสมาชิกในครอบครัว ราคา: เปรียบเทียบราคาของโครงการต่างๆ เพื่อเลือกโครงการที่คุ้มค่า ศักยภาพในการเติบโตของทำเล: พิจารณาว่าทำเลนั้นมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ เช่น มีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ หรือโครงการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต กฎหมายและข้อจำกัด: เช่น ข้อจำกัดในการซื้อคอนโดสำหรับชาวต่างชาติ ค่าส่วนกลาง: เปรียบเทียบค่าส่วนกลางของแต่ละโครงการ เพื่อวางแผนงบประมาณ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อคอนโด ตรวจสอบข้อมูลโครงการให้ละเอียด: เช่น ผู้พัฒนาโครงการ ประวัติโครงการที่ผ่านมา สัญญาซื้อขาย และเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบโครงการหลายๆ โครงการ: เพื่อหาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด การเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน นอกจากจะช่วยให้คุณเดินทางสะดวกสบายแล้ว ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอีกด้วย แนวโน้มตลาดคอนโดในอนาคต คอนโดมิเนียมขนาดเล็ก: เน้นความคุ้มค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยน้อยลง คอนโดมิเนียมหรู: เน้นความเป็นส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม คอนโดมิเนียมที่เน้นความยั่งยืน: ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีระบบจัดการพลังงานที่ประหยัด คอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน: มีพื้นที่ Co-working Space และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับการทำงาน การเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวและ MRT สายสีน้ำเงิน เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด เนื่องจากทำเลเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีผู้ต้องการเช่าอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ควรคำนึงถึงแนวโน้มเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าคอนโดที่คุณเลือกจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณในระยะยาว   ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อมูลโครงการอย่างละเอียด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และเปรียบเทียบโครงการต่างๆ เพื่อให้ได้โครงการที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด  อยากได้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลยนะคะ   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent

14 มกราคม 2025

เทรนด์คอนโดปี 2025 เทรนด์ไหนมาแรง ?

พาคุณไปเจาะลึก เทรนด์คอนโดปี 2025 ที่น่าจับตามอง เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการตัดสินใจลงทุนหรือเลือกที่อยู่อาศัยใหม่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ปี 2025 นี้ก็เช่นกัน มีเทรนด์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งจะส่งผลต่อการออกแบบ การก่อสร้าง และการตลาดโครงการคอนโดในอนาคต เทรนด์คอนโดปี 2025 ที่น่าจับตามอง คอนโดเน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ฟิตเนสที่ทันสมัย สวนหย่อมขนาดใหญ่ พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง และระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ออกกำลังกาย ผ่อนคลาย และมีสุขภาพที่ดี เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น: เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการคอนโดมากขึ้น เช่น ระบบ Smart Home ที่ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องได้ผ่านสมาร์ทโฟน ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และพื้นที่ Co-working Space ที่ตอบโจทย์การทำงานจากที่บ้าน คอนโดเน้นความยืดหยุ่น: รูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เช่น ห้องนอนที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้ หรือพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้หลากหลาย คอนโดเน้นความยั่งยืน: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงหันมาใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบจัดการขยะ และวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คอนโดเน้นความเป็นส่วนตัว: หลังจากที่ต้องอยู่บ้านกันเป็นเวลานาน ทำให้ผู้คนต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงออกแบบคอนโดให้มีพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขวางขึ้น เช่น ระเบียงส่วนตัว สวนส่วนตัว หรือห้องทำงานส่วนตัว ปัจจัยที่ส่งผลต่อเทรนด์คอนโดในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค เทคโนโลยี: เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อการออกแบบและการก่อสร้างคอนโด กฎหมายและนโยบาย: กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์มีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโด เศรษฐกิจ: สถานการณ์เศรษฐกิจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและราคาอสังหาริมทรัพย์   เทรนด์คอนโดในปี 2025 นั้นมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี เทคโนโลยี ความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และความเป็นส่วนตัว ผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมควรศึกษาข้อมูลและเทรนด์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้คอนโดที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเอง หากใครกำลังตัดสินใจซื้อคอนโดและยังไม่รู้จะเริ่มยังไงดี สามารถติดต่อเราได้เลย เรามีห้องหลากหลายโครงการ หลากหลายทำเล ในราคาที่ดีที่สุดในตลาด หรือ อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี   สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทยได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ:  https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ #ลงทุนอสังหา #propertyinvestment #เอเจ้นท์ #Agent #propertyagent  

10 มกราคม 2025