
เลือกทิศของห้อง (เลี่ยงทิศตะวันตก ถ้าไม่ชอบร้อน)
ทำไม “ทิศ” ของห้องจึงสำคัญ? การ เลือกทิศของห้อง ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น การวางตำแหน่งของห้องให้รับแดด หรือหลีกเลี่ยงแดด จึงมีผลต่อความสบายในการอยู่อาศัย ลดค่าไฟ และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ทิศตะวันตก – ตัวร้อนประจำบ้าน ห้องที่หันไปทาง ทิศตะวันตก จะได้รับแสงแดดในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่อากาศร้อนที่สุดของวัน ส่งผลให้ห้องสะสมความร้อนมากกว่าทิศอื่น โดยเฉพาะห้องที่มีหน้าต่างใหญ่หรือผนังปูนที่รับแดดโดยตรง ข้อเสียของห้องทิศตะวันตก คือ ร้อนจัดในช่วงบ่ายถึงเย็น เปิดแอร์เปลืองพลังงาน ห้องสะสมความร้อนแม้พระอาทิตย์ตกดิน และไม่เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่ใช้ในเวลากลางวัน แล้วทิศอื่นๆ เลือกอย่างไรดี? ทางที่ดี แนะนำให้เลือกห้อง ทิศเหนือ เพราะจะเย็นที่สุดในบรรดาทุกทิศ แดดอ่อน ไม่ร้อน เหมาะสำหรับห้องนอน หรือห้องทำงาน แต่แสงธรรมชาติค่อนข้างน้อย ส่วนทิศตะวันออก จะรับแดดอ่อนๆ ช่วงเช้า ห้องอุ่นตอนเช้า เย็นสบายช่วงบ่าย ดีต่อสุขภาพ สำหรับผู้ตื่นเช้า เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทิศใต้ จะรับลมดี เหมาะสำหรับการระบายอากาศ แดดไม่รุนแรงเท่าทิศตะวันตก เหมาะกับห้องซักล้าง ครัว หรือห้องที่ต้องการแห้งไว เคล็ดลับการอยู่ห้องทิศตะวันตก (ถ้าเลี่ยงไม่ได้) หากคุณซื้อห้องหรือบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกแล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้ ลองปรับวิธีอยู่อาศัยเพื่อให้อยู่สบายขึ้น ติด ม่านกัน UV หรือ ฟิล์มกรองแสง, ใช้ ฉนวนกันความร้อน บนผนังและหลังคา, ปลูกไม้เลื้อยหรือไม้พุ่มช่วยบังแดด, เปิดพัดลมและระบายอากาศหลังพระอาทิตย์ตกดิน สรุปส่งท้าย การ เลือกทิศของห้อง เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ชอบอากาศร้อน ควร เลี่ยงห้องทิศตะวันตก แล้วเลือกห้องที่หันไปทาง ทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ แทน ซึ่งจะช่วยให้บ้านอยู่สบาย ไม่เปลืองค่าไฟ และสุขภาพจิตดีขึ้นในระยะยาว สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

เลือกเฟอร์นิเจอร์คอนโดแบบไหนดี หรือเลือกวัสดุอะไรดี?
การแต่งคอนโดให้น่าอยู่ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ดีไซน์เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับวัสดุของเฟอร์นิเจอร์ อายุการใช้งาน ความปลอดภัย และความสวยงามในระยะยาว หลายคนสงสัยว่า เลือกเฟอร์นิเจอร์คอนโดแบบไหนดี บทความนี้ Amber มีคำตอบ พร้อมแนะนำวัสดุยอดนิยมที่เหมาะกับชีวิตคนเมืองมาให้แล้ว… ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกวัสดุเฟอร์นิเจอร์ในคอนโด ขนาดพื้นที่ : คอนโดมีพื้นที่จำกัด เฟอร์นิเจอร์ควรน้ำหนักเบาและปรับเปลี่ยนได้ง่าย ความชื้น : คอนโดบางแห่งอาจมีความชื้นสูง วัสดุต้องทนต่อการบวมน้ำ ความทนทาน : เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดมักใช้แบบ multi-function ดีไซน์ที่เข้ากับห้อง : ความกลมกลืนและความเรียบง่ายช่วยให้ห้องดูโล่งขึ้น ราคาและงบประมาณ : วัสดุบางประเภทดูดีแต่อาจราคาสูง ควรเลือกให้เหมาะกับงบ วัสดุเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับคอนโด ไม้ MDF ปิดผิวเมลามีน (Melamine Faced MDF) ทนรอยขีดข่วน กันชื้นได้ระดับหนึ่ง ราคาไม่แพง และดีไซน์หลากหลาย แต่ไม่เหมาะกับการโดนน้ำเป็นเวลานาน ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด (Particle Board) น้ำหนักเบา ราคาถูก แต่ไม่ทนความชื้น เสี่ยงบวมเมื่อเจอน้ำ ไม้จริง (Solid Wood) แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและคลาสสิก ราคาค่อนข้างสูง และมีน้ำหนักมาก เหล็กและวัสดุผสม แข็งแรง เหมาะกับโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์ เหมาะกับสไตล์ลอฟท์หรือโมเดิร์น อาจดูแข็งเกินไป สำหรับบางสไตล์ห้อง พลาสติกหรืออะคริลิก มีน้ำหนักเบา ดูทันสมัย ทนความชื้นดี อาจไม่ทนรอยขีดข่วนหรือการใช้งานหนัก เลือกวัสดุเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับแต่ละห้องในคอนโด ห้องนั่งเล่น : แนะนำใช้ไม้ MDF หรือไม้จริงสำหรับความสวยงาม และใช้โครงเหล็กเสริมสำหรับชั้นวางของ ห้องครัว : เน้นวัสดุที่กันชื้น เช่น เมลามีน หรืออะลูมิเนียม ห้องน้ำ : ใช้พลาสติก, PVC หรือวัสดุกันน้ำโดยเฉพาะ ห้องนอน : เฟอร์นิเจอร์ไม้ MDF หรือไม้จริงจะช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย สรุปส่งท้าย เลือกเฟอร์นิเจอร์คอนโดแบบไหนดี การเลือกวัสดุเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับคอนโด ควรพิจารณาจากขนาดห้อง สไตล์การใช้งาน และงบประมาณ หากต้องการความทนทานควรเลือก ไม้ MDF ปิดเมลามีน หรือ ไม้จริง ในขณะที่วัสดุอย่าง เหล็ก หรือ พลาสติก เหมาะสำหรับบางจุดที่ต้องการความเบาและทนชื้น สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

ถ้า ผ่อนคอนโดไม่ไหว ทำอย่างไรดี? ขาย โอน หรือปล่อยเช่า ทางออกที่เจ้าของควรรู้
ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน หลายคนอาจเริ่มรู้สึกว่า “ผ่อนคอนโดไม่ไหว แล้ว” ไม่ว่าจะเกิดจากรายได้ที่ลดลง ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น หรืออัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้ ไม่ต้องตกใจ เพราะยังมีทางออกหลายทาง เช่น การ ขายคอนโด, โอนหนี้, หรือ ปล่อยเช่า เพื่อสร้างรายได้เสริม ในบทความนี้ Amber จะพาคุณมาวิเคราะห์แต่ละทางเลือก พร้อมข้อดีข้อเสีย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ สัญญาณที่บอกว่า “คุณกำลังผ่อนคอนโดไม่ไหว” จ่ายค่างวดล่าช้า หรือขาดส่งหลายเดือน เริ่มต้องหยิบยืมเงิน เพื่อจ่ายค่างวด รายได้ไม่พอกับรายจ่ายประจำ เริ่มถูกธนาคารทวงถามหรือส่งหนังสือแจ้งเตือน หากมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้รีบหาทางออกก่อนสถานการณ์ลุกลามจนถูก ฟ้องยึดทรัพย์ หรือเสียเครดิตบูโร ทางออกเมื่อผ่อนคอนโดไม่ไหว ขาย โอน หรือปล่อยเช่า แบบไหนดี? ขายคอนโด ข้อดี ปลดภาระหนี้สินทั้งหมด, ไม่เสียเครดิต, ได้เงินก้อนกลับมา (ถ้าคอนโดราคาขายสูงกว่ายอดหนี้) ข้อเสีย อาจขายไม่ได้ราคาหากรีบขาย, ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโอน และภาษี เหมาะกับ คนที่ไม่อยากมีภาระต่อ และสามารถหาผู้ซื้อได้ทันเวลา โอนสิทธิ์/เปลี่ยนสัญญาผ่อนต่อ หากยังอยู่ในช่วงผ่อนดาวน์กับโครงการ อาจสามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นมาผ่อนต่อได้ โดยไม่ต้องยื่นกู้ใหม่ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโครงการ) ข้อดี ตัดภาระออกโดยไม่ต้องขายขาด, เหมาะกับคนที่ยังไม่โอนกรรมสิทธิ์กับธนาคาร ข้อเสีย หา “ผู้รับโอน” ได้ยากในบางกรณี, ต้องได้รับการอนุมัติจากโครงการ ปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ หากยังสามารถครอบครองคอนโดไว้ได้ ลองเปลี่ยนมุมมองจาก “ภาระ” ให้เป็น “รายได้” โดยนำคอนโดไปปล่อยเช่า แล้วนำค่าเช่ามาจ่ายค่างวด ข้อดี มีรายได้ประจำมาช่วยผ่อน, คอนโดยังเป็นทรัพย์สินของคุณ ข้อเสีย ค่าเช่าอาจไม่ครอบคลุมค่างวด, ต้องดูแลผู้เช่า และมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา อย่าลืม รายได้จากค่าเช่าต้องยื่นภาษีด้วย (อ่านบทความ: คอนโดปล่อยเช่าต้องเสียภาษีไหม? ฝากแปะลิ้งค์นะคะ) คำแนะนำเพิ่มเติม ติดต่อธนาคาร หากเริ่มผ่อนลำบาก ลองขอปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร เช่น ขอพักชำระหนี้หรือขยายเวลาผ่อน เช็กเครดิตบูโร ดูสถานะหนี้ของคุณเพื่อวางแผนได้แม่นยำขึ้น ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น ตัวแทนนายหน้า หรือที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ สรุปส่งท้าย ผ่อนคอนโดไม่ไหว ต้องทำอย่างไร? ไม่ว่าจะเลือก ขายคอนโด, โอนสิทธิ์, หรือ ปล่อยเช่า ทุกทางเลือกมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับสถานะการเงินและเป้าหมายของคุณ การตัดสินใจอย่างมีข้อมูล และไม่ปล่อยให้ปัญหาลุกลาม จะช่วยให้คุณผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างมั่นคง สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

คอนโดปล่อยเช่าต้องเสียภาษีไหม สิ่งที่เจ้าของห้องต้องรู้ก่อนปล่อยเช่า
ในยุคที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กำลังได้รับความนิยม การปล่อยเช่าคอนโด ถือเป็นหนึ่งในช่องทางสร้างรายได้ที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่เจ้าของคอนโดหลายคน อาจยังไม่รู้หรือมองข้ามไป คือ “การเสียภาษีจากรายได้ค่าเช่า” ดังนั้น คำถามที่ตามมาคือ “คอนโดปล่อยเช่าต้องเสียภาษีไหม?” บทความนี้ Amber จะมาไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปล่อยเช่าคอนโดต้องเสียภาษีไหม? คำตอบคือ “ต้องเสีย” หากคุณมีรายได้จากการปล่อยเช่าคอนโด ถือเป็นรายได้ประเภทหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร ซึ่งจัดอยู่ใน “เงินได้ประเภทที่ 5” (รายได้จากทรัพย์สิน เช่น ค่าเช่า) ดังนั้น เจ้าของห้องเช่ามีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายได้และเสียภาษีอย่างถูกต้อง ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่าคอนโด ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากคุณปล่อยเช่าในนามบุคคลธรรมดา รายได้ค่าเช่าจะต้องนำไปรวมกับรายได้อื่นๆ เพื่อยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้ประจำปี (ภ.ง.ด.90/91) โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 30% แบบเหมาจ่าย ตัวอย่าง: รายได้ค่าเช่า: 100,000 บาท หักค่าใช้จ่าย 30% = 30,000 บาท รายได้สุทธิที่ต้องนำไปคำนวณภาษี = 70,000 บาท ภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีเข้าเงื่อนไข) หากคุณมีการปล่อยเช่าแบบมีลักษณะธุรกิจ เช่น ปล่อยเช่าหลายห้อง หลายโครงการ หรือมีการโฆษณาและบริการคล้ายโรงแรม อาจเข้าข่ายต้องเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตรา 3.3% ของรายได้ ซึ่งต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าตัวเองเข้าข่ายหรือไม่? ภาษีโรงเรือนและที่ดิน (เปลี่ยนเป็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา การเสียภาษีจากการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะต้องเสียตาม พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 โดยคอนโดที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ (เช่น ปล่อยเช่า) จะถูกจัดเก็บในอัตราที่สูงกว่าการอยู่อาศัยเอง ต้องทำอย่างไรเมื่อปล่อยเช่าคอนโด? เก็บเอกสารให้ครบถ้วน สัญญาเช่า ใบเสร็จรับเงิน หรือหลักฐานการโอนเงินค่าเช่า เอกสารแสดงรายได้ที่ได้รับ ยื่นภาษีประจำปี ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 ตามสถานะของคุณ ยื่นผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร หรือสำนักงานสรรพากรใกล้บ้าน ตรวจสอบสิทธิ์ลดหย่อน หากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่า เช่น ค่าซ่อมแซมห้อง อาจนำมาลดหย่อนได้ในบางกรณี (หากยื่นแบบหักค่าใช้จ่ายจริง) สรุปส่งท้าย ปล่อยเช่าคอนโดต้องเสียภาษีไหม คำตอบคือ “ต้องเสียภาษี” แน่นอน โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การปล่อยเช่าโดยไม่แจ้งรายได้ อาจเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบย้อนหลัง ดังนั้น หากคุณเป็นเจ้าของคอนโดที่ปล่อยเช่าอยู่ ควรจัดการด้านภาษีให้ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

เทคนิคเลือกชั้นคอนโดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ทำเลหรือราคาเท่านั้น แต่การ “เลือกชั้นคอนโด” ก็มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย หลายคนอาจมองข้ามจุดนี้ไป แต่ความจริงแล้วการเลือกชั้นคอนโดให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ สามารถช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และลดความรำคาญจากสิ่งรบกวนได้มาก บทความนี้ Amber จะพาคุณไปดูเทคนิคสำคัญในการเลือกชั้นคอนโดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ อยู่ชั้นต่ำ เหมาะกับคนที่เน้นความสะดวก หากคุณเป็นคนที่ต้องออกจากบ้านบ่อย หรือมีผู้สูงอายุในบ้าน การเลือกชั้นล่าง เช่น ชั้น 2-5 ถือว่าเหมาะสม เพราะเดินขึ้นลงได้ง่ายแม้ลิฟต์เสีย, เข้าถึงพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ได้สะดวก หรือขนของ ย้ายของเข้า-ออกได้ง่าย เหมาะกับ: คนทำงานนอกบ้านบ่อย ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ชอบความคล่องตัว ชั้นกลาง สมดุลทั้งวิวและความเป็นส่วนตัว ชั้นกลางของคอนโด เช่น ชั้น 6-15 เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะได้วิวที่ดีพอสมควรโดยไม่ต้องจ่ายราคาสูง, ห่างไกลจากเสียงรบกวนจากถนน, ความร้อนจากแสงแดดไม่จัดเกินไป เหมาะกับ: คนทำงานทั่วไปที่อยากมีสมดุลระหว่างราคา ความสะดวก และวิวที่ดี ชั้นสูง เหมาะกับคนรักวิวและความสงบ หากคุณให้ความสำคัญกับ “วิว” และความเป็นส่วนตัว การเลือกอยู่ชั้นสูง เช่น ชั้น 16 ขึ้นไป ถือว่าตอบโจทย์ ได้วิวเมืองแบบพาโนรามา, เสียงรบกวนจากถนนแทบไม่มี, เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ ข้อควรระวัง: อาจใช้เวลารอลิฟต์นาน และอาจร้อนในบางช่วงเวลา เหมาะกับ: ฟรีแลนซ์ คนทำงานที่บ้าน หรือผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศสงบ ชั้นหลีกเลี่ยง สิ่งที่ควรคำนึงก่อนตัดสินใจ ชั้นติดพื้นที่ส่วนกลาง (เช่น ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ): อาจมีเสียงดัง ชั้นที่อยู่ใต้ห้องเครื่องลิฟต์หรือดาดฟ้า: อาจมีเสียงรบกวน ชั้นที่อยู่เหนือจุดทิ้งขยะหรือห้องเก็บของ: อาจมีกลิ่นหรือคนเดินพลุกพล่าน สรุปส่งท้าย เลือกชั้นคอนโด อย่างไร? ให้เหมาะกับตัวคุณ การเลือกชั้นคอนโดไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันสามารถส่งผลต่อความสุขและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ดังนั้น จงใช้เวลาในการพิจารณาและวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์ของคุณให้ดี เพื่อจะได้อยู่ในคอนโดที่ตรงกับความต้องการจริงๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

คอนโดติดถนนใหญ่ vs ซอยลึก ข้อดีข้อเสีย
หากคุณกำลังมองหาคอนโดมิเนียมสักห้อง คำถามหนึ่งที่มักเกิดขึ้นคือ “เลือก คอนโดติดถนน vs ซอยลึก แบบไหนจะคุ้มกว่า?” เพราะทำเลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งการใช้ชีวิต การเดินทาง ความสะดวก และแม้กระทั่งราคาขายต่อในอนาคต บทความนี้ Amber จะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของคอนโดติดถนนใหญ่กับคอนโดในซอยลึก เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คอนโดติดถนนใหญ่ ทำเลทองที่สะดวก แต่เสียงดัง ข้อดี เดินทางสะดวก : ใกล้ป้ายรถเมล์ รถไฟฟ้า และมีทางเข้าออกชัดเจน ปลอดภัยมากกว่า : มีผู้คนสัญจรตลอดเวลา แสงสว่างเพียงพอ เหมาะแก่การลงทุนปล่อยเช่า : ต่างชาติมักนิยมเพราะเดินทางสะดวก ข้อเสีย เสียงดังจากรถยนต์ : โดยเฉพาะถนนหลักหรือถนนที่มีรถบรรทุก ราคาสูง : ราคาต่อตารางเมตรมักสูงกว่าคอนโดในซอย ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า : คนพลุกพล่าน เสียงจากภายนอกมาก คอนโดในซอยลึก เงียบสงบ ราคาดี แต่เดินทางต้องวางแผน ข้อดี ความเป็นส่วนตัวสูง : เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบ ราคาถูกกว่า : ได้พื้นที่มากขึ้นในราคาที่เท่ากัน สิ่งแวดล้อมดี : บางแห่งอยู่ในย่านชุมชนคุณภาพ มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า ข้อเสีย เดินทางไม่สะดวก : หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจไม่เหมาะ ความปลอดภัยบางซอยอาจน้อยกว่า : โดยเฉพาะตอนกลางคืน การเข้าถึงบริการสาธารณะอาจยากกว่า : เช่น ร้านค้า หรือรถไฟฟ้า แล้วแบบไหน “ดีกว่า”? ไม่มีคำตอบเดียวสำหรับทุกคน เพราะทุกคนมีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่ต่างกัน ถ้าคุณต้องเดินทางทุกวัน, ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือเน้นการลงทุน → คอนโดติดถนนใหญ่ คือ คำตอบ ถ้าคุณทำงานที่บ้าน ชอบความสงบ หรือมีรถส่วนตัวอยู่แล้ว → คอนโดในซอยลึก ก็อาจเหมาะกว่า สรุปส่งท้าย เลือก คอนโดติดถนน vs ซอยลึก แบบไหนจะคุ้มกว่า? ให้เลือกให้ตรงไลฟ์สไตล์มากกว่าความชอบชั่วคราว การเลือกคอนโดควรพิจารณาในภาพรวม ทั้งเรื่อง การเดินทาง ความปลอดภัย การใช้ชีวิตประจำวัน และศักยภาพในการขายต่อหรือปล่อยเช่าในอนาคต ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกคอนโดติดถนนใหญ่หรือคอนโดในซอย ควรเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

ควรซื้อคอนโดตอนโครงการ Pre-sale หรือสร้างเสร็จ
ควร ซื้อคอนโด Pre-sale หรือซื้อตอนโครงการสร้างเสร็จ? วันนี้ Amber จะพามาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้ตัดสินใจง่ายขึ้นกันค่ะ… ซื้อคอนโด Pre-sale คืออะไร? การซื้อคอนโดในช่วง Pre-sale คือ การจองหรือซื้อห้องชุดในโครงการที่ยังไม่เริ่มก่อสร้างหรือกำลังก่อสร้างอยู่ในระยะแรก โดยมักจะมีการเปิดให้จองล่วงหน้าพร้อมโปรโมชั่นแรง ราคาพิเศษ หรือของแถมมากมาย ข้อดีของการซื้อคอนโด Pre-sale ราคาถูกกว่าตลาด ได้ราคาต่อตารางเมตรที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับตอนสร้างเสร็จ เลือกตำแหน่งห้องได้ก่อน ชั้นสูง วิวดี หรือห้องมุมยังว่างอยู่ โปรโมชั่นเยอะ ฟรีค่าโอน เฟอร์นิเจอร์ครบ หรือส่วนลดพิเศษ ข้อเสียของการซื้อคอนโด Pre-sale ความเสี่ยงจากความล่าช้า โครงการอาจไม่เสร็จตามกำหนด เห็นแค่แบบจำลอง ไม่มีภาพจริงของห้องให้ตัดสินใจ โครงการอาจเปลี่ยนแปลง ทั้งวัสดุและรูปแบบอาจไม่เหมือนที่โฆษณาไว้ ซื้อคอนโดสร้างเสร็จดีกว่าไหม? การซื้อคอนโด สร้างเสร็จแล้ว หมายถึง คุณสามารถเดินเข้าไปดูห้องจริง โครงการจริง และทำการซื้อได้ทันที พร้อมเข้าอยู่หรือปล่อยเช่า ข้อดีของการซื้อคอนโดสร้างเสร็จ เห็นของจริงก่อนซื้อ ตรวจสอบวัสดุ พื้นที่ใช้สอย วิว ได้ทันที พร้อมเข้าอยู่ทันที เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่เลย ลดความเสี่ยงด้านโครงการ: ไม่ต้องลุ้นว่าจะเสร็จจริงไหม ข้อเสียของการซื้อคอนโดสร้างเสร็จ ราคาสูงกว่า Pre-sale: โดยเฉพาะโครงการที่ขายดีหรือทำเลทอง ตัวเลือกห้องน้อย ห้องดีๆ มักจะถูกจองไปแล้ว โปรโมชั่นน้อยลง ไม่มีของแถมหรือส่วนลดเท่า Pre-sale ซื้อคอนโดแบบไหนเหมาะกับคุณ? ถ้าคุณเป็น “นักลงทุน” : Pre-sale อาจเหมาะกว่า เพราะซื้อราคาต่ำแล้วขายต่อหรือปล่อยเช่าได้กำไรหลังโครงการเสร็จ แต่ถ้าคุณเป็น “ผู้ซื้ออยู่เอง” : คอนโดสร้างเสร็จจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะได้เห็นห้องจริง อยู่จริง และลดความเสี่ยง สรุปส่งท้าย ไม่ว่าจะซื้อคอนโด Pre-sale หรือ สร้างเสร็จ ล้วนมีข้อดีข้อเสียในตัวเอง สำคัญคือคุณต้องประเมินความต้องการของตัวเอง และเลือกให้ตรงกับจุดประสงค์ ทั้งด้านการลงทุน การอยู่อาศัย และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/

ทำไมคอนโดไทยจึงห้ามใช้เตาแก๊ส
ทำไมคอนโดไทยจึง ห้ามใช้เตาแก๊สในคอนโด เหตุผลที่ควรรู้ก่อนซื้อหรือเช่าคอนโด เตาแก๊สในคอนโด ปัญหาที่มากกว่าความสะดวก แม้เตาแก๊สจะเป็นตัวเลือกที่หลายคนคุ้นเคย โดยเฉพาะในบ้านหรือทาวน์เฮ้าส์ แต่ในคอนโดมิเนียมของไทยส่วนใหญ่มักจะ “ห้ามใช้เตาแก๊ส” อย่างชัดเจนในข้อบังคับอาคาร ทำให้หลายคนสงสัยว่าเหตุผลเบื้องหลังข้อห้ามนี้คืออะไร? เหตุผลหลักที่คอนโดไทยห้ามใช้เตาแก๊ส ความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เตาแก๊สมีความเสี่ยงสูงหากเกิดการรั่วไหล แม้จะติดตั้งอย่างถูกต้อง หากไม่มีระบบระบายอากาศเพียงพอ หรือมีการใช้งานผิดวิธี ก็สามารถทำให้เกิดระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้ง่าย ในคอนโดที่เป็นพื้นที่ปิดและมีจำนวนยูนิตอยู่รวมกันมาก ความเสี่ยงนี้จึงขยายวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว กฎหมายและข้อกำหนดของนิติบุคคล หลายโครงการคอนโดในไทยมีกฎระเบียบชัดเจนห้ามใช้เตาแก๊ส โดยอ้างอิงตามกฎหมายอาคารหรือข้อบังคับนิติบุคคลคอนโดมิเนียม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยส่วนรวม ตัวอย่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และข้อบัญญัติท้องถิ่นเรื่องการใช้พลังงานและอุปกรณ์ในอาคารสูง โครงสร้างอาคารไม่รองรับ คอนโดส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบระบบท่อแก๊สส่วนกลาง หรือมีการติดตั้งระบบระบายอากาศสำหรับห้องครัวที่รองรับการใช้เตาแก๊สโดยตรง การปรับปรุงเพื่อให้สามารถใช้เตาแก๊สได้อาจต้องใช้งบประมาณสูงและเสี่ยงต่อโครงสร้าง ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า คอนโดส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้เตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า (induction) เพราะปลอดภัยกว่าและไม่สร้างมลพิษทางอากาศภายในห้อง ปัจจุบันเทคโนโลยีของเตาเหล่านี้ก็สามารถทำอาหารได้เทียบเท่าหรือดีกว่าเตาแก๊สในบางกรณี แล้วถ้าอยากใช้เตาแก๊สในคอนโด ต้องทำอย่างไร? หากคุณยังต้องการใช้เตาแก๊สในคอนโด คุณควรตรวจสอบ ข้อบังคับนิติบุคคลของคอนโดว่าห้ามหรือไม่ ระบบระบายอากาศภายในห้องครัว การติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ขออนุญาตจากนิติบุคคลล่วงหน้า แต่โดยทั่วไป การขออนุญาตใช้เตาแก๊สในคอนโดจะถูกปฏิเสธในเกือบทุกกรณี สรุปส่งท้าย เตาแก๊สกับคอนโดไม่ใช่คู่ที่เหมาะกัน มี ข้อจำกัดของการใช้เตาแก๊สในคอนโดไม่ได้เกิดจากความเข้มงวดเกินเหตุ แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยและความเหมาะสมกับโครงสร้างอาคาร หากคุณกำลังจะซื้อหรือเช่าคอนโด การรู้ว่า… ห้ามใช้เตาแก๊สในคอนโด หรือไม่ควรใช้ถือเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจด้วยนะคะ สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

ทำไมต้องรู้จักผังเมืองก่อนซื้อคอนโด?
ทำไมต้องรู้จัก ผังเมืองก่อนซื้อคอนโด การซื้อคอนโดมิเนียมไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุน สิ่งหนึ่งที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักมองข้ามคือ “ผังเมืองรวม” หรือแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบทั้งในแง่ของมูลค่าอสังหาฯ การพัฒนาในอนาคต ไปจนถึงคุณภาพชีวิตโดยรอบ ในบทความนี้ Amber จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า ทำไมการรู้จักผังเมืองก่อนซื้อคอนโดจึงเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างไร? ผังเมืองคืออะไร? “ผังเมืองรวม” คือ แผนแม่บทที่ภาครัฐกำหนดขึ้น เพื่อควบคุมการใช้ที่ดินในพื้นที่ต่างๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น พื้นที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม พื้นที่สีเขียว ฯลฯ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบในการพัฒนาเมือง และลดความขัดแย้งในการใช้ที่ดิน ผังเมืองส่งผลต่อการเติบโตของมูลค่าอสังหาฯ ทำเลที่อยู่ใน โซนพัฒนาใหม่ เช่น พื้นที่สีแดง (พาณิชยกรรม) หรือ พื้นที่สีน้ำตาล (อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) มักจะมีแนวโน้มมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต จากการพัฒนาของภาคเอกชน เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือโครงการขนาดใหญ่ หากคุณซื้อคอนโดในพื้นที่ที่ “มีศักยภาพการพัฒนา” ตามผังเมือง มูลค่าทรัพย์สินของคุณมีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะยาว หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสิ่งปลูกสร้างไม่พึงประสงค์ หากไม่ศึกษาผังเมืองก่อนซื้อคอนโด คุณอาจพบว่า… ในอนาคต มีการสร้างโรงงาน, อาคารสูงบังวิว, หรือแม้แต่ถนนสายหลักที่ตัดผ่านหลังบ้าน ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง หรือมูลค่าคอนโดลดฮวบได้ในพริบตา ช่วยประเมินความเหมาะสมในการลงทุนระยะยาว หากคุณวางแผนปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต การรู้ว่า… ทำเลนั้นมีข้อจำกัดด้านผังเมืองหรือไม่? จะช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำขึ้น เช่น โครงการอยู่ในพื้นที่สีเขียว ห้ามสร้างอาคารสูง → โอกาสที่ย่านจะพัฒนาได้น้อย อยู่ใกล้พื้นที่สีม่วง (อุตสาหกรรม) → อาจมีมลพิษหรือเสียงรบกวน → คนเช่าไม่ต้องการ เข้าใจทิศทางการพัฒนาเมือง การรู้ว่าผังเมืองฉบับปัจจุบันหรือผังเมืองใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะช่วยให้คุณ “มองเกมขาด” ก่อนคนอื่น เช่น พื้นที่เดิมเป็นสีเหลือง (อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) แต่กำลังเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล → โอกาสพัฒนาเชิงพาณิชย์กำลังมา รัฐกำหนดแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ → มูลค่าอสังหาฯ รอบแนวเส้นทางมีแนวโน้มพุ่งขึ้น สรุปส่งท้าย ผังเมือง = แผนที่อนาคตของทำเล ผังเมืองไม่ใช่เรื่องของนักวางผังหรือวิศวกรเท่านั้น! แต่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัย หากคุณศึกษาและรู้จัก ผังเมืองก่อนซื้อคอนโด อย่างถูกต้อง คุณจะสามารถเลือกคอนโดที่เหมาะสมกับเป้าหมาย และลดความเสี่ยงจากการลงทุนผิดจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

เคล็ดลับเลือก คอนโดเพื่อการลงทุน ในกรุงเทพฯ
การลงทุนในคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีแนวโน้มผลตอบแทนที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่าระยะยาวหรือระยะสั้น แต่การจะเลือกคอนโดให้เหมาะสมสำหรับการลงทุน จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน บทความนี้ Amber จึงสรุป 5 เคล็ดลับเลือก คอนโดเพื่อการลงทุน ในกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรมองข้าม เลือกทำเลศักยภาพ – ใกล้รถไฟฟ้าและแหล่งงาน ทำเล ถือเป็นปัจจัยอันดับหนึ่งที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการลงทุนคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ควรเลือกทำเลที่อยู่ใกล้ BTS, MRT หรือระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ รวมถึงแหล่งงาน ศูนย์กลางธุรกิจ หรือมหาวิทยาลัย เพราะสามารถเพิ่มความต้องการเช่าได้สูง ตัวอย่างทำเลยอดนิยม: สุขุมวิท, พระราม 9, สาทร, พหลโยธิน, รัชดาภิเษก และอารีย์ ศึกษาแนวโน้มตลาดและราคาคอนโดในพื้นที่นั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรเช็กข้อมูลราคาขายและราคาเช่าในพื้นที่ที่สนใจว่าเป็นอย่างไรบ้าง เช่น ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร อัตราค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน อัตราการเติบโตของราคาในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้ช่วยประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน และคาดการณ์ผลตอบแทนได้แม่นยำยิ่งขึ้น เลือกโครงการที่มีชื่อเสียงและระบบบริหารจัดการดี โครงการจากผู้พัฒนาชั้นนำมักมีคุณภาพการก่อสร้างที่ดี มีความน่าเชื่อถือ และสามารถสร้างความมั่นใจให้ผู้เช่าในอนาคตได้ อีกทั้งยังมักมีทีมบริหารจัดการนิติบุคคลและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ช่วยเพิ่มมูลค่าในการปล่อยเช่า พิจารณาสัดส่วนยูนิตและประเภทห้อง เลือกยูนิตที่มีความต้องการเช่าสูง เช่น ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25–35 ตร.ม. ที่เหมาะกับกลุ่มพนักงานหรือคู่รักวัยทำงาน และควรเลือกชั้นกลางๆ วิวดี ไม่ใกล้ลิฟต์หรือห้องขยะมากเกินไป เพื่อให้ขายต่อหรือปล่อยเช่าได้ง่าย คำนวณผลตอบแทน (Yield) และต้นทุนอย่างรอบคอบ ก่อนลงทุนควรคำนวณผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) และพิจารณาต้นทุนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ค่าผ่อนธนาคารรายเดือน ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา ภาษีหรือค่าใช้จ่ายการโอนกรรมสิทธิ์ โดยทั่วไป ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดในกรุงเทพฯ ที่น่าลงทุนควรอยู่ที่ 5–7% ต่อปี สรุปส่งท้าย การเลือก คอนโดเพื่อการลงทุน ในกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่คือการวางแผนทางการเงินระยะยาว ดังนั้น ควรพิจารณาทั้งทำเล โครงการ ประเภทห้อง และศักยภาพในการเติบโตอย่างรอบคอบ เพื่อให้คุณได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดในอนาคต สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

คำนวณ Yield จากการปล่อยเช่าคอนโด
Yield คืออะไร? และ Yield จากการปล่อยเช่าคอนโด คืออะไร? ทำไมคนลงทุนคอนโดต้องรู้!! สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มือใหม่ หรือแม้แต่คนที่กำลังคิดจะ ปล่อยเช่าคอนโด หนึ่งในคำศัพท์สำคัญที่ควรรู้คือ “Yield” หรือ “Rental Yield” ซึ่งหมายถึง อัตราผลตอบแทนจากการให้เช่า ช่วยให้คุณประเมินได้ว่าคอนโดที่คุณถืออยู่หรือกำลังจะซื้อนั้น “คุ้มค่าหรือไม่” ในแง่ของรายได้จากค่าเช่า วิธีคำนวณ Yield จากการปล่อยเช่าคอนโด การคำนวณ Yield มีอยู่ 2 รูปแบบหลัก คือ Gross Yield (ผลตอบแทนขั้นต้น) และ Net Yield (ผลตอบแทนสุทธิ) Gross Yield (ผลตอบแทนขั้นต้น) สูตรการคำนวณ: Gross Yield (%) = (ค่าเช่าต่อปี ÷ ราคาคอนโด) × 100 ตัวอย่าง: ราคาคอนโด = 2,000,000 บาท ค่าเช่าต่อเดือน = 10,000 บาท → รายได้ต่อปี = 120,000 บาท Gross Yield = (120,000 ÷ 2,000,000) × 100 = 6% เท่ากับว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต้นจะอยู่ที่ 6% ต่อปี Net Yield (ผลตอบแทนสุทธิ) Net Yield จะหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกก่อน เช่น ค่าส่วนกลาง ภาษี ประกัน และค่าบำรุงรักษา สูตรการคำนวณ: Net Yield (%) = [(ค่าเช่ารายปี – ค่าใช้จ่ายต่อปี) ÷ ราคาคอนโด] × 100 ตัวอย่าง: รายได้ค่าเช่าต่อปี = 120,000 บาท ค่าใช้จ่ายรวมต่อปี = 20,000 บาท ราคาคอนโด = 2,000,000 บาท Net Yield = [(120,000 – 20,000) ÷ 2,000,000] × 100 = 5% เท่ากับว่าอัตราผลตอบแทนสุทธิจะอยู่ที่ 5% ต่อปี แล้ว Yield เท่าไร… จึงเรียกว่าคุ้ม? โดยทั่วไป Yield ต่ำกว่า 4% → ถือว่าต่ำ อาจไม่คุ้มค่าการลงทุน Yield 4% – 6% → อยู่ในระดับปานกลาง น่าสนใจหากมีการเติบโตของราคาทรัพย์ในอนาคต Yield 6% ขึ้นไป → ถือว่าดีมาก เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นรายได้ประจำ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ทำเล, ความต้องการเช่า, แนวโน้มราคาทรัพย์สินในอนาคต ฯลฯ เคล็ดลับเพิ่ม Yield จากการปล่อยเช่าคอนโด เลือกทำเลที่มีดีมานด์สูง ใกล้ BTS, MRT, มหาวิทยาลัย หรือออฟฟิศ ตกแต่งห้องให้พร้อมอยู่ เพิ่มมูลค่าได้ง่าย และตั้งค่าเช่าสูงขึ้นได้ บริหารค่าใช้จ่ายให้คุ้มค่า ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เช่น เลือกประกันที่เหมาะสม ตั้งราคาค่าเช่าให้เหมาะสมกับตลาด วิเคราะห์คู่แข่งในพื้นที่ใกล้เคียง สรุปส่งท้าย การคำนวณ Yield สำคัญต่อการลงทุนคอนโดอย่างไร? การ คำนวณ Yield จากการปล่อยเช่าคอนโด ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าทรัพย์ที่คุณถืออยู่นั้นสร้างผลตอบแทนเพียงพอหรือไม่ ทั้งในแง่ของรายได้ประจำและมูลค่าในอนาคต หากเข้าใจและวิเคราะห์อย่างถูกต้อง การลงทุนคอนโดก็สามารถสร้างรายได้แบบมั่นคงและยั่งยืนได้ไม่ยากนั่นเองค่ะ… สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ

เคล็ดลับตก แต่งคอนโดให้ดูแพง ในงบประมาณจำกัด
อยาก แต่งคอนโดให้ดูแพง แต่มีงบจำกัด ทำอย่างไรดี? หลายคนอยากมีคอนโดที่ดูดี มีสไตล์เหมือนใน Pinterest หรือนิตยสาร แต่งบประมาณที่จำกัดอาจเป็นอุปสรรคใหญ่ จริงๆ แล้ว การตกแต่งคอนโดให้ดูแพงไม่จำเป็นต้องใช้งบมหาศาลเสมอไป หากรู้เคล็ดลับและเทคนิคที่เหมาะสม คุณสามารถเปลี่ยนพื้นที่เล็กๆ ให้กลายเป็นมุมโปรดที่ดูดีมีระดับได้แบบไม่เปลืองงบเลย เลือกใช้โทนสีที่ดูแพง เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเลือกโทนสีให้ห้อง เช่น สีขาว ครีม เทา หรือสีเอิร์ธโทน ที่ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่ง โล่ง และหรูหรา สีเหล่านี้ยังเข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ ทำให้ดูแพงแบบเรียบง่าย (Minimal Luxury) ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชัน เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ได้หลายฟังก์ชัน เช่น เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของ หรือโซฟาที่ปรับเป็นเตียงได้ เพื่อประหยัดพื้นที่และงบประมาณ พร้อมทั้งดูมีดีไซน์ในตัว แต่งห้องด้วยกระจก กระจกไม่เพียงช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ยังสะท้อนแสงธรรมชาติให้ห้องดูสว่างขึ้นอีกด้วย แนะนำให้ติดกระจกแบบกรอบเรียบหรือดีไซน์หรูเล็กน้อย ช่วยยกระดับห้องได้ทันที เพิ่มความหรูด้วยของตกแต่งเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อของตกแต่งแพงๆ แค่เลือกของที่ดูมีดีไซน์ เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะ แจกันสีทอง เฟรมรูปสไตล์มินิมอล หรือพรมพื้นเรียบหรู ก็สามารถสร้างบรรยากาศให้ห้องดูหรูหราได้ เลือกผ้าม่านและผ้าปูที่นอนแบบมีเท็กซ์เจอร์ ผ้าม่านยาวจากเพดานถึงพื้นหรือผ้าที่มีเท็กซ์เจอร์ เช่น ลินิน หรือกำมะหยี่ จะทำให้ห้องดูมีเลเยอร์และความลึกมากขึ้น ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราได้อย่างเห็นผล ใช้แสงไฟให้เป็น แสงมีผลอย่างมากต่อบรรยากาศในห้อง เปลี่ยนจากหลอดไฟสีขาวเป็นไฟวอร์มไลท์หรือเพิ่มโคมไฟตั้งพื้น/ตั้งโต๊ะ ช่วยให้ห้องดูอบอุ่นและมีสไตล์ยิ่งขึ้น ตกแต่งผนังให้ดูมีชีวิต คุณสามารถติดวอลเปเปอร์ลายหินอ่อน หรือตกแต่งด้วยงานศิลป์ DIY ง่ายๆ เช่น กรอบรูป ข้อความเท่ๆ หรือภาพถ่ายขาวดำ ก็ช่วยให้ผนังดูมีมิติมากขึ้น สรุปส่งท้าย แต่งคอนโดให้ดูแพง ไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะ หากคุณมีไอเดียดีๆ และรู้จักเลือกใช้ของตกแต่งอย่างชาญฉลาด การ แต่งคอนโดให้ดูแพงในงบประมาณจำกัด ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ลองนำเคล็ดลับ ที่ Amber มาแชร์ไปปรับใช้ รับรองว่าคอนโดของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างน่าเห็นได้ชัดแน่นอนค่ะ… สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อยู่ Amber International Realty ช่วยคุณได้ได้รับการรับรองจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แห่งประเทศไทย ได้รับรางวัล Agency Excellence Southeast Asia Awards 2023 จาก Dot Property ให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service >>> บริการซื้อ ขาย เช่า คอนโด >>> บริการฝากขาย ฝากเช่า คอนโด >>> บริการบริหารและจัดการคอนโด LINE@ : https://lin.ee/KOsTUWR Tel : 089-986-0202 Youtube : @amberrealty Tiktok : https://www.tiktok.com/@amberrealty เลือกดูโครงการที่ชอบ: https://amber-international.com/projects/ #ซื้อขายคอนโดกรุงเทพ #ซื้อคอนโด #ขายคอนโด #เช่าคอนโดกรุงเทพ #ลงทุนคอนโด #คอนโดกรุงเทพ